จากแรงดลใจ สู่ธุรกิจเพื่อน้องหมา “ด็อกเดย์”

"ในหลวงรัชกาลที่ 9 ท่านทรงให้ความเมตตาต่อสัตว์ทุกตัว ไม่ว่าจะสายพันธุ์อะไรก็ตาม ท่านบริจาคเงินให้มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์สร้าง “สระสุวรรณชาด” ขึ้น เพื่อให้น้องหมาทุกตัวที่เจ็บป่วยด้วยโรคกระดูก ระบบประสาทและโรคข้อ ได้ไปใช้ในการรักษา และบำบัดฟื้นฟูตัวเอง ซึ่งนั่นเองที่เป็นแรงบันดาลใจให้พวกเรามาพัฒนาโรงแรมและสระว่ายน้ำดอกเดย์ขึ้น”

คำบอกเล่าจาก “เพิร์ลลี่-สุทิศา ปาติยเสวี” และ “แอน-ฐิติพร น้อยพานิช” สองผู้ร่วมก่อตั้ง ด็อกเดย์ ตัวแทนของคนรักน้องหมา ที่นำความรัก ความผูกพันและความเข้าใจในเจ้าสี่ขา มาพัฒนาเป็นธุรกิจ โดยมีแรงบันดาลใจจาก พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีเมตตาต่อสัตว์ เป็นแรงขับเคลื่อนธุรกิจนี้

“อย่างสระว่ายน้ำของที่นี่ ก็ได้แรงบันดาลใจจาก สระสุวรรณชาด โดยพระองค์ท่านอยากให้น้องหมาทุกตัวได้ทำกายภาพบำบัดในน้ำ เป็นธาราบำบัดสำหรับน้องหมา ก็มีโอกาสไปดูต้นแบบมาคร่าวๆ และคิดว่า เราอยากให้น้องหมาได้มีสระว่ายน้ำที่จะช่วยในการบำบัดแบบนี้ เลยเริ่มพัฒนาที่นี่ขึ้น”

บนพื้นที่กว่าครึ่งไร่ บน ถนน รามอินทรา ถูกเนรมิตให้เป็น “ด็อกเดย์” (Dogdays) โรงแรม และสระว่ายน้ำ เพื่อน้องหมา สไตล์ โมเดิร์น อาร์ต แห่งแรกในประเทศไทย หมุดหมายใหม่ของเหล่าคนรักเจ้าสี่ขา

ธุรกิจจากแรงบันดาลใจจากความรักและโอบอ้อมอารีต่อสัตว์ของพระองค์ท่าน ถูกนำมาเป็นจุดยืนสำคัญในการทำธุรกิจ ด้วยการออกแบบตกแต่งทั้งในส่วนของโรงแรมและสระว่ายน้ำ ที่พวกเขาบอกว่า ต้องใส่ใจในทุกมิติ

เราเลยได้เห็นโรงแรมของน้องหมา ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด อย่างพื้น ที่อาจดูไม่สวยงามนักในสายตาคน แต่ทำมาเพื่อให้น้องหมาเดินแล้วไม่ลื่น ไม่มีปัญหาในการเดิน สนามหญ้าเลือกใช้หญ้าจริง โดยไม่กลัวว่าน้องหมาจะคุ้ยเขี่ยจนหมดสวย เพราะเชื่อว่า ธรรมชาติให้ความสุขเจ้าสี่ขาได้มากกว่าของเทียม

สำหรับสระว่ายน้ำของมะหมา พวกเขาเลือกใช้สระน้ำเกลืออย่างดี เพราะเชื่อว่า ดีกับขนของน้องหมามากกว่าคลอรีน มีชูชีพสำหรับน้องหมา กรณีอาจหมดแรงโดยไม่รู้ตัว เพื่อความปลอดภัย ขณะภายในอาณาจักรของน้องหมา ก็เน้นออกแบบพื้นที่ให้โปร่ง อากาศถ่ายเท ไม่มีกลิ่น ที่สำคัญมีระบบดักเก็บน้ำทิ้ง เพื่อรับผิดชอบต่อสภาพแวดล้อมทั้งภายในด็อกเดย์ และเพื่อนมิตรรอบข้างด้วย

ในส่วนของ “พนักงาน” หัวใจของการทำธุรกิจนี้ ทั้งสองบอกว่า ต้องฝึกพนักงานทุกคนให้พร้อมบริการที่เข้าใจลูกค้า ซึ่งในเรื่องนี้ “ทัศนคติ” สำคัญที่สุด โดยจะรักหมาอย่างเดียวไม่ได้ แต่ต้องมีทัศนคติที่ดีกับน้องหมาทุกๆ ตัวด้วย

“พนักงานต้องมีทัศนคติที่ดีกับน้องหมา จะแค่รักหมาอย่างเดียวไม่ได้ เหมือนบางคนรักแค่หมาสวย หมาเรียบร้อย แบบนั้นไม่พอ แต่เขาต้องให้ความเอื้ออาทร และอ่อนโยนกับน้องหมาทุกๆ ตัวด้วย” พวกเธอบอกโจทย์

ผลจากการทำธุรกิจที่ใส่ใจในทุกมิติ ด้วยความรักและเอื้ออาทรที่มีต่อเจ้าสี่ขา สะท้อนกลับเป็นการตอบรับของสัตว์เลี้ยงและเจ้าของ ที่เข้ามาใช้บริการด็อกเดย์อย่างต่อเนื่อง

