แนะ 'รัฐบาล-คสช.' รู้เท่าทันขบวนการ 'ปั่นราคาข้าว' ตกต่ำ

"นพ.วรงค์" แนะรัฐบาล คสช. รู้เท่าทัน "ขบวนการ" สร้างกระแส ปั่นราคาข้าวตกต่ำ หวังดีสเครดิต-ชี้ช่อง 2 แนวทางปัญหา
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม อดีตส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่าจะมีมาตรการแก้ไขปัญหาราคาข้าวตกต่ำในสัปดาห์หน้าว่า ตนคิดว่ารัฐบาลต้องรู้เท่าทันความพยายามในการสร้างกระแสนี้ ซึ่งดูแล้วมีการทำกันเป็นขบวนการ โดยดึงตัวละครที่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าวมาร่วมในการปั่นสร้างกระแสเพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลในครั้งนี้
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ดังนั้น มาตรการที่รัฐบาลจะออกมาในสัปดาห์หน้าต้องเป็นเรื่องที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม ที่สำคัญต้องได้ใจชาวนาที่กำลังเดือดร้อนหนักหนาสาหัสในเวลานี้ เพราะมาตรการเยียวยาครั้งก่อนของรัฐบาลที่ชดเชยเงินให้ชาวนาไร่ล่ะพัน ยังไม่ได้ใจพี่น้องชาวนาและแก้ไม่ถูกจุด เนื่องจากพี่น้องชาวนาต้องเผชิญภาวะภัยแล้งจัดในปีที่แล้ว พอมาปีนี้มีน้ำปลูกข้าวได้ก็ถูกน้ำท่วม ซ้ำราคาข่าวยังถูกกดจนตกต่ำเป็นประวัติการณ์ ขณะที่หนี้สินในระบบ นอกระบบพอกพูน ซ้ำครอบครัวก็ต้องกินต้องใช้ มาตราการช่วยเหลือที่จะออกมาครั้งนี้จึงต้องชัดเจนที่จะทำให้พี่น้องชาวนาลืมตาอ้าปากได้ ซึ่งตนเชื่อว่า หากรัฐบาลมีมาตรการที่ดีจะสามารถตัดวงจรของการสร้างกระแสปลุกปั่นดิสเครดิสรัฐบาลครั้งนี้ไปได้แน่
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ส่วนกรณีที่โรงสีไม่ซื้อข้าวจากชาวนาในช่วงนี้ โดยอ้างว่าเป็นข้าวที่มีความชื้นสูงเพราะเกี่ยวตอนเปียก หรือซื้อโดยกดราคาต่ำมากนั้น ต้องมองด้วยความเป็นธรรมเพราะจะมีโรงสี2ประเภทคือ 1.โรงสีที่ทำธุรกิจและขาดทุนจริง เพราะเคยซื้อข้าวมาเก็บในราคาต้นทุนที่สูง กรณีนี้พอรับได้ ไม่มีใครว่าอะไร แต่โรงสีประเภทที่2. ที่เป็นเครือข่ายของนักการเมืองและกลุ่มเครือข่ายผลประโยชน์ที่เคยร่วมกันทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ทั้งที่ไม่เคย และเคยถูกตรวจสอบโดย ปปท. ฉวยโอกาสนี้ผสมโรงทุบราคาข้าวของชาวนาเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลเพื่อหวังผลทางการเมือง
นพ.วรงค์ กล่าวว่า ซึ่งมีมาตรการในการแก้ไข 2 ข้อคือ 1. ให้รัฐส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีเหล่านี้ หากพบหลักฐานเชื่อได้ว่า โรงสีใดร่วมผสมโรงทุบราคาข้าวชาวนา รัฐบาลต้องดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดและให้ถึงที่สุด 2.ในขณะนี้สังคมไทยต้องการจะข่วยเหลือชาวนาโดยตรงอยู่แล้ว ฉะนั้น การที่รัฐบาลเร่งสนับสนุนให้ชาวนารวมกลุ่มใช้โรงสีข้าวชุมชน สีข้าวเปลือกเป็นข้าวสารขายโดยตรงกันเอง โดยที่ทุกฝ่ายร่วมรับซื้อถือเป็นสถานการณ์ที่เหมาะสมในการเปลี่ยนวิถีชาวนาไทย จากที่เป็นผู้ผลิตที่ถูกเอาเปรียบมาเป็นผู้ทำธุรกิจครบวงจรคือ ปลูกเอง สีเอง ขายเอง โดยมีหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องส่งเสริมจะเป็นทางแก้ไขที่ยั่งยืน




