อสังหาฯจัด"บิ๊กล็อต"โละสต็อก

อสังหาฯจัด"บิ๊กล็อต"โละสต็อก

“เซ็นจูรี่21” ผนึก 10 อสังหาฯรายเล็ก จัดขาย”บิ๊กล็อต” ลดราคาขั้นต่ำ10% เจาะนักลงทุนไทย –ต่างชาติ

นายศุภชัย แจ่มมโนวงศ์ กรรมการบริหาร บริษัท เซ็นจูรี่ 21 (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากภาวะการแข่งขันของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วง2ปีที่ผ่านมา มีการแข่งขันสูง เนื่องจากมีซัพพลายคอนโดมิเนียมเข้าสู่ตลาดจำนวนมาก ประกอบกับเศรษฐกิจที่ชะลอตัว เป็นปัจจัยทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อ ทำให้ยอดขายโดยรวมลดต่ำลง

โดยเฉพาะตลาดคอนโดมิเนียมปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่เพื่อขายมีอยู่ในตลาดจำนวนมาก อีกทั้งกำลังซื้อปัจจุบันในกลุ่มผู้ซื้อจริง มีจำกัดลดลงอย่างมาก การแข่งขันกลยุทธ์การขายต่างๆ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายจึงเป็นไปได้ยาก ขณะที่ตลาดกลุ่มนักลงทุน พบว่าเป็นตลาดที่ดีอยู่ และมีกำลังซื้อสูง โดยเฉพาะนักลงทุนใน 3 ตลาดหลัก คือ ฮ่องกง จีน และสิงคโปร์ ที่นิยมซื้ออสังหาฯในไทยเพื่อการลงทุน ในลักษณะการซื้อเหมายกชั้น

ดังนั้น บริษัทปรับแนวทางการขายรูปแบบใหม่ โดยนำโครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ จำนวน 10 โครงการ รวม 300 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท จัดงานขาย”บิ๊กล็อต ฟอร์ อินเวสเม้นท์” ในราคาลดพิเศษขั้นต่ำ 10% รวมถึงบางโครงการจะมีการการันตีผลตอบแทน 7% ระยะเวลา 3ปี ให้กับผู้ซื้อนักลงทุน โดยกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำซื้อขายในงานไม่ต่ำกว่า 3 ยูนิต หรือมูลค่า 10 ล้านบาท จนถึงมูลค่าสูงสุด 300ล้านบาท งานจัดขึ้นในวันที่ 29 ต.ค.นี้ ที่โรงแรมแกรนด์ไฮแอท

“การขายแบบนี้เสมือนตลาดนัดของผู้ประกอบการ เพื่อนัดหมายเจรจาซื้อขายอสังหาฯในรูปแบบต่างๆ ให้กับนักลงทุนรายใหญ่ และรายย่อย ปกตินักลงทุนต่างชาติ จีน ฮ่องกง และสิงคโปร์ นิยมเข้ามาซื้ออสังหาฯไทย เพื่อลงทุนอยู่แล้ว แต่เข้ามาซื้อโดยตรงกับเจ้าของโครงการ แต่การที่เปิดการขายแบบนี้ทำให้ตลาดการซื้อนักลงทุนกว้างมากขึ้น”

อย่างไรก็ตาม บริษัทกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำซื้อขายภายในงานไม่ต่ำกว่า 3 ยูนิต หรือมูลค่า 10 ล้านบาท จนถึงมูลค่าสูงสุด 300ล้านบาท ต่อ 1 โครงการ ต่อ 1 คน โดยงานจัดวันที่ 29 ต.ค. นี้ อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดมียอดขายภายในงานประมาณ 50% มูลค่าไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

"พฤติกรรมนักลงทุน สามารถซื้อที่อยู่อาศัยได้ในระดับราคา 40-50 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามนักลงทุนไม่ได้ซื้อเพื่ออาศัยอยู่เอง แต่จะเป็นการเก็งกำไร เพื่อปล่อยเช่า เพราะฉะนั้นเราจึงเห็นพฤติกรรมของกลุ่มนักลงทุนมีการซื้อเป็นจำนวนมาก หรือ ยกชั้น ทั้งนี้จะมีนักลงทุน 2 กลุ่ม ได้แก่ จะซื้อเพื่อลงทุนจะถือไว้ในระยะสั้น คาดว่าจะถือไม่เกิน 1 ปี เพราะส่วนใหญ่จะซื้อมาแล้วเก็บไว้สักระยะ จึงปล่อยขายต่อ ส่วนนักลงทุนที่ปล่อยเช่าจะถือในระยะยาว"นายศุภชัย กล่าว

สำหรับโครงการที่นำมาเข้าจัดงาน ทั้ง 10 โครงการ ประกอบไปด้วย โครงการ มี สไตล์ สุขุมวิท-บางนา โครงการ จี สไตล์ รัชดา-ห้วยขวาง โครงการ เดอะ วาลา บิซเน็ท ร่มเกล้า-สุวรรณภูมิ โครงการ ทอสคาน่า บิซ สุขุมวิท 101/1 โครงการ เดอะโซน แจ้งวัฒนะ 23 โครงการเดอะ คัลเลอร์รี่ วิวิด รัชดา-ห้วยขวาง โครงการ ทรู ทองหล่อ ติดซอยทองหล่อ โครงการ นาวา ลิฟวิ่ง คอนโดนวมินทร์ 75 โครงการ อาร์ทีมิส คอนโด สุขุมวิท 77 และ โครงการ ดิ ออสก้า เพชรเกษม 58