ญี่ปุ่นเล็งเลิกใช้จีดีพีวัดเศรษฐกิจ

ญี่ปุ่นเล็งเลิกใช้จีดีพีวัดเศรษฐกิจ

ญี่ปุ่นเล็งยกเครื่องมาตรวัดการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคดิจิทัล แทนการใช้ผลผลิตมวลรวมประชาชาติ (จีดีพี)

คณะนักวิจัยจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) พิจารณาตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดบางตัว พร้อมสรุปว่า ในปีงบประมาณ 2557 เศรษฐกิจญี่ปุ่นแท้จริงแล้วขยายตัว 2.4% ไม่ใช่หดตัว 0.9% หากตัวเลขนี้ถูกต้องเท่ากับว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นนั้นไม่ได้ถดถอย

การทบทวนของญี่ปุ่นอาจมีความหมายมากขึ้น เมื่อหลาย ๆ ประเทศต่างมีข้อกังขากับจีดีพีซึ่งใช้มาตั้งแต่สมัยเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ในสหรัฐ เมื่อทศวรรษ 30

จีดีพี หมายถึง มูลค่าตลาดของสินค้าและบริการขั้นสุดท้ายที่ถูกผลิตในประเทศในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ โดยไม่คำนึงว่าผลผลิตนั้นจะผลิตขึ้นมาด้วยทรัพยากรของชาติใด แสดงถึงผลิตภาพของประเทศในเวลานั้น ตัวอย่างเช่น ในอดีตการจองทัวร์ไปต่างประเทศผ่านบริษัททัวร์ ซื้อแผนที่ท่องเที่ยว โทรศัพท์กลับบ้านด้วยบัตรโทรศัพท์ทั้งหมดนี้รวมอยู่ในจีดีพี แต่ปัจจุบันทุกอย่างทำได้ผ่านระบบออนไลน์อย่างเว็บเอกซ์พีเดีย แอร์บีเอ็นบี ดูแผนที่ออนไลน์ โทรศัพท์กลับบ้านด้วยสไกป์และวอทส์แอพโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย การคำนวณจีดีพีจึงทำได้ยาก

นายชาลส์ บีน อดีตผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ กล่าวว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจทุกอย่างที่เคยรวมอยู่ในจีดีพี ปัจจุบันถูกสร้างขึ้นโดยการบริการ มีทั้งแบบเสียเงินและไม่เสียเงินจากการโฆษณามากกว่าผู้บริโภคดังนั้นจีดีพีที่แท้จริงอาจลดลงทั้งในแง่ปริมาณและคุณภาพ แม้ว่าการบริการเพิ่มขึ้นก็ตาม การชี้วัดเศรษฐกิจจึงยากกว่าเดิม

ปัจจุบันแม้มีความพยายามสร้างตัวชี้วัดใหม่ เช่น ราชอาณาจักรภูฏานใช้ดัชนีความสุขมวลรวมประชาชาติ (จีเอ็นเอช) แต่จีดีพีก็ยังมีส่วนสำคัญในการกำหนดนโยบาย

นายเดิร์ก ฟิลิปเสน อาจารย์ด้านประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ มหาวิทยาลัยดุคในสหรัฐ กล่าวว่า คนส่วนใหญ่ตระหนักดีหรืออย่างน้อยก็รู้สึกว่า มาตรวัดในขณะนี้ไม่ได้รวมถึงชีวิตประจำวันของพวกเขา จีดีพีอาจสูงขึ้นก็จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าชีวิตชาวบ้านดีขึ้นด้วย