ตลาดโลกกดดันราคาข้าว ผลผลิตเพิ่ม2.4%-สต็อกขยับ4.3%

ตลาดโลกกดดันราคาข้าว ผลผลิตเพิ่ม2.4%-สต็อกขยับ4.3%

การประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีการประเมินสถานการณ์ราคาข้าว หลังจากราคาตกต่ำในรอบหลายปี

การประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว (นบข.) มีการประเมินสถานการณ์ราคาข้าว หลังจากราคาตกต่ำในรอบหลายปี

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ระบุว่านบข.ได้รับทราบสถานการณ์ข้าวของโลกในปีนี้ที่ส่งผลต่อราคาข้าวไทย โดยผลผลิตข้าวโลกในปีนี้ ขยายตัวสูงขึ้น2.4% ปริมาณสต็อกข้าวโลกสูงขึ้น 4.3% ในขณะที่การบริโภคลดลง1.5% จึงทำให้ราคาข้าวถูกกดดันจนราคาลดลง

ขณะที่สถานการณ์ในประเทศไทย ผลผลิตข้าวนาปี ในส่วนของข้าวหอมมะลิ จะเริ่มออกสู่ตลาดในช่วงเดือนต.ค.นี้คิดเป็นประมาณ10%ของผลผลิตทั้งหมด และเดือนพ.ย.จะออกสู่ตลาด 80% ที่เหลือจะออกในช่วงเดือนธ.ค. รวมปริมาน 10 ล้านตันข้าวเปลือก

“ในช่วงที่เกษตรกรกำลังเก็บเกี่ยว มีปริมาณฝนทำให้ความชื้นข้าวของเกษตรกรสูงที่30%จากความชื้นปกติที่15%ทำให้ราคาข้าวหอมมะลิของเกษตรกรปรับตัวลดลงอย่างมาก ซึ่งคาดว่าสถานการณ์ราคาข้าวจะดีขึ้นเมื่อปริมาณฝนลดลงทำให้ชาวนาไม่จำเป็นต้องเร่งรัดขายข้าวเหมือนในช่วงต้นฤดู”

อย่างไรก็ตาม นบข.ได้หารือว่าจะต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรมีความเข้าใจเรื่องการประกันภัยพืชผลซึ่งกรณีที่มีปัญหาเรื่องข้าวล้มหรือน้ำท่วมที่นาจากภัยพิบัติชาวนาสามารแจ้งให้ ธ.ก.ส.เข้ามาประเมินความเสียหายและรับเงินชดเชยได้

พ่อค้าข้าวชี้ตามกลไกตลาด

นายวัลลภ พิชญ์พงศา กรรมการผู้จัดการกลุ่มนครหลวงค้าข้าว มองว่าราคาข้าวหอมมะลิตกต่ำในขณะนี้ ค่อนข้างสวนกระแสกับสถานการณ์ปกติที่มีการซื้อข้าวราคาถูกเก็บในช่วงต้นฤดูหลังจากนั่นผ่านไประยะหนึ่งราคาจะค่อยขยับขึ้น

“แต่กรณีที่เกิดขึ้นตอนนี้ราคากลับลดลงเนื่องจากผลผลิตตลาดโลกมีมากทำให้ผู้ส่งออกส่วนใหญ่ชะลอการซื้อเพราะไม่แน่ใจว่าราคาตลาดจะลดต่ำลงอีกหรือไม่จึงเกิดการขายข้าวในเดือนธ.ค.นี้ต่ำลงกว่าปกติ นอกจากนี้ยังมีโรงสีข้าวและผู้ส่งออกบางรายที่มีสต็อกข้าวเก่ายังเหลือจึงยังไม่อยากซื้อเพิ่ม”

อย่างไรก็ดีในส่วนของบริษัทเองจะเข้าร่วมโครงการกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยที่จะเข้าช่วยเหลือจัดซื้อข้าวหอมมะลิเพิ่มเติมรวมจำนวน2แสนตันแต่ทั้งนี้มาตรการที่จะช่วยเหลือชาวนาได้อย่างเห็นผลชัดคงจะเป็นนโยบายของรัฐบาลที่จะปล่อยออกมาเพราะท่ามกลางสถานการณ์ราคาตกต่ำเช่นนี้รัฐบาลจำเป็นต้องสนับสนุนให้ชัดเจนล่าสุดก็พบว่าจะมีการออกมาตรการจำนำยุ้งฉางให้ราคาไม่ต่ำกว่า1หมื่นบาทต่อตัน ส่วนตัวมองว่าเป็นการเสนอราคาที่เหมาะสมไม่ขาดทุนสำหรับชาวนาและเป็นโครงการที่น่าจะส่งผลดีในช่วงสถานการณ์เช่นนี้