“สิ่งที่พบคือน้องหมาแฮปปี้ เราอาจมองว่า หมาพูดไม่ได้ แต่เขาฟ้องได้นะ อย่าง กลับบ้านไป แล้วคัน หรือเป็นโรคผิวหนัง แบบนั้นเจ้าของก็จะไม่พามาอีก แต่ของเราบางตัวแค่มาว่ายน้ำ แต่สนุกจนไม่ยอมกลับบ้าน จนเจ้าของต้องให้พักโรงแรมต่อก็มี ซึ่งล้วนเป็นผลจากความใส่ใจที่เรามีให้ทั้งสิ้น”

โดย ด็อกเดย์ มีห้องพัก 17 ห้อง ทั้งไซส์ มินิ ควีน และคิง ขึ้นกับขนาดตัวของน้องหมา และความต้องการของเจ้าของ ซึ่งไฮไลท์ของที่นี่คือห้องพักริมสระว่ายน้ำ หรือที่เรียก Pool Villa และห้องแบบ Connecting Room ที่ให้น้องหมาที่อยู่บ้านเดียวกันสามารถเดินหากันได้ ในราคาตั้งแต่คืนละ 500-1,000 บาท สำหรับตัวที่ไม่อยากพัก แต่อยากมาแค่ว่ายน้ำออกกำลังกาย คิดค่าลงสระ 1 ชม.พร้อมอาบน้ำเป่าขน ตั้งแต่ 400-1,000 บาท ขึ้นกับน้ำหนักตัวและสภาพขน

ความรักที่มีต่อน้องหมา ประหนึ่งคนในครอบครัว ทำให้ที่ผ่านมาด็อกเดย์มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงเทศกาล ที่เจ้าของมักมาฝากลูกรักไว้กับโรงแรมของพวกเขา ตั้งแต่สั้นๆ 1 คืน ไปจนอยู่ยาวเป็นเดือน ส่วนเสาร์-อาทิตย์ ก็นำครอบครัวมาใช้เวลาอยู่กับน้องหมา

ในอดีตธุรกิจยังมีคู่แข่งน้อยราย แต่วันนี้หลายคนอยากลงเล่นในสนามนี้ แต่พวกเธอยอมรับว่า..ไม่ง่าย

“ทุกวันนี้ที่พักสำหรับน้องหมามีเยอะมาก ทุกคนคิดคล้ายๆ กันว่า ดูง่ายดีนะ แป๊บเดียวได้แล้ว 500-700 บาท แต่พอทำจริงๆ จะรู้ว่า รายละเอียดมีเยอะมาก เหมือนเป็นเนอร์สเซอรี่ดีๆ เลย เป็นธุรกิจที่ต้องใส่ใจมากๆ”

ใครอยากมาทำธุรกิจนี้ ทั้งสองแนะแค่ว่า ไม่ต้องมาแข่งกันที่ราคา แต่ขอให้รักษาคุณภาพของการบริการให้ดีที่สุด สร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า ศึกษาตลาด รู้ต้นทุน โดยการทำธุรกิจวันนี้อาจยากกว่ายุคก่อน เพราะเศรษฐกิจไม่ดี คนใช้เงินน้อยลง ตัดสินใจช้าลง คนรักสัตว์ยอมจ่ายก็จริง แต่ใช้เงินอย่างมีเหตุผลขึ้น ซึ่งนั่นคือโจทย์ที่ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทัน

เช่นเดียวกับด็อกเดย์ ที่เลือกแก้โจทย์ด้วยการจับมือกับพาร์ทเนอร์ อย่าง จัดโปรโมชั่นร่วมกับ บมจ. บัตรกรุงไทย (KTC) ขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าผู้ถือบัตรเครดิต KTC โดยให้ส่วนลดสำหรับคนอยากพาน้องหมามาลงสระ สูงถึง 50% โดยหวังให้ธุรกิจที่ลงทุนไปประมาณ 10 ล้านบาท สามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 5 ปี ตามแผนที่วางไว้

ธุรกิจจากความรัก มีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงมีความเมตตาต่อสัตว์ทุกตัว เป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ทำให้ทั้งสองคนยังคงมุ่งมั่นที่จะขับเคลื่อนธุรกิจนี้ แม้ต้องเผชิญความท้าทายอย่างมากมายในการทำธุรกิจทุกวันนี้

ส่วนเป้าหมายในอนาคต ก็ไม่ได้หวังร่ำรวยมหาศาล มีเพียงความคาดหวังเล็กๆ ก็แค่..

“อยากทำสถานที่ ที่คนกับน้องหมามาสร้างความสุขได้มากกว่านี้”

“”””””””””””””””””””””””””””””””””

Key to success

ปั้นธุรกิจน้องหมาด้วยใจ “เอื้ออาทร”

๐ ใส่ใจในทุกรายละเอียด

๐ คำนึงถึงสุขภาพและความสุขของน้องหมา

๐ พนักงานต้องมีทัศนคติที่ดีต่อหมาทุกตัว

๐ การตั้งราคาต้องสมเหตุสมผล

๐ คนกับหมาสามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้

๐ หาพาร์ทเนอร์ กระตุ้นลูกค้ายุคกำลังซื้อซบ