PLANB - ซื้อ

PLANB - ซื้อ

กำไรไตรมาส 3/59 เป็นไปตามคาด; ราคาหุ้นสะท้อนความคาดหวังไตรมาสหน้าที่อ่อนตัวไปแล้ว

เป็นไปตามคาด

PLANB รายงานกำไรสุทธิและกำไรหลักไตรมาส 3/59 ที่ 125 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% YoY และ 12% QoQ ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาด

ประเด็นหลักผลประกอบการ

ปัจจัยที่ส่งผลให้กำไรหลักเติบโตมีดังนี้ 1) อัตราการเช่าใช้สื่อโฆษณาที่เพิ่มขึ้นของสื่อที่มีอยู่จากการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณา, 2) การรับรู้รายได้จากการเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส3/59 (โครงการแพลนบี ทีวี ทั่วประเทศ), 3) ค่าบริหารจากการเป็นตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และบริษัท พรีเมียร์ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด ที่ 2.5 ล้านบาท

รายได้ไตรมาส 3/59 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 14% YoY และ 7% QoQ ซึ่งได้แรงหนุนจากกำลังการผลิตที่ขยายตัวของสื่อดิจิตอลและสื่อโฆษณาในห้างสรรพสินค้ารวมถึงค่าบริหารจากการเป็นตัวแทนบริหารสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย และบริษัท พรีเมียร์ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด อัตราการเช่าใช้สื่อโฆษณารวมปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 60.3% จาก 73.2% ในไตรมาส 3/58 เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มให้บริการของสื่อใหม่ อย่างไรก็ตามอัตราการเช่าใช้สื่อโฆษณารวมปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 58.8% ในไตรมาส 2/59 ซึ่งได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของเม็ดเงินโฆษณา ในขณะที่อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 37.2% จาก 36.1% ในไตรมาส 3/58 และ 34% ในไตรมาส 2/59 ซึ่งหนุนโดยอัตราการเช่าใช้สื่อโฆษณารวมที่สูงขึ้นและการควบต้นทุนที่ดี อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารขยายตัวทั้ง YoY และ QoQ — สัดส่วนค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อยอดขายปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 15.1% จาก 12.4% ในไตรมาส 3/58 และ 14.2% ในไตรมาส 2/59 เนื่องจากการรวมงบการเงินของบริษัทย่อยแห่งใหม่จากการควบรวมกิจการและค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโครงการ ESOP และ ESOP วอร์แรนต์

แนวโน้ม

เราคาดกำไรไตรมาส 4/59ของ PLANB จะอ่อนตัวลงทั้ง YoY และ QoQ จากเม็ดเงินโฆษณาที่ชะลอตัวลง โดยเฉพาะสื่อดิจิตอลในช่วงระหว่างการไว้อาลัย 30 วัน อย่างไรก็ตาม คาดว่าเม็ดเงินโฆษณาสำหรับสื่อประเภทดิจิตอลจะค่อยๆปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ช่วงครึ่งหลังของเดือน พ.ย.เป็นต้นไป

สิ่งที่เปลี่ยนแปลง

เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 2559 ลง 19% มาอยู่ที่ 344 ล้านบาท เพื่อสะท้อนการปรับลดรายได้ของสื่อดิจิตอล

คำแนะนำ

ในมุมมองของเรา ราคาหุ้นในปัจจุบันที่ปรับตัวได้แย่กว่ากลุ่มได้สะท้อนถึงความคาดหวังของกำไรที่อ่อนตัวในไตรมาส 4/59 ไปแล้ว อย่างไรก็ตามเราคาดว่า PLANB จะมีการเติบโตของกำไรหลักแข็งแกร่งที่อัตรการเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีที่ 35% ในระหว่างปี 2559-2561 เทียบกับอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปีของตลาดที่ 8% ซึ่งได้แรงหนุนจากอัตราการเช่าใช้สื่อโฆษณาที่เพิ่มขึ้นของสื่อที่มีอยู่และสื่อใหม่ในมือน่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาหุ้นต่อไปได้ โดยในปัจจุบันหุ้นซื้อขายอยู่ในระดับ PEG ณ สิ้นปี 2560 ที่ 0.9 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มสื่อไทยที่ 2.4 เท่า นอกจากนี้ยังมีอัพไซต์ต่อประมาณการกำไรระยะยาวจากการลงทุนและการเข้าซื้อกิจการในอนาคต จากการที่ PLANB ไม่มีหนี้สินในปัจจุบันซึ่งจะหนุนให้บริษัทมีศักยภาพในการเติบโตในอนาคตได้