นอภ.พญาเม็งราย ยันสวนกล้วยไม่มีสารเคมีอันตราย

นอภ.พญาเม็งราย ยันสวนกล้วยไม่มีสารเคมีอันตราย

โต้ข่าวร้อน! นายอำเภอพญาเม็งราย ยืนยันสวนกล้วยดำเนินการภายใต้กฎหมาย ไม่มีสารเคมีอันตราย

หลังจากที่รัฐบาลลาวได้สั่งห้หยุดการทำสวนกล้วย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทางรัฐบาลได้พบว่ากลุ่มนักลงทุนได้ร่วมกับทางการท้องถิ่น นำเข้าสารเคมีอันตรายเข้ามาใช้ในภาคเกษตร โดยเฉพมะการปลูกกล้วยหอมภายในประเทศ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งมนุษย์และสัตว์ พร้อมกับทำลายสภาพแวดล้อม โดยสื่อของทางการ ส.ป.ป.ลาว ได้รายงานเมื่อวันที่ 6 พ.ย. โดยมีข้อความว่า "ລັດຖະບານສັ່ງຢຸດຕິການປູກກ້ວຍ ພາຍຫລັງພົບວ່າມີນັກລົງທຶນຕ່າງປະເທດ ຮ່ວມມືກັບບາງອໍານາດການປົກຄອງທ້ອງຖິ່ນນໍາເອົາສານເຄມີ ອັນຕະລາຍເຂົ້າມານໍາໃຊ້ຊະຊາຍໃນ ສປປ ລາວ ເຊິ່ງຈະສົ່ງຜົນກະທົບຕໍ່ຄົນ,ສັດ ແລະ ດິນປູກຝັງໄລຍະຍາວ" (รัฐบาลสั่งยุติการปลูกกล้วย ภายหลังพบว่ามี นักลงทุนต่างประเทศ ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นบางคน สำเข้าสารเคมีอันตะราย นำเข้ามาใช้ภายในประเทศ ส่งผลกระทบต่อมนุษย์และสัตว์ในระยะยาว ) ข้อความจาก สำนักข่าวสารปะเทดลาว

อย่างไรก็ตามสื่อของส.ป.ป.ลาว ไม่ได้เจาะจงว่าเป็นอำนาจการปกครองท้องถิ่นใด โดยในเบื้องต้นทาง สภาแห่งชาติขอให้รัฐบาลตรวจสอบปัญหาดักล่าวอย่างละเอียด กำหนดอย่างชัดเจนเกี่ยวกับชนิดของสารเคมี ที่ห้ามใช้และห้ามนำเข้า ต้องเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร พร้อมกับทบทวน สัญญาที่เกี่ยวข้องกับโครงการลงทุน ก่อนหน้านี้ เพื่อแก้ไขผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม การปนเปื้อนทั้งกลิ่น น้ำและอากาศเน่าเสีย ซึ่งการเคลื่อนไหวต่อนักลงทุนใจ ของ ส.ป.ป.ลาว เป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยพบมาก่อน

สำหรับในประเทศไทย โดยเฉพาะที่ อ.พญาเม็งราย จ.เชียงราย ซึ่งเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ได้มีชาวบ้านทั้ง อ.พญาเม็งราย และอ.ขุนตาล ได้เคลื่อนไหว คัดค้านการปลูกกล้วยหอมของนายทุนจีน หลังจากส่งผล

กระทบทั้งการแย่งน้ำชาวบ้านในการทำการเกษตร และได้รับผลกระทบจากการใช้สารเคมี โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบในพื้นที่ได้ลงพื้นที่ ติดตามและแก้ไขปัญหาไปแล้วนั้น ล่าสุดทาง อ.พญาเม็งรายซึ่งเป็นพื้นที่ปลูกกล้วยส่วนใหญ่กว่า 2,000 ไร่ ยังไม่มีความเคลื่อนไหวแต่อย่างไร

ด้านนายนายภูเบศร์ จูละยานนท์ นายอำเภอพญาเม็งราย จ.เชียงราย กล่าวว่า ในพื้นที่ สวนกล้วยของบริษัท หงต๋า อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด ที่ได้มีการลงทุนปลูกกล้วยหอมแบบครบวงจร เพื่อส่งออกไปยังประเทศจีน โดยมีการลงทุนร่วมกับทางนักลงทุนของไทยและจีน พบว่ามีการดำเนินการอยู่ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการนำแพทย์ และเจ้าหน้าที่จากสาธารณสุขจังหวัดเชียงราย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบการดำเนินการ พร้อมทั้งมีการเจาะเลือดตรวจหาสารเคมี ในเลือดของคนงานภายในสวนกล้วย และได้ตรวจสอบสารเคมีที่ใช้ในการผลิต ซึ่งก็พบว่าไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม

"สำหรับการนำเข้าสารเคมี ที่ใช้ในการปลูกกล้วยหอมภายในบริษัท หงต๋า อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด นั้นทางเจ้าหน้าที่ได้มีการตรวจสอบและมีการขออนุญาตถูกต้อง ตามกฎหมาย ซึ่งอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ โดยการตรวจเลือดของคนงานไม่พบสารเคมีแต่อย่างใด"นายอำเภอพญาเม็งราย กล่าว