“เราจะเดินตามรอยพ่อ” ปณิธานธุรกิจเอสเอ็มอี

“เราจะเดินตามรอยพ่อ” ปณิธานธุรกิจเอสเอ็มอี

พวกเขาคือเอสเอ็มอี ที่มีเจตนารมณ์ชัดเจนจะเดินตามคำสอนของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อความยั่งยืนและแข็งแกร่งของธุรกิจ

เพราะเชื่อว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (Philosophy of Sufficiency Economy) ที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช  ฝากไว้ให้ คือคำตอบของอนาคตประเทศไทย “แอปเปิ้ล-ศิริวิมล กิตะพาณิชย์” นักธุรกิจรุ่นใหม่วัย 28 ปี จึงได้ก่อตั้ง “ไร่รื่นรมย์” ธุรกิจเกษตรอินทรีย์ ขึ้น ใน อ.เทิง จ.เชียงราย

เธอคือเด็กอินเตอร์ เรียนนานาชาติมาโดยตลอด ก่อนไปเรียนต่อที่ เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย จบมาเธอมีความฝันที่ต่างจากเด็กคนอื่น เมื่อคิดว่า ถ้าคนเราจะมีแค่ชีวิตเดียว แล้วเราพอทำอะไรได้บ้างที่จะส่งผลกระทบให้คนได้มากที่สุด ในช่วงชีวิตที่เหลืออยู่นี้

เธออยากพัฒนาสังคมให้เข้มแข็งและยั่งยืน เมื่อพระองค์ท่าน บอกชัดเจนว่า สังคมจะเข้มแข็งได้ต้องทำเกษตรอย่างผสมผสาน เธอเลยเริ่มค้นคว้าหาข้อมูล ไปเรียนรู้ตามศูนย์ต่างๆ และเข้าร่วมโครงการ “หนึ่งไร่ หนึ่งแสน” เพื่อเรียนรู้ วิถีเกษตรพอเพียง ตามแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

ความพอเพียงไม่ได้เป็นแค่เรื่องของเกษตร การเข้าร่วม “โครงการพอแล้วดี THE CREATOR””โดยมูลนิธิมั่นพัฒนา บอกเธอว่า ทุกๆ อาชีพ สามารถปรับใช้หลักคิดเดียวกันนี้ได้

“พระองค์ท่านไม่ได้บอกให้ทุกคนมาเป็นเกษตรกร เพราะสังคมต้องการทุกอาชีพ แต่ทุกอาชีพสามารถปรับใช้หลักคิดนี้ได้ คือ ถ้าเรารู้จักพอ สังคมจะอยู่ได้อย่างเข้มแข็งและยั่งยืน ท่านสอนเรื่อง 3 ห่วง 2 เงื่อนไข คือ พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมิคุ้มกันที่ดีในตัวเอง และ เงื่อนไขความรู้ คู่คุณธรรม”

จากโจทย์ตรงนั้นเธอก็แค่ “ลงมือปฏิบัติ” เพราะพ่อหลวงเองก็แค่ทำให้เห็น ด้วยการทดลอง และลงมือปฏิบัติจริง

“อยากให้คนรุ่นใหม่มองว่า ความพอเพียงไม่ใช่เรื่องเชย ไม่ใช่เรื่องหลังเขา และไม่ใช่แค่เกษตร แต่คืออาวุธลับที่จะทำให้เราพบกับความสุขที่แท้จริงได้ ผ่านหลักการใช้ชีวิตของในหลวง ซึ่งคำว่า พอเพียงไม่ใช่ความยากจน ไม่ใช่ต้องอยู่ตามยะถากรรม แต่คือ การหาจุดที่พอ จุดที่สมดุลในชีวิตเรา ซึ่งคนรอบข้างก็จะสงบสุขไปด้วย”

