ตัวตน’อภิภาวดี สนิทวงศ์ฯ’ นักปั้นอีเวนท์ แห่ง “เทรเบียง”

อยากมีอีเวนท์อย่างที่ฝัน อยากมีคนจัดการที่รู้ใจทุกอย่าง อยากมีที่ปรึกษาเพราะไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน แต่จะทำอย่างไรก็ชีวิตทุกวันนี้แสนวุ่นวาย มีหมวกหลายใบให้สวมใส่ มีภารกิจมากมายให้ต้องทำ ทว่าก็ยังอยากจัดกิจกรรมและแบ่งปันให้ผู้คนได้รับรู้ผ่านโลกโซเชียล

เหล่าความต้องการของคนยุคนี้ คือที่มาของ “เทรเบียง” (Très Bien Company) ธุรกิจรับจัดอีเวนท์ส่วนตัวแบบครบวงจร (Personal Life Events) และแผนงานส่งเสริมการตลาด ที่พร้อมตอบทุกช่วงเวลาสำคัญของชีวิต

ตั้งแต่วันเกิดไปจนถึงวาระสุดท้าย ในรูปแบบ One Stop Service หนึ่งในกลุ่มธุรกิจมาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ ใต้ร่ม บมจ. อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ บริษัท อีเวนท์ อันดับ 7 ของโลก!

“คนในสังคมทุกวันนี้ ยังมีความสามารถที่จะแบ่งเงินส่วนหนึ่งมาสนับสนุนอีเวนท์ที่สำคัญกับชีวิต ไม่ว่าจะของตัวเอง หรือของคนที่เขารัก”

คำยืนยันจาก “ติ๊ก-อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” ผู้นำคนใหม่แห่ง บริษัท เทรเบียง (Très Bien) จำกัด ที่เพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง “Social Director” เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สะท้อนความน่าสนใจของธุรกิจ Personal Life Events

การจัดอีเวนท์เป็นความสนุกและท้าทาย คนอื่นอาจมองเป็นเรื่องไกลตัว แต่สำหรับผู้บริหารสาว เธอว่า เป็นอะไรที่อยู่ในตัวมาตลอด เธอคือบุตรสาวของ “อรินทม์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” หลานสาวคนเล็กของ “หม่อมเจ้ารำไพศรีสอางค์ รพีพัฒน์” ธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ (พระบิดาแห่งกฎหมายไทย) มีโอกาสออกงานสังคมมาตั้งแต่เล็ก เธอชอบสังเกต ชอบความสวยงาม และใส่ใจรายละเอียดของการจัดงาน

เลยพูดได้เต็มปากว่า “อีเวนท์” คืองานที่เธอชอบ !

“เชื่อว่า ความชอบเป็นแรงขับที่ทำให้คนเราประสบความสำเร็จ ถ้าได้เริ่มจากความชอบ เราสามารถทำอะไรก็ได้ทั้งนั้นในชีวิตนี้” เธอเชื่อเช่นนั้น

คงเพราะความชอบแบบเดียวกัน ทำให้ยังคงผูกพันอยู่ในวงการอีเวนท์ โดยก่อนหน้านี้ เธอได้ร่วมก่อตั้งบริษัท 360 ดีกรีส์ คอปเปอร์เรทแอนด์ คอนซัลติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทประชาสัมพันธ์และที่ปรึกษาด้านซีเอสอาร์ ก่อนตัดสินใจมาร่วมงานกับเทรเบียง ตามคำเชิญของ เมฆ-เกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บมจ. อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ

“ติ๊กเชื่อในสายตาของพี่เมฆ เชื่อว่าเขาคงเห็นอะไรสักอย่างในตัวติ๊ก ในเมื่อมีคนที่มีความสามารถระดับนั้น มาเห็นว่า เราสามารถทำได้ ก็ยิ่งสร้างความมั่นใจให้ เลยบอกพี่เมฆกลับไปว่า ติ๊กอยากทำ และเชื่อว่า..ติ๊กทำได้”

นั่นคือคำมั่นที่เธอให้ไว้ก่อนเข้ามานั่งกุมบังเหียน เทรเบียง และเริ่มพิสูจน์ฝีมือตัวเอง ด้วยการทำงานที่เรียกได้ว่า “ทุ่มสุดชีวิต” เธอเริ่มจากใช้คอนเนคชั่นที่มี ชื่อเสียงที่สั่งสมมา ขอโอกาสเข้าไปให้บริการสุดพิเศษแก่ลูกค้า ซึ่งเธอเชื่อว่า ความทุ่มเทที่มี จะสร้างความประทับใจ จนก่อให้เกิดการบอกต่อ “ปากต่อปาก” ออกไปได้

“การทำ Personal Life Events จะมีความเป็น Personal Relationship (ความสัมพันธ์ส่วนตัว) รวมอยู่ด้วย เพราะฉะนั้นความเชื่อในตัวติ๊กก็สำคัญ และติ๊กพร้อมจะพิสูจน์”เธอบอก

