ฝากขังครั้งแรก 'เลาต๋า แสนลี่' นักค้ายาเสพติด

ฝากขังครั้งแรก 'เลาต๋า แสนลี่' นักค้ายาเสพติด

ศาลอนุญาตฝากขังครั้งแรก "เลาต๋า แสนลี่ - ลูกชายอดีตกำนัน" ค้ายาไอซ์ – ยาบ้า หลังถูกจับกุมได้พร้อมยาไอซ์มูลค่า 11 ล้าน "ปส."ค้านประกันกลัวหนี

ร.ต.อ.ชัชวาล สุวรรณหงษ์ พนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามยาเสพติด 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ควบคุมตัว นายเลาต๋า แสนลี่ อายุ 76 ปี ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 294/2559 ลงวันที่ 6 ต.ค.59 , นายวิจารณ์ แสนลี่ อายุ 40 ปี บุตรชายนายเลาต๋า อดีตกำนันตำบลท่าตอน และนายบารมี บารมีเกื้อกูลทรัพย์ อายุ 37 ปี ทั้งสามเป็นคนจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาคดีร่วมกันมียาไอซ์ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย , พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 14 - 25 ต.ค.นี้เนื่องจากต้องสอบสวนพยานอีก 7 ปาก และรอผลตรวจพิสูจน์ยาเสพติดจาก ป.ป.ส. กับผลตรวจลายนิ้วผู้ต้องหา จากกองทะเบียนประวัติอาชญากร

โดยคำร้องระบุพฤติการณ์สรุปว่า วันที่ 11 ต.ค.59 สายลับได้พาเจ้าหน้าที่อำพรางตัว นำเงินล่อซื้อยาไอซ์ จำนวน 20 กิโลกรัม ราคา 11 ล้านบาท ซึ่งนัดพบกับนายเลาต๋า ผู้ต้องหาที่ 1 ที่ปั๊มน้ำมัน ไม่มีชื่อของนายเลาต๋า ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ โดยมีนายวิจารณ์ และนายบารมี ผู้ต้องที่ 2-3 ยืนคอยสังเกต กระทั่งนายเลาต๋า แจ้งสายลับให้ไปตรวจรับยาไอซ์ บริเวณกอไม้ข้างมินิมาร์ท ในปั๊มน้ำมันดังกล่าว จากนั้นกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวจับกุมผู้ต้องหาทั้งสาม ได้พร้อมยาไอซ์ของกลาง และอาวุธปืน 2 กระบอกกับกระสุนปืน 80 นัด โดยเมื่อเข้าค้นห้องทำงานในมินิมาร์ท และรถกระบะของผู้ต้องหา ยังพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนอีกจำนวนหนึ่ง จึงยึดไว้เป็นของกลาง ซึ่งพนักงานสอบสวน แจ้งข้อกล่าวหาทำผิด พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ม.4 , ม.7(1) , ม.15 วรรคหนึ่งและวรรคสาม , ม.66 วรรคหนึ่งและวรรคสาม , พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนฯ และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดให้การปฏิเสธ แต่ในชั้นการสอบสวน นายเลาต๋า ผู้ต้องหาที่ 1ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 - 3 ให้การปฏิเสธ

ขณะเดียวกัน ร.ต.อ.ชัชวาล พนักงานสอบสวน บช.ปส. ยังได้ยื่นคำร้องฝากขัง ครั้งแรกนายเลาต๋า อีกสำนวน ที่สายลับได้ล่อซื้อยาไอซ์ 1 กิโลกรัม ราคา 550,000 บาท เมื่อวันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา ในปั๊มน้ำมันของนายเลาต๋า ซึ่งระหว่างล่อซื้อและเตรียมที่จะจับกุมนายเลาต๋ากับพวกได้หลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ร่วมกันสืบสวนและจับกุมตัวนายเลาต๋า ได้เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา บริเวณปั๊มน้ำมัน ตำบลท่าตอน อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งชั้นจับกุมและสอบสวนนายเลาต๋า ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพ

และได้ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก นายชายชาญ หรือน๊อต ไชยสาร อายุ 19 ปี ชาวอุบลราชธานี และนาย มารุต หรือกล่อง ธนีคุณ อายุ 30 ปี ชาว กทม. ผู้ต้องหาที่1-2 ซึ่งเป็นเครือข่ายของนาย เลาต๋า อีกเป็นสำนวนที่ 3 ด้วยในคดีร่วมกันมียาบ้า ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งถูกจับกุมเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม บริเวณลานจอดรถ ซอยสาธุประดิษฐ์ 22 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม. พร้อมของกลางยาบ้า 4,000 เม็ด มูลค่าประมาณ 400,000 บาท กับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ที่ใช้ส่งยาเสพติด และโทรศัพท์มือถืออีก 1 เครื่อง ชั้นจับกุมและสอบสวน นายชายชาญ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ส่วนนายมารุต ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธ

ทั้งนี้การยื่นคำร้องฝากขังทั้ง 3 สำนวนดังกล่าว พนักงานสอบสวน ได้คัดค้านการปล่อยชั่วคราวชั่วคราวไว้จนกว่าคดีจะถึงที่สุดด้วยเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง หากได้รับการปล่อยชั่วคราวเกรงว่าจะหลบหนี

โดยศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องทั้งหมดแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับนายเลาต๋า แสนลี่ นั้นเคยได้รับการขนานนามว่า “ ราชายาเสพติด ” และถูกโยงว่าเป็นเลขาฯ คนสนิทของนายจาง ซี ฟู หรือขุนส่า ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่แห่งสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งนายเลาต๋า เคยถูก ปส. จับกุมเมื่อปี พ.ศ.2546 แต่ภายหลังศาลฎีกา มีคำตัดสินเมื่อปลายปี พ.ศ.2550 พิพากษายืนให้ยกฟ้อง ตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์