ในการทำธุรกิจแบบพอเพียง ไม่ได้หมายถึงการหยุดพัฒนา แต่เธอว่า ต้องไขว่คว้าหาความรู้อยู่เสมอ และไม่ควรคิดถึงแต่กำไรสูงสุดในธุรกิจ ทว่าควรได้กำไรระดับหนึ่ง แต่ขณะเดียวกัน สังคม ชุมชน ก็ควรพัฒนาไปกับเราด้วย เพื่อธุรกิจจะได้เข้มแข็งและยั่งยืนได้..นี่ต่างหากการทำธุรกิจตามรอยพ่อ

หลังการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ชาวไร่รื่นรมย์ได้ประชุมหารือกัน ก่อนมีปณิธานร่วมกันว่า จากนี้จะขอสืบสานสิ่งที่พระองค์ท่านได้ทำไว้ โดยจะจัดฉายวิดีโอของพระองค์ท่านทุกอาทิตย์ เพื่อให้เด็กๆ ได้มาดู โดยหวังแค่ว่า ไม่อยากให้คนรุ่นหลังหลงลืมท่าน

เพราะทุกวันนี้ที่เราอยู่อย่างสุขสบายได้ ก็เพราะพระองค์ท่าน

ในวันที่เสื้อผ้าสีดำราคาแพงลิบลิ่ว จากความต้องการของตลาดที่สูงขึ้น แต่มีเอสเอ็มอีหนึ่งราย ประกาศชัดเจนที่จะยืนหยัดผลิตเสื้อราคาจับต้องได้ให้กับคนไทย

เรากำลังพูดถึง “วิศรุตน์  ไชยเพ็ชร”  กรรมการผู้จัดการ หจก.ยูนิฟอร์มสไตล์ ผู้ผลิตและจำหน่ายเสื้อยืดพูดได้ ตราเด็กจุก

เขาคือหนึ่งในสมาชิกเครือข่ายร่วมก่อการดี การรวมตัวกันของ กลุ่มผู้ขับเคลื่อนประเด็นทางสังคม กิจการเพื่อสังคม และเอสเอ็มอี โดยมีพันธสัญญา ที่จะทำความดี อยู่บนความพอเพียง และทำเพื่อในหลวง

“ผมรักในหลวง ผมจึงทำ”

คำย้ำของ วิศรุตน์ หลังประกาศจำหน่ายเสื้อยืดคอกลม และเสื้อโปโลสีดำ “ราคาถูก” สวนกระแสตลาด เพื่อลดปัญหาการโก่งราคาในท้องตลาดเวลานี้ โดยเขาหวังให้องค์กร และหน่ายงานต่างๆ ได้นำไปใช้ และแจกจ่ายให้ผู้ด้อยโอกาสในสังคม อย่าง เสื้อยืดคอกลม ผ้า Cotton ที่ราคาส่ง 100 ตัวขึ้นไป คิดเพียงตัวละ 70 บาท ส่วนเสื้อยืดโปโลสีดำ ผ้า TC  ราคาส่ง 100 ตัวขึ้นไป คิดที่ 110 บาท เท่านั้น (Line ID : Dekjuk)

“เราอยู่ในสยามเมืองยิ้มของพ่อ พ่อสอนให้เรามีน้ำใจให้แก่กัน ผมเชื่อว่า การให้น้ำใจแก่กัน คือรากฐานของสยามเมืองยิ้ม คือ ความสุข ความสามัคคีของประเทศเรา จึงอยากให้คนไทยได้มาร่วมกันทำสิ่งนี้เพื่อพ่อ”

การคงอยู่ของ “ธุรกิจร้านหนังสือดนตรีแห่งเดียวในประเทศไทย” ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ที่คนทำยังยืนหยัดอยู่ได้ ก็เพื่อให้คนไทยยังสามารถเขาถึงโลกของดนตรี  หนึ่งในพระปรีชาสามารถของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช

“พระองค์ท่านทรงมีอัจฉริยภาพทางด้านดนตรีที่โดดเด่นมาก ในวงการไม่มีใครไม่เทิดทูนพระองค์ ท่านทรงเล่นเครื่องดนตรีได้หลายอย่าง เป็นแรงบันดาลใจทั้งต่อการทำงาน และเวลาที่เกิดความทุกข์ในการทำธุรกิจด้านดนตรีของผม”

คำบอกเล่าจาก “ธนวัฒน์ เขมาธรามาศ” กรรมการผู้จัดการ บริษัท เพรลูด มิวสิก จำกัด เจ้าของ“เพรลูด มิวสิก” ร้านหนังสือดนตรีแห่งแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย ที่จำหน่ายเฉพาะหนังสือและสื่อการเรียนการด้านสอนดนตรี ครอบคลุมทุกประเภทและสไตล์ของดนตรี เพื่อสนองทั้ง ครูสอนดนตรี นักเรียนดนตรี ศิลปินมืออาชีพ มือสมัครเล่น หรือแม้แต่แค่ “คนรักดนตรี” เหมือนตัวเขา

“ผมชอบเพลงพระราชนิพนธ์ ‘มาร์ชราชวัลลภ’ ที่พระองค์ทรงแสดงที่กรุงเวียนนา เป็นสิ่งที่แม้แต่ต่างชาติเองก็ให้การชื่นชม นับเป็นการเปิดประตูให้ต่างชาติได้รู้ว่า พระมหากษัตริย์ของไทยทรงมีพระปรีชาสามารถด้านดนตรี เป็นนักประพันธ์เพลงและนักแสดงดนตรีที่ยิ่งใหญ่ ผมมองว่า พระองค์ท่านทรงเป็นคุณูปการในการดนตรี เป็นทั้ง ครู ศิลปิน และนักแสดง เป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทำงานวงการดนตรีทุกคน รวมทั้งตัวผมเองด้วย”

ในคอนเสิร์ตสำคัญยังมีการอัญเชิญบทเพลงพระราชนิพนธ์ไปจัดแสดง ในโรงเรียนสอนดนตรี ยังมีพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ขณะทรงดนตรี เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการเล่นดนตรีของทุกคน เป็นภาพจำเดียวกันที่คนในวงการดนตรีมีต่อพระองค์ท่าน

ทุกครั้งที่เกิดความท้อจากการทำงาน คนหนุ่มบอกเราว่า จะคิดถึงพระองค์ท่าน ที่ทำงานหนักกว่าเรา มีภารกิจมากมาย แต่ก็ยังมีเวลามาซ้อมดนตรี ร่วมแสดงดนตรี และยังสอนพระราชโอรส และพระราชธิดา ของท่านให้ทรงดนตรีด้วย

“พระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลใจให้ผมมีความอดทน มีความวิริยะ แม้การทำธุรกิจร้านหนังสือดนตรี จะเจอกับความยากลำบากมากมาย แต่ผมก็จะไม่ท้อ เพื่อรักษาสิ่งเหล่านี้ไว้ให้กับคนไทยต่อไป” เขาประกาศคำมั่น

หลังการสวรรคตของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ร้านหนังสือดนตรีเล็กๆ ของพวกเขาได้ต้อนรับคนดนตรีมากมาย ที่ต่างมาตามหาบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อใช้ทำการแสดงไว้อาลัยแก่พระองค์ท่าน แล้วนำเสนอผ่านช่องทางยูทูบ ซึ่งบางคนเล่นไปทั้งน้ำตา จนแม้แต่เจ้าของร้านหนังสือดนตรีอย่างเขา ยังรู้สึกประทับใจ และปลาบปลื้ม ที่ได้เห็นทุกคนแสดงความรักต่อพระองค์ท่านด้วย “ดนตรี”

วันนี้หน้าเฟซบุ๊คของ เพรลูด มิวสิก ยังร่วมไว้อาลัยถวายแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ขณะการจัดกิจกรรมอบรมสัมมนาต่างๆ ของบริษัท ยังขอให้ทุกคนยืนไว้อาลัยเพื่อระลึกถึงพระองค์ท่านก่อนเริ่มงาน ตลอดจนงดกิจกรรมการตลาดต่างๆ

เพื่อแสดงความอาลัยแด่พระองค์ท่านเป็นครั้งสุดท้าย