แม้จะอยู่ในแวดวงสังคมคนมีชื่อเสียง แต่เธอยืนยันว่า ธุรกิจอีเวนท์ส่วนตัว พร้อมให้บริการกับลูกค้าทุกกลุ่ม ไม่จำกัด โดยจัดให้ได้ตั้งแต่เล็กสุด ขนาด 3 คน ขึ้นไป และใหญ่ยักษ์เท่าที่ลูกค้าจะต้องการ ในเม็ดเงินที่ “คุยกันได้” เพราะทุกอย่าง ขึ้นกับ “ไอเดีย” ไม่ใช่แค่ปริมาณเงินในกระเป๋า โดยเธอย้ำว่า ทำได้ไม่จำกัดจินตนาการ จะอลังการแค่ไหน ก็พร้อมตอบโจทย์ให้ และเธอพร้อม “สู้ตาย”

ที่สำคัญเป็นการให้บริการแบบ One Stop Service มาที่นี่ที่เดียวจบ ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกับอะไรอีก

“เรามีพ่อแม่คือ อินเด็กซ์ จึงมีความพร้อมมากกว่า เรามีของ มีประสบการณ์ มีคนทำงานที่เชี่ยวชาญ มีบริษัทพี่น้องที่จะช่วยเราได้ ซึ่งในธุรกิจ Personal Life Events เชื่อว่า เราแข็งแรงที่สุดแล้ว” เธอย้ำ

การอยู่ในครอบครัวใหญ่ และมี “ทีมงาน” ที่แข็งแกร่ง คือหัวใจของธุรกิจอีเวนท์ ในวิสัยทัศน์ของผู้นำหญิงคนนี้

“เราเหนื่อยแค่ออกไปหาลูกค้า แต่คนที่เหนื่อยกว่าคือ ทีมงานที่อยู่ข้างหลัง ก็ต้องให้เครดิตเขา เหมือนผู้ชายถ้าหลังบ้านไม่แข็งแรง ชีวิตก็พัง ในการทำงานถ้าทีมงานไม่ดี ผู้นำก็พังได้เช่นเดียวกัน” เธอบอก

นอกจากมีทีมงานที่ดี และเชื่อในพลังของทีมแล้ว แม่ทัพหญิงแห่ง เทรเบียง ยังบอกอีกว่า ทำธุรกิจอีเวนท์ ต้องมีแผนบี แผนซี สำรองไว้เสมอ เพราะในธุรกิจนี้ อะไรก็เกิดขึ้นได้

“ทำธุรกิจนี้ ต้องมีแพลนบี แพลนซี ไว้ตลอดเวลา เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า จะเกิดอะไรขึ้นบ้างในการจัดงานแต่ละครั้ง ถ้าฝนตก มีพายุเข้า ฝนตกมาก ตกน้อย ต้องรับมืออย่างไร นี่คือสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม ส่วนปัญหาที่จะเกิดขึ้น ไม่ต้องคิดอะไร ปัญหามีไว้ให้แก้ ไม่ได้มีไว้ให้กลุ้ม กลุ้มไปก็แก้ไขอะไรไม่ได้” เธอสะท้อนความคิด

ในปีนี้ บมจ.อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ ตั้งเป้ารายได้รวมไว้ที่ 1,700 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ที่ผ่านมาประมาณ 6-7% โดยมาจากกลุ่มธุรกิจ Marketing Services 37 % ซึ่งเทรเบียง อยู่ในกลุ่มธุรกิจนี้ คิดเป็น 12% เมื่อถามเป้าหมายจากผู้นำคนใหม่ อภิภาวดี บอกแค่ว่ายังไม่มีตัวเลขในใจ นอกจากคำว่า “จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้” ส่วนเป้าหมายส่วนตัวก็มีแค่..

“อยากให้เมื่อคนคิดถึง Personal Life Events ขอให้คิดถึงเทรเบียง ขอให้คิดถึงติ๊ก” เธอฝากความหวังไว้แค่นั้น

ส่วนจะทำได้ดีแค่ไหน เธอพร้อมพิสูจน์ให้เห็นแล้ว

........................................

 “ติ๊ก-อภิภาวดี สนิทวงศ์ ณ อยุธยา” จบปริญญาตรี จากคณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศึกษาต่อปริญญาโท ที่ Pittsburgh State University สหรัฐอเมริกา เคยทำงานเป็นอาจารย์ ก่อนเข้าสู่วงการอีเว้นท์ เธอสนใจเรื่องเด็กเล็ก ชอบเรียนรู้และอยู่กับเด็ก เธอว่า การได้อยู่กับเด็ก ทำให้เธอฉลาดขึ้น ไม่มีความกลัว ไม่มีกรอบ เปิดตัวเอง มีความคิดสร้างสรรค์ และรู้จักรับฟังมากขึ้น ซึ่งสามารถนำมาใช้กับการทำงานได้เป็นอย่างดี