“สำหรับแนวโน้มของตลาดข้าวหอมมะลิในตลาดโลกจากการประเมินในปัจจุบันก็พบว่ายังมีสัญญาณดีมีดีมานด์ความต้องการจากลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแต่ท่ามกลางความต้องการสูงก็พบว่าผลผลิตจากประเทศคู่แข่งอย่างเวียดนามก็ออกสู่ตลาดจำนวนมากขึ้นต่อเนื่องเช่นเดียวกันทำให้ส่วนแบ่งทางการตลาดของไทยลดลงเพราะมีการแข่งขันด้านราคาเข้ามาส่วนหนึ่งของตัวราคาที่เกิดขึ้นในตอนนี้จึงต้องยอมรับว่าเป็นไปตามกลไกตลาด"

นายวัลลภ มองว่าภาพรวมตลาดส่งออกในปีนี้มองว่าจะมีการส่งออกในปริมาณที่เพิ่มขึ้นเพราะผู้ประกอบการส่งออกสามารถทำการแข่งขันดด้านราคาได้ แต่ภาพรวมในเชิงรายได้อาจไม่เติบโต

คาดราคาเริ่มขยับใน 2 สัปดาห์

นายสมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันคลังสมองของชาติกล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือชาวนาผู้ปลูกข้าวหอมมะลิที่มีราคาตกต่ำในขณะนี้ว่ามาตรการของรัฐในการช่วยเหลือของรัฐบาลที่ไร่ละ 500บาท เป็นการสนับสนุนค่าปัจจัยการผลิต ซึ่งถือว่าเป็นการลดต้นทุนของเกษตรกร ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปใช้เรื่องของการเช่าค่ารถเกี่ยวข้าวซึ่งมีค่าเช่าเก็บเกี่ยวที่ไร่ละ500 – 650บาท

ทั้งนี้เมื่อรวมกับมาตรการสินเชื่อเพื่อชะลอการขายข้าวซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในช่วงต้นฤดูที่ข้าวหอมมะลิออกมาแล้วยังมีความเสี่ยงเรื่องความชื้น ซึ่งคาดว่าในอีก2สัปดาห์ข้างหน้าราคาข้าวหอมมะลิจะค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นและกลับเข้าสู่ภาวะปกติได้ในช่วงเดือน ธ.ค.ซึ่งราคาส่งออกปกติข้าวหอมมะลิอยู่ที่ประมาณ 750–775 ดอลลาร์ต่อตัน แต่ในขณะนี้ราคาลดลงไปกว่า 200 ดอลลาร์ต่อตัน

นายสมพร กล่าวว่ามาตรการในการช่วยเหลือควรมีการกำหนดให้มีความเฉพาะเจาะจงโดยเฉพาะมาตรการในการให้สินเชื่อกับโรงสีในการซื้อข้าวมาเก็บไว้ในสต็อกซึ่งการให้สินเชื่อที่สามารถสนับสนุนควรเจาะจงให้โรงสีในภาคกลาง ซึ่งมีเครื่องอบข้าวไล่ความชื้นจากข้าวได้ให้เข้าไปรับซื้อข้าวในพื้นที่ภาคอีสานตอนบน ซึ่งมีปริมาณข้าวหอมมะลิออกมาในขณะนี้มาก

นายสมพร ระบุว่าโรงสีในภาคอีสานไม่มีการลงทุนเรื่องเครื่องอบไล่ความชื้นทำให้คุณภาพข้าวที่รับซื้อและเก็บไว้ไม่ได้คุณภาพในการส่งออกและที่ผ่านมามีการถูกตีกลับจากประเทศผู้ซื้อข้าวเพราะความชื้นทำให้กลิ่นของข้าวหอมมะลิเปลี่ยนไป

“คิดว่ามาตรการเพิ่มเติมคือจะทำอย่างไรให้โรงสีในพื้นที่ภาคกลางซึ่งมีขนาดใหญ่และมีการลงทุนเรื่องเครื่องอบความชื้นมาช่วยรับซื้อข้าวที่ออกมามากและความชื้นสูงในภาคอีสานเพื่อเอาไปเก็บในโรงสี ซึ่งเป็นทางออกในการเพิ่มคุณภาพข้าวและลดความชื้นของข้าวที่เก็บไว้ในโกดังได้”