วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 7 พฤศจิกายน 2559

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน 7 พฤศจิกายน 2559

ราคาน้ำมันดิบลด หลังซาอุดิอาระเบียอาจเพิ่มกำลังการผลิต หากอิหร่านไม่ร่วมมือ

- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อเนื่อง หลังแหล่งข่าวในโอเปคเปิดเผยว่า ซาอุดิอาระเบียกล่าวว่าจะเพิ่มกำลังผลิตสู่ระดับ 11-12 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากระดับ 10.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปัจจุบัน เพื่อฉุดราคาน้ำมันให้ลดต่ำลง และจะถอนตัวในการเข้าร่วมประชุมในวันที่ 30 พ.ย. หากอิหร่านไม่ให้ความร่วมมือในการปรับลดกำลังการผลิตลง ส่งผลให้ตลาดเกิดความกังวลว่ากลุ่มโอเปคอาจจะไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการลดกำลังการผลิตลงได้ในการประชุมวันที่ 30 พ.ย.

- ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ที่ปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 14.4 ล้านบาร์เรล ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำมันดิบต่อเนื่อง ขณะที่ Baker Hughes เองก็รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 4 พ.ย. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9 แท่น มาสู่ระดับ 450 แท่น แตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ก.พ. อย่างไรก็ตาม ยังคงอยู่ระดับต่ำกว่าช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า ที่ระดับ 572 แท่น

- นักวิเคราะห์เผยว่า ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ระหว่าง Hillary Clinton (พรรค Democrat) และ Donald Trump (พรรค Republican) ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ลดความเชื่อมั่นต่อการลงทุนในตลาดล่วงหน้า หลังผลสำรวจคะแนนนิยมของทั้งคู่อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกันมาก

+ บริษัท Colonial Pipeline ประกาศเลื่อนการเปิดดำเนินการขนส่งของท่อขนส่ง Colonial Line1 ซึ่งขนส่งน้ำมันเบนซินจากบริเวณอ่าวเม็กซิโกขึ้นไปยังอ่าวนครนิวยอร์ค ไปอีก 1 วัน เป็นวันที่ 6 พ.ย. แทน ส่งผลให้มีความเป็นไปได้ที่อุปทานน้ำมันสำเร็จรูปจะยังคงตึงตัวต่อเนื่อง และส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังมีการปิดซ่อมท่อขนส่งน้ำมัน US Colonial Pipeline ในสหรัฐ ประกอบกลับโรงกลั่นในประเทศอินเดียมีแผนที่จะปิดซ่อมบำรุงในเดือนนี้ นอกจากนี้ ราคาน้ำมันเบนซินยังได้รับแรงหนุนจากอุปสงค์เพิ่มเติมจากประเทศอินโดนีเซีย

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีแรงซื้อจากประเทศศรีลังกาเข้ามาในตลาด อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดีเซลยังคงได้รับแรงกดดันจากสต็อกน้ำมันดีเซลในประเทศสิงคโปร์ที่ปรับตัวสูงขึ้นร้อยละ 5.3 เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้

        ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 43-48 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

         ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 44-49 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

- ตลาดยังมีความกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงของกลุ่มโอเปคที่กำหนดเพดานการผลิตไว้ที่ 32.5 – 33.0 ล้านบาร์เรล เนื่องจากยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน หลังกลุ่มโอเปคไม่สามารถตกลงเกี่ยวกับรายละเอียดของมาตรการลดกำลังการผลิตในการประชุมวันที่ 28 – 29 ต.ค. ประกอบกับ อุปทานจากลิเบีย และ ไนจีเรียที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นอกจากนี้ ประเทศนอกกลุ่มโอเปค เช่น บราซิล และ คาซัคสถาน ยังมีแผนเพิ่มปริมาณการผลิตขึ้นอีกในอนาคต โดยกลุ่มโอเปคจะมีการประชุมอีกครั้งในวันที่ 30 พ.ย. นี้

- ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตกลุ่มโอเปคคาดการณ์โดยสำนักข่าว Reuters มีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ระดับ 33.83 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ต.ค. จากระดับ 33.69 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.ย. โดยเพิ่มขึ้นจากไนจีเรีย ลิเบีย และ อิรัก ส่งผลให้ตลาดมีความกังวลมากขึ้นว่าข้อตกลงของผู้ผลิตกลุ่มโอเปคจะไม่ประสบความสำเร็จ

                                                        -----------------------------------------------------

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-797-2999