"สัมมากร" เร่งปั๊มยอดไตรมาสสุดท้าย

 "สัมมากร" เร่งปั๊มยอดไตรมาสสุดท้าย

"สัมมากร" ส่งโปรจัดหนักงานมหกรรมบ้านฯ ส่วนลดเป็นล้าน กระตุ้นปิดการขาย 3 โครงการใหม่ หวังปิดการขาย 100 ล้าน

นายกิตติพล ปราโมช ณ อยุธยา กรรมการผู้จัดการ บริษัท สัมมากร จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าในครึ่งปีหลัง สัมมากร เปิดตัว 3 โครงการใหม่ ได้แก่ โครงการบ้านเดี่ยวหรู สัมมากร ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ มูลค่าโครงการประมาณ 1,200 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยวหรู สัมมากร ไพร์ม 7 รังสิต-นครนายก มูลค่าโครงการประมาณ 700 ล้านบาท และโครงการทาวน์โฮม รามอินทรา-วงแหวน มูลค่าโครงการประมาณ 1,300 ล้านบาท ได้รับผลตอบรับเกินคาดจากการเปิดพรีเซล ในช่วงกลางไตรมาส 2 มียอดจองทั้ง 3 โครงการ กว่า 40% และมีลูกค้าให้ความสนใจแวะชมโครงการเฉลี่ย 90 รายต่อเดือน 
นายกิตติพล กล่าวเพิ่มเติมว่า สัมมากรได้เข้าร่วมงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 35 โดยมอบข้อเสนอพิเศษ กระตุ้นการตัดสินใจของลูกค้า โดยโครงการสัมมากร ชัยพฤกษ์-แจ้งวัฒนะ และโครงการสัมมากร รังสิต-นครนายก แถมแอร์ฟรีทั้งหลังพร้อมของแถมรวมมูลค่ากว่า 9 แสนบาท ส่วนโครงการ สัมมากรรามอินทรา-วงแหวน แถมฟรีค่าใช้จ่ายวันโอน สำหรับโครงการคอนโดติดรถไฟฟ้าสายสีม่วง เอสเก้า คอนโดมิเนียม รัตนาธิเบศร์ เปิดให้ลูกค้าสามารถเลือกห้องทุกชั้นในราคาเพียง 1.3 ล้านบาท ด้านโครงการที่ใกล้ปิดโครงการ มอบส่วนลดเป็นล้าน เฉพาะลูกค้าในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 35  ที่ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งคาดว่าจะสามารถปิดยอดขายภายในงานได้ 100 ล้านบาท
สำหรับกลยุทธ์การตลาดในช่วงไตรมาสุดท้ายนี้ สัมมากร ยังคงมุ่งเน้นการขาย 3 โครงการใหม่ในช่วงสุดท้ายของราคาพรีเซล และปิดโครงการเอสเก้า คอนโดมิเนียม รัตนาธิเบศร์ ซึ่งปัจจุบันปิดไปแล้ว 50 % รวมทั้ง ปิดโครงการเดิม ได้แก่ โครงการสัมมากร รังสิต คลอง 7 ที่เหลือเพียง 13 ยูนิตสุดท้าย และโครงการสัมมากร อควา ดิวินา ที่เหลือเพียง 2 ยูนิตสุดท้าย โดยเน้นการจัดกิจกรรม ณ โครงการ รวมทั้งออกบูธประชาสัมพันธ์ไปยังแหล่งชุมชนในละแวกใกล้เคียง และการใช้สื่อออนไลน์เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทุกช่วงอายุ

อย่างไรก็ดี บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2560 อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าบริษัทจะมีรายได้อยู่ 1,600-1,700 ล้านบาท โดยบริษัทวางแผนการเปิดโครงการใหม่ในปีหน้าเบื้องต้นจำนวน 3 โครงการ แบ่งเป็น โครงการบ้านเดี่ยว 2 โครงการ ในกรุงเทพฯและปริมณฑล ซึ่งบริษัทมีที่ดินรองรับสำหรีบการพัฒนาแล้ว 2 แปลง ในทำเลกรุงเทพฯด้านตะวันออกและตะวันตก และอีก 1 โครงการคอนโดมิเนียมที่บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาหาทำเลในกรุงเทพฯตามแนวรถไฟฟ้า หรือบริษัทอาจจะนำที่ดินที่พัทยา 25 ไร่ กลับมาพัฒนาอีกครั้ง หลังจากที่บริษัทชะลอการพัฒนาออกไป เนื่องจากไม่มั่นใจสถานการณ์ของตลาดอสังหาร์มทรัพย์ในพัทยาที่มีจำนวนซัพพลายด์ล้นตลาดในช่วงก่อนหน้านี้