คาด 'หุ้นไทย' ขยับในกรอบแคบ

คาด 'หุ้นไทย' ขยับในกรอบแคบ

"นักวิเคราะห์"คาดหุ้นไทยบวกได้อีกเล็กน้อย เหตุยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ หนุน แนะติดตามคาดเงิน หาก"อ่อนค่า"มากกว่าเพื่อนบ้านส่งผลลบต่อดัชนี

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ กลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ประเมินตลาดหุ้นไทยในวันนี้ว่า มีโอกาสที่จะเดินหน้าต่ออีกเล็กน้อย การแกว่งตัวของดัชนีจะเป็นในลักษณะ sideway เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยบวกหรือลบที่เด่นชัดเข้ามาในตลาด เป็นผลให้นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรช่วงสั้นๆ ตัวแปรที่จะมีผลต่อตลาดในระหว่างวันจะเป็นทิศทางค่าเงินบาท ถ้าเงินบาทอ่อนค่ามากกว่าเงินเอเชียอื่นๆ จะเป็นลบต่อตลาดหุ้น ราคาน้ำมันดิบในตลาด และผลการประชุมคณะรัฐมนตรี

"กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ ภาพรวมของตลาดแม้เราจะคาดทิศทางดัชนีว่าจะสูงขึ้น แต่ด้วยแรงซื้อที่ยังมีอยู่จำกัด จึงแนะให้เลือกเพียงหุ้นเด่นของบางกลุ่มที่พอจะไปต่อได้ที่มีปัจจัยบวกหนุน มีความเสี่ยงต่ำ ในขณะที่หุ้นขนาดเล็กคาดจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง จากการเข้ามาเก็งงบไตรมาส 3 มองกรอบดัชนีวันนี้ที่ 1,488-1,504 จุด

สำหรับตัวแปรสำคัญตัวหนึ่ง คือ เรื่องดอกเบี้ยของสหรัฐซึ่งเป็นดัชนีอ้างอิงของดอกเบี้ยของประเทศอื่นๆ โดยขณะนี้นักลงทุนเริ่มรับรู้และปรับพอร์ตรอรับการปรับขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐไปบ้างแล้ว นอกจากนี้ ยิ่งใกล้วันเลือกตั้งประธานาธิบดีเข้ามา จะทำให้นักลงทุนต่างรอดูผลการเลือกตั้งครั้งนี้ เนื่องจากมีผลต่อนโยบายต่างประเทศของสหรัฐในช่วงต่อไป โดยเฉพาะหากนายทรัมป์เป็นผู้ชนะการเลือกตั้ง

ด้านราคาน้ำมันดิบ WTI อ่อนตัวลง หลังการหารือระหว่างผู้ผลิตน้ำมัน รวมถึงรัสเซียและซาอุฯ ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ที่ผลการหารือออกมาเพียงแค่ผู้ผลิตน้ำมันจะให้ความร่วมมือกัน แต่ยังไม่สามารถกำหนดโควต้าผลิตน้ำมันของประเทศที่จะเข้าร่วมโครงการได้ ทำให้นักลงทุนต้องมารอดูกันต่อว่า ก่อนที่จะถึงวันประชุม OPEC กับผู้ผลิตน้ำมันนอกกลุ่ม (30 พ.ย.) จะมีตัวเลขโควต้าผลิตออกมาหรือไม่ ช่วงสั้นๆ จะทำให้ราคาน้ำมันดิบทรงๆ ตัวแถว 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล