100บริษัททัวร์ผนึกกำลัง ชูเที่ยว90สายถวายราชา

100บริษัททัวร์ผนึกกำลัง ชูเที่ยว90สายถวายราชา

"สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวฯ" เตรียมผนึกบริษัทนำเที่ยวมากกว่า 100 แห่ง ทำเส้นทางท่องเที่ยว "90 สายถวายราชา" ชูแนวคิด "เที่ยวทั้งที ทำดีเพื่อพ่อ"

ในวันที่ไทยสิ้นพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช แต่พระบารมีที่ทรงปฏิบัติผ่านพระราชกรณียกิจในทุกพื้นที่ทุกประเทศ เพื่อมุ่งบำบัดทุกข์บำรุงสุขต่อประชาชนในประเทศ เป็นเจตนารมณ์ที่สามารถสืบสานพระราชปณิธานให้ยาวนาน โดยมีการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในกลไกขับเคลื่อนที่สำคัญ

นายภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ (สทน.) เปิดเผย “กรุงเทพธุรกิจ”ว่า บริษัทนำเที่ยวมากกว่า 100 แห่งทั่วประเทศเตรียมผนึกกำลังกันจัดทำเส้นทางท่องเที่ยว“90 สายถวายราชา” ขึ้นเป็นโครงการใหญ่ต่อเนื่องตลอดปี 2560

โดยการออกแบบเส้นทางดังกล่าวเป็นสิ่งที่ สทน. คิดเตรียมไว้แล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก่อนจะทราบข่าวการสวรรคต เพราะถือเป็นโครงการที่เตรียมไว้ต่อเนื่องหลังจากที่ได้เปิดตัวเส้นทาง “84 สายถวายราชินี” ไปแล้วในปีนี้

จัดทำเส้นทาง90สายถวายราชา

ทั้งนี้หลังจากผ่านช่วงเวลาแห่งการถวายอาลัย 30 วัน ภาคธุรกิจนำเที่ยว พร้อมจะเดินหน้าสานต่อโครงการเส้นทางท่องเที่ยว 90 สายถวายราชา ทันที เพราะเชื่อว่า ขณะนี้ประชาชนไทยแม้จะยังอยู่ในช่วงทุกข์โศก แต่ยังต้องการสิ่งที่เป็นเครื่องน้อมรำลึกและเจริญรอยตามคุณความดีที่ท่านสร้างไว้ตลอด 70 ปี ดังนั้นจึงถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในหลายด้าน

ประการแรก คือ การทำให้กิจกรรมท่องเที่ยวกลายเป็นการสอดแทรกความรู้และเรื่องราวต่างๆ ที่พระองค์ท่านเคยสร้างไว้ โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้สมาชิกบริษัทนำเที่ยวในจังหวัดต่างๆ ไปรวบรวม “เกร็ดประวัติศาสตร์” ที่ถูกต้องประจำท้องถิ่นของตัวเอง ตามที่พระองค์เคยเสด็จประพาส เพราะเชื่อว่าไม่มีพื้นที่ไหนในประเทศที่พระองค์ไม่เคยเหยียบย่าง

ชูแนวคิด“เที่ยวทั้งที ทำดีร่วมกัน”

ประการต่อมา คือการช่วยให้เศรษฐกิจท่องเที่ยว โดยเฉพาะระดับชุมชนต่างๆ ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวมากขึ้น โดยชูแนวคิด “เที่ยวทั้งที ทำดีร่วมกัน” เพื่อให้เป็นไปตามแนวพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงห่วงใยและต้องการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้ดีขึ้น

ดังนั้น ด้วยตัวโครงการพระราชดำริต่างๆ ที่มีอยู่ทั่วประเทศ หลายแห่งแม้จะไม่ได้มีจุดประสงค์สร้างขึ้นเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวโดยตรง แต่กลับได้รับความสนใจในฐานะพื้นที่การศึกษาดูงานแนวคิดสำคัญที่พระองค์วางรากฐานเพื่อช่วยเหลือพสกนิกรต่างๆ เช่น พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, จังหวัดเพชรบุรี ที่เป็นแหล่งรวมโครงการพระราชดำริกว่า 50-60 โครงการ กลายเป็นจุดหมายด้านท่องเที่ยวที่ทั้งนักท่องเที่ยวและหน่วยงานองค์กรต่างเข้าไปชมต่อเนื่อง และต่อไปนี้จะยกระดับความสำคัญของเรื่องราวต่างๆ ให้เห็นมากขึ้นผ่านการนำเที่ยวที่เตรียมไว้

เที่ยวตามรอยพระราชกรณียกิจ

“ในเวลาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงไม่อยู่กับคนไทยแล้ว เป็นธรรมดาที่ชาวบ้านหรือชุมชนต่างๆ ที่เคยอยู่ภายใต้โครงการในพระราชดำริต่างๆ อาจรู้สึกเคว้งคว้างและไม่มั่นใจว่า ต่อไปนี้ใครจะดูแลสานต่อ

ดังนั้น สิ่งที่ภาคธุรกิจท่องเที่ยวทำได้ในเวลานี้คือ การอาสานำนักท่องเที่ยวคนไทย กระตุ้นกำลังซื้อในประเทศให้ช่วยอุดหนุนเศรษฐกิจในประเทศเองด้วยการจัดเส้นทางไทยเที่ยวไทย และลงไปตามรอยพระราชกรณียกิจต่างๆ เพื่อให้เห็น ได้รู้ ได้สัมผัส อย่างแท้จริง และช่วยให้ชุมชนยังสามารถยืนอย่างเข้มแข็งด้วยรายได้จากการท่องเที่ยวของคนไทยด้วยกัน”

หนุนคนไทยหันใช้“บ.นำเที่ยว”

นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ เปิดเผยด้วยว่า การเปิดโครงการครั้งนี้ไม่ได้หวังผลเฉพาะให้ธุรกิจนำเที่ยวมีรายได้เท่านั้น แต่ต้องการให้คนไทยทั่วไปร่วมเดินทางตามแนวพระราชดำริ ซึ่งอาจเป็นการเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ก็ได้

อย่างไรก็ตาม บริษัทนำเที่ยวประเมินว่า ครั้งนี้อาจเป็นโอกาสให้นักท่องเที่ยวกลับมาใช้บริการทัวร์มากขึ้น เพราะจะมีทั้งความต้องการเพิ่มเติมของลูกค้าองค์กร รวมถึงนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้าถึงข้อมูลในเชิงลึกและกระทั่งเกร็ดเล็กน้อยที่มัคคุเทศก์จะจัดเตรียมไว้ให้ก่อนจะเยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในแบบที่อาจหาไม่ได้ในการเดินทางเที่ยวเอง

“เรื่องราวการเสด็จพระราชดำเนินของพระองค์ท่านมีอยู่ในทุกพื้นที่ เช่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.สกลนคร, จ.นครพนม มีโครงการให้เข้าไปศึกษา หรือกระทั่งเรื่องราวของ จ.นครพนม ซึ่งเป็นที่มาของพระบรมฉายาลักษณ์อันเลื่องลือ เป็นภาพยายตุ้มที่นำดอกบัว 3 ดอกไปถวายระหว่างการรับเสด็จ กลายเป็นภาพและเรื่องราวที่ประทับใจแก่ผู้ที่ได้รับฟังเสมอมา สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่การท่องเที่ยวสามารถเป็นสื่อร่วมถ่ายทอดได้”

คาดฟื้นท่องเที่ยวในประเทศ

ทั้งนี้ คาดว่าในช่วงเดือน ธ.ค.การเดินทางของตลาดในประเทศน่าจะคืนสู่ภาวะใกล้เคียงปกติ หลังจากช่วงนี้กิจกรรมการเดินทางทุกอย่างแทบจะชะลอหรือยกเลิกไปทั้งหมด สะท้อนต่อภาวะที่ยังโศกเศร้า แต่ธุรกิจพันธมิตรทั้งหมดเข้าใจสถานการณ์

กลายเป็นภาพความสามัคคีที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน เช่น โรงแรม, ร้านอาหารที่อนุโลมการยึดเงินมัดจำหรือให้เลื่อนการเดินทางได้ อาจจะมีบ้างในกรณีของเอสเอ็มอีที่มีเงินทุนไม่มากพอ เช่น โรงแรมขนาดเล็กที่จัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้ว ทำให้ไม่สามารถคืนมัดจำได้ ซึ่งธุรกิจทัวร์ต่างเข้าใจในสถานการณ์ของทุกฝ่ายเป็นอย่างดี