แชมป์นี้เพื่อ'พ่อหลวง' ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข
แบดมินตัน เป็นอีกชนิดกีฬาที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชโปรด
ตั้งแต่เมื่อครั้งยังไม่เป็นที่แพร่หลายในประเทศไทย
ด้วยสายพระเนตร อันยาวไกล ทรงรับสั่งกับผู้ใกล้ชิดว่า แบดมินตัน เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเภทที่คนไทยสามารถไต่เต้าไปสู่ระดับโลกได้ เพราะไม่เสียเปรียบ ทางด้านรูปร่าง และพละกำลังมากจนเกินไป
ครั้งหนึ่ง หนังสือพิมพ์สเตรทไทม์ส ของสิงคโปร์ บันทึกว่าในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทรงอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวงการแบดมินตันไทย ตั้งแต่ก่อตั้งสมาคมฯ ในปี พ.ศ.2493 จนวงการแบดมินตันไทย มีรากฐานที่ดี และมีนักกีฬาทั้งระดับชาติและระดับโลกมากมาย ตั้งแต่ยุคของ ศ.(พิเศษ) เจริญ วรรธนะสิน เรื่อยมาถึงแชมป์โลกคนแรกของไทย รัชนก อินทนนท์ รวมถึงฮีโร่คนล่าสุด ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข
ว่าที่มือหนึ่ง
แม้ในรอบหลายปีที่ผ่านมา โฟกัสของวงการแบดมินตันไทย จะไปตกที่ฝั่งนักกีฬาหญิงเป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ฝ่ายชาย โดยเฉพาะในประเภทเดี่ยว ดูจะมีเพียง “ซูเปอร์แมน” บุญศักดิ์ พลสนะ เป็นดาวค้างฟ้าของวงการอยู่นานหลายปี
ขณะที่ ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข หรือ “สอง” ได้รับการจับตามองในฐานะนักแบดมินตันฝีมือดี เคยคว้าแชมป์ระดับอินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ “เดอะ สไมลลิ่ง ฟิช แบดมินตัน อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์” 2 สมัย ในปี 2008 และ 2009 และรองแชมป์ กรังด์ปรีซ์โกลด์ 2 รายการ ไต้หวัน โอเพ่น 2011 และ โคเรีย โอเพ่น 2012
กระนั้น ก็ยังถูกมองว่ายังขาดความคงเส้นคงวา ในการก้าวขึ้นมารับช่วงต่อจาก บุญศักดิ์ ในฐานะนักแบดมินตันชายเดี่ยวเบอร์หนึ่งของไทย
“สอง เป็นนักแบดมินตันที่มีฝีมือดี แต่ผลงานที่ผ่านมายังไม่คงเส้นคงวา ทำให้ไม่เป็นที่สนใจเท่าไหร่ แต่ระยะหลังมานี้ สอง พัฒนาฝีมือขึ้น โอกาสที่จะก้าวเป็นมือหนึ่งของประเทศไทยก็ไม่น่าจะยาก หากยังคงการเล่นที่ยอดเยี่ยมอย่างนี้ต่อไป” คือความเห็นของ บุญศักดิ์ ถึงรุ่นน้องรายนี้ เมื่อหลายปีก่อน
ขณะที่ สมพล คูเกษมกิจ อดีตผู้ฝึกสอนแบดมินตันทีมชาติไทย ก็ให้ทรรศนะถึง ทนงศักดิ์ ว่าเป็นนักแบดมินตันที่เก่ง ตีได้ดุดันและน่ากลัว แต่พอตีไม่ดี ก็จะหลุดฟอร์มไปทันที สิ่งที่ต้องปรับปรุงคือควรนิ่งและใจเย็นมากกว่านี้ หากต้องการก้าวสู่ระดับโลก
38 ปีที่รอคอย
นับแต่ซีเกมส์ หรือกีฬาแหลมทอง (เดิม) ครั้งที่ 8 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อ พ.ศ. 2518 ไม่เคยมีนักกีฬาแบดมินตันชายไทยคนไหน คว้าแชมป์ชายเดี่ยวต่อจาก บัณฑิต ใจเย็น ตำนานนักตบลูกขนไก่ไทยได้เลย เพราะที่ผ่านมา ความสำเร็จดังกล่าวถูกยึดครองไว้โดยนักแบดมินตันจากมาเลเซีย และอินโดนีเซียตลอด
กระทั่งในการแข่งขัน ซีเกมส์ ครั้งที่ 27 ที่เมียนมา เมื่อพ.ศ. 2556 ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข ก็สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ได้สำเร็จ ในความพยายามครั้งที่ 3 หลังจากเคยได้เหรียญทองแดง และเงินมาครองก่อนหน้านี้
ในรอบตัดเชือก ทนงศักดิ์ เอาชนะ เหงียน เทียน มินห์ ยอดนักตบลูกขนไก่จากเวียดนาม มือหนึ่งของรายการ ต่อด้วยการเอาชนะ ฮยอม รัมบูก้า จาก อินโดนีเซียได้ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าเหรียญทองที่คนทั้งชาติรอคอยมานานถึง 38 ปี ได้สำเร็จ โดยในปีเดียวกันนั้นเอง เจ้าตัวก็ได้เหรียญทองจากกีฬามหาวิทยาลัยโลกที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซียด้วย
ผู้ชนะใจคนไทย
และในเดือนต.ค. 2559 ทนงศักดิ์ ในฐานะมือ 5 ของรายการ ก็คว้าแชมป์ระดับกรังด์ปรีซ์ โกลด์ ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต ในรายการ ”เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น 2016“ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ด้วยการโค่น โซนี วี คันโคโร มือ 2 ของรายการ 2 เกมรวด ทั้งที่สถิติการเจอกันที่ผ่านมา “สอง” เป็นรองคู่ปรับจากอินโดนีเซียโดยตลอด
จากนั้น เพียงสัปดาห์เศษ หลังวันเกิดครบรอบ 26 ปี ทนงศักดิ์ ที่ขยับขึ้นมาเป็นมือ 18 โลก ก็ก้าวไปอีกขั้นด้วยการคว้าแชมป์ต่อเนื่อง ด้วยชัยชนะเหนือ ชอน วาน โฮ มือ 7 ของโลกด้วยสกอร์ 21-13 และ 23-21 นับเป็นนักแบดมินตันชายไทยคนแรก ที่คว้าแชมป์ระดับซูเปอร์ซีรีส์พรีเมียร์ได้สำเร็จ
หลังจบการแข่งขัน ทนงศักดิ์ ได้ก้มลงกราบ เพื่อถวายความอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พร้อมอัญเชิญพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ในมือ ขณะขึ้นโพเดียมเพื่อรับรางวัล
ระหว่างการรับรางวัล ทั้งป้ายเงินรางวัล ช่อดอกไม้ หรือแม้แต่ถ้วยรางวัลที่ได้มาอย่างยากลำบาก ทนงศักดิ์ ก็เลือกวางทุกสิ่งไว้บนพื้น โดยถือพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ตลอด ด้วยเหตุผลที่คนต่างชาติจำนวนมากอาจไม่เข้าใจ
เพียงเท่านี้ ก็ชนะใจคนไทยทั้งชาติที่รับรู้ถึงความหมายที่เจ้าตัวต้องการสื่อ โดยไม่ต้องมีคำอธิบายใดๆ