ปลูกสตรอเบอรี่สายพันธุ์พระราชทาน 6 ไร่ หวังเป็นแหล่งเรียนรู้

รศ.ดร.นิพนธ์ วงศ์วิเศษสิริกุล อดีตข้าราชการครูเกษียณ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหารลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่จ.บุรีรัมย์ ได้นำสตรอเบอรี่สายพันธุ์พระราชทาน 80 จากโครงการหลวง จ.เชียงใหม่ จำนวนกว่า 60,000 ต้น มาปลูกบนเนื้อที่ 6 ไร่บริเวณริมถนนสายเลี่ยงเมืองบุรีรัมย์ – สุรินทร์ ต.เสม็ด อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ พร้อมทั้งได้ปรับพื้นที่โดยรอบให้สวยงาม และวางแผนจะปลูกดอกดาวเรือง และเมล่อน เพิ่มเติมอีก เพื่อหวังให้เป็นแหล่งเรียนรู้และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ของจ.บุรีรัมย์ เพราะหลายคนมองว่าสตรอเบอรี่ไม่สามารถนำมาปลูกในพื้นที่ภาคอีสานซึ่งมีความแห้งแล้งได้  แต่ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงให้ทำการคิดค้นพัฒนาสายพันธุ์สตรอเบอรี่

ให้สามารถปลูกในประเทศไทยหรือพื้นที่ที่มีอากาศร้อนหรือความแห้งแล้งได้ จึงทดลองนำมาปลูกเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้และสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ของจ.บุรีรัมย์บ้านเกิด โดยจะเปิดให้ประชาชน นักท่องเที่ยว หรือผู้ที่สนใจได้เข้าชมศึกษาเรียนรู้ฟรี ซึ่งหลังจากเริ่มปลูกได้ประมาณ 2 เดือนเศษ บางต้นก็เริ่มออกผลผลิตทำให้มีประชาชน นักท่องเที่ยว และผู้ที่สัญจรผ่านไปมา แวะเวียนมาศึกษาวิธีปลูก พร้อมเที่ยวชมและถ่ายรูปเป็นที่ระลึกอย่างต่อเนื่อง

สำหรับไร่สตรอเบอรี่ที่นำมาทดลองปลูกนั้นจะใช้น้ำจากคลองธรรมชาติและสระที่ขุดสระไว้ ติดตั้งระบบน้ำหยด และสปริงเกอร์ ฉีดพรมหล่อเลี้ยง ทั้งใช้ใบตองกุง แกลบปิดคลุมรักษาความชุ่มชื้น ทั้งใช้ปุ๋ยชีวภาพในการบำรุงโดยไม่ใช้สารเคมี ใช้เวลาปลูกประมาณ 2 เดือนเศษก็สามารถเก็บผลผลิตได้ ซึ่งสตรอเบอรี่สายพันธุ์พระราชทาน 80 จะมีรสชาติหวาน กรอบ อร่อยต่างจากสตรอเบอรี่ทั่วไป  

 รศ.ดร.นิพนธ์ วงศ์วิเศษสิริกุล อดีตข้าราชการครูเกษียณ กล่าวว่า หากไม่มีพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปริมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ก็คงไม่สามารถนำสตรอเบอรี่มาปลูกในเมืองไทยได้ เพราะสตรอเบอรี่เป็นผลไม้เมืองหนาว ส่วนสาเหตุที่เลือกนำมาปลูกที่บุรีรัมย์เพราะอยากให้เป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับชาวบ้าน เกษตรกรที่สนใจได้มาศึกษาวิธีการปลูก เพื่อนำไปปลูกสร้างรายได้เสริม ทั้งอยากให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งใหม่ของจ.บุรีรัมย์ ด้วย ทั้งนี้ยังมีแผนจะปลูกดอกดาวเรือง และเมล่อนด้วย