จับได้แล้วอุยกูร์แหกห้องควบคุม ตม.หนองคาย

จับได้แล้วอุยกูร์แหกห้องควบคุม ตม.หนองคาย

จับได้แล้วอุยกูร์แหกห้องควบคุม ตม.หนองคาย หลังหลบหนีไปได้23วัน สารภาพเดินเท้าตามทางรถไฟในเวลากลางคืน เป้าหมายไปมาเลเซีย เพื่อกลับตุรกี

จากกรณีที่ชาวอุยกูร์ 10 คน อาศัยคืนฝนตกใช้แรงงัดตัดเหล็กจนขาดแล้วเจาะฝ้าเพดานมุดขึ้นหลังคาอาคารควบคุมแล้วใช้ผ้าผูกมัดติดกันเป็นเชือกเพื่อโรยตัวลงมาจากหลังคาอาคารชั้น2และหลบหนีไปได้ เมื่อกลางดึกของเช้าวันที่20ก.ย. ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุนายสุชาตินพวรรณ ผวจ.หนองคายได้ระดมกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองออกไล่ล่าจนสามารถติดตามจับกุมตัวได้ 9 คน ได้ในตอนบ่ายของวันเดียวกันขณะกำลังหลบซ่อนอยู่ในป่าช้าข้างวัดชุมชนหนองขาม ต.หนองกอมเกาะ อ.เมืองหนองคาย แต่ยังขาดนายราชิต ฮาซิม อายุ22ปี อุยกูร์ สัญชาติตุรกี ที่ยังหลบหนีไปได้ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

 ล่าสุดเมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 13 ต.ค. 59 พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย,พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สมใจประสงค์ รองผกก.ตม.หนองคาย,พ.ต.ต.ธีรพงศ์ ประจักษ์จิตร์ สว.ตม.หนองคาย,ร.ต.อ.อภิชาติ คลธา รองสว.ตม. และกำลังจำนวนหนึ่ง ได้จับกุมตัวนายราชิต ฮาชิม (Mr.Rashit Hashim)ได้ที่ตลาดปรีชา อ.เมืองอุดรธานี ขณะเข้าทำการจับกุมนายราชิต ได้พยายามขัดขืนและพยายามหลบหนีแต่ก็สามารถจับกุมตัวได้ในที่สุด จากนั้นได้ควบคุมตัวมาสอบสวนที่กองกำกับการตรวจคนเข้าเมืองหนองคาย ซึ่งจากการตรวจค้นในกระเป๋าเป้ พบเงินสด 408 บาท โทรศัพท์มือถือ ซิมการ์ดโทรศัพท์ที่ซื้อใหม่ แบตสำรองไฟ ถ่านไฟฉายเสื้อผ้า และน้ำยาเปลี่ยนสีผม ที่เตรียมไว้ย้อมเปลี่ยนสีผมเพื่อเลี่ยงการสังเกตของเจ้าหน้าที่

 พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา ผกก.ตม.หนองคาย กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น นายราชิตให้การว่า หลังจากแหกห้องควบคุมแล้ว นายราชิตกับเพื่อนพากันเดินหลบหนีไปอยู่ในป่าช้าบ้านหนองขาม ซึ่งขณะที่เพื่อนทั้ง9คนถูกจับกุมตัวได้ นายราชิตก็ได้หลบอยู่ในป่าใกล้กันและหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าเขตจังหวัดหนองคาย 6 วัน จากนั้นได้เดินเท้าเลียบไปตามทางรถไฟจากหนองคายเข้าตัวเมืองอุดรธานีในเวลากลางคืน ส่วนกลางวันจะนอนพักในป่า โดยใช้เวลา 12 วัน และอาศัยอยู่ตามป่าในตัวเมืองอุดรธานีอีก 5 วัน ขณะหลบหนีออกจากห้องควบคุมมีเงินติดตัวอยู่ 4,000 บาท แต่ได้ใช้จ่ายไปจนใกล้จะหมด ซึ่งการจับกุมตัวได้ในครั้งนี้ เนื่องจากได้รับแจ้งจากผู้นำชุมชนหนองสิม เขตเทศบาลนครอุดรธานี แจ้งว่าพบตัวชาวต่างชาติลักษณะคล้ายนายราชิต ได้จ้างรถสามล้อเครื่องให้พาไปซื้อโทรศัพท์มือถือใหม่ที่ตลาดปรีชา ใกล้กับสถานีรถไฟอุดรธานี เมื่อเจ้าหน้าที่ติดตามไปสอบถามพนักงานขายโทรศัพท์และนำรูปนายราชิตให้ดู พนักงานขายก็ระบุว่าเป็นคนเดียวกันมาซื้อโทรศัพท์และซิมการ์ด จึงออกติดตามจนพบนายราชิต ขณะสะพายกระเป๋าเดินอยู่ข้างทางบริเวณตลาดปรีชาจึงเข้าควบคุมตัวไว้และขณะเข้าจับกุมนายราชิต ได้ขัดขืนพยายามหลบหนีแต่ก็สามารถควบคุมไว้ได้ ส่วนโทรศัพท์ที่ซื้อใหม่นายราชิตอ้างว่า ซื้อโทรศัพท์เพื่อติดต่อเพื่อนหาช่องทางเดินทางไปยังประเทศมาเลเซียและหาช่องทางกลับประเทศตุรกีต่อไป

จากการตรวจสอบประวัติ ทราบว่า นายราชิตเคยหลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและหลบหนีศาลมาแล้ว 4 ครั้ง และในครั้งนี้หลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองหนองคายเป็นเวลา 23 วันโดยจะได้คุมตัวนายราชิตส่งพนักงานสอบสวนสภ.เมืองหนองคายดำเนินคดีใน 2 ข้อหา หลบหนีไปจากการควบคุมของเจ้าพนักงานตรวจคนเข้าเมือง และร่วมกันทำลายทรัพย์สินของทางราชการต่อไป