เร่งเปิดประมูล11เมกะโปรเจค มูลค่า3.4แสนล้าน

เร่งเปิดประมูล11เมกะโปรเจค มูลค่า3.4แสนล้าน

"คมนาคม" เร่งเปิดประมูล 11 เมกะโปรเจค มูลค่ากว่า 3.4 แสนล้าน ดันรถไฟทางคู่ 5 เส้นทาง รถไฟฟ้าในกรุงเทพ 2 เส้นทาง พร้อมมอเตอร์เวย์ช่วงที่เหลือ

รัฐบาลผลักดันเมกะโปรเจคล็อตใหญ่ในไตรมาส 4 โดยคาดว่าจะมีทั้งสิ้น 11 โครงการ วงเงินกว่า 3.4 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการตามแผนปฏิบัติการ (Action Plan) โดยหวังว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบคมนาคมของประเทศและเป็นการกระตุ้นการลงทุนจากภาครัฐในช่วงเศรษฐกิจชะลอตัว

การเร่งรัดเปิดประมูลโครงการขนาดใหญ่ของกระทรวงคมนาคมมีอย่างต่อเนื่อง โดยเห็นได้จากบทบาทของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ร่วมประชุมและเร่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมรีบเปิดประมูลโครงการที่มีความจำเป็น

ในช่วงที่