แบรนด์ไทยบุกตปท.แจ้งเกิดสินค้า‘เรือธง’ปั๊มรายได้

เอกศักดิ์ แดงเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วันบ๊อกซ์ โฮม จำกัด ผู้ผลิตกล่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัลแบรนด์ “วัน บ๊อกซ์ โฮม” กล่าวว่า บริษัทมีแนวคิดที่จะขยายธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยเฉพาะตลาดต่างประเทศ ซึ่งปีที่ผ่านมา ได้จัดตั้ง บริษัท เดอะ สตาร์ทอัพ จำกัด เพื่อผลิตและทำตลาดผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ “สตาร์ทอัพ” เริ่มจากดิจิทัลทีวี ทั้งแบบจอภาพแอลอีดี ทีวี และโอแอลอีดี ทีวี เป็นการว่าจ้างโรงงานในจีนผลิตสินค้า วางแผนทำตลาดเพื่อนบ้าน ได้แก่ ลาว กัมพูชา เมียนมา รวมทั้งแอฟริกาใต้

รูปแบบการทำตลาดได้แต่งตั้งดีลเลอร์หรือตัวแทนจำหน่ายในแต่ละประเทศที่มีความชำนาญในการขายผ่านช่องทางออนไลน์ หรือมีแพลตฟอร์มของตัวเอง อาทิ แอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะได้ข้อสรุปเร็วๆ นี้

“สตาร์ทอัพ เน้นขายผ่านออนไลน์ทั้งเฟซบุ๊ค แอพลิเคชั่นไลน์ สอดคล้องกับกระแจดิจิทัลที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ประกอบกับการนำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในช่องทางค้าปลีก มีเรียกเก็บค่าใช้จ่ายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นค่าแรกเข้า ค่าจ้างเซลล์ขายสินค้า”

สินค้าของสตาร์ทอัพ จะให้ความสำคัญกับขนาดจอภาพที่ไม่เคยมีจำหน่ายมาก่อนในท้องตลาด หรือ แอลอีดี ทีวี ขนาด 14 นิ้ว และ 65 นิ้ว จากปกติทำตลาดเริ่มตั้งแต่ 32 นิ้วขึ้นไป นับเป็นการสร้างความแตกต่างและเป็นทางเลือกใหม่ให้ผู้บริโภค สินค้านำร่องวางตลาดต้นปี 2560 จากเดิมกำหนดเปิดตัวเดือน พ.ย.นี้ ตั้งเป้าหมาย ทีวี 14 นิ้ว มียอดขายปีแรก 1 ล้านเครื่อง

“ทีวี 14 นิ้ว เป็นสินค้าไฮไลท์และเป็นเรือธงทำตลาดต่างประเทศ เพราะมองว่าประชากรกว่า 1,000 ล้านคน จากประชากรโลก 7,000 ล้านคน ยังไม่มีทีวีไว้ใช้งาน ซึ่งการเน้นสินค้ารุ่นเดียวจะทำให้ง่ายต่อการบริหารจัดการ”

นอกจากนี้ ยังได้ผลิตโอแอลอีดี ทีวี ขนาด 65 นิ้ว ราคา 7-8 หมื่นบาท ต่ำกว่าท้องตลาด หรือเทียบแบรนด์เกาหลี ญี่ปุ่น จำหน่ายเครื่องละกว่าแสนบาท

นรินทร์เดช ทวีแสงพาณิชย์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยฮาเบล อินดัสเตรียล จำกัด ผู้ผลิตและประกอบเครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ “อัลทรอน” กล่าวว่า เตรียมขยายตลาดในกลุ่มประเทศอินโดจีน ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่ การแข่งขันกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้ายังไม่สูงเหมือนประเทศไทย โดยขณะนี้อยู่ระหว่างคัดเลือกตัวแทนจำหน่ายที่มีศักยภาพ

"แผนทำตลาดต่างประเทศแตกต่างกันตามสภาพของตลาดในแต่ละประเทศ ซึ่งจะศึกษาจากพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในการว่างแผนการตลาด”

บริษัทตั้งเป้าสัดส่วนการขายจากต่างประเทศ 3-5 ปีจากนี้ อยู่ที่ 20% ภายในประเทศ 80% ซึ่งรายได้หลักมาจากการรับจ้างผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า (โออีเอ็ม) ให้แบรนด์สินค้าต่างๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียน

วุฒิไกร เอื้อชูยศ กรรมการผู้จัดกการ บริษัท สตาร์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและทำตลาดเครื่องปรับอากาศแบรนด์ “สตาร์แอร์” กล่าวว่า สตาร์แอร์มุ่งขยายตลาดกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง อเมริกาใต้ กลุ่มประเทศยุโรป และออสเตรเลีย ซึ่งมีความต้องการใช้งานเครื่องปรับอากาศสูง ซึ่งผู้บริโภคในกลุ่มประเทศเหล่านี้ต้องการสินค้าที่ผลิตจากไทยเพราะมั่นใจในคุณภาพ

“เรามุ่งสร้างแบรนด์สตาร์แอร์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ชูจุดเด่นเป็นสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทย มีมาตรฐาน ราคาเหมาะสม”

ปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออก 20-30% อนาคตจะเพิ่มเป็น 50% โดยมีรายได้หลักมาจากแบรนด์สตาร์แอร์ 50% รับจ้างผลิตทั้งแบบโออีเอ็มและโอดีเอ็ม 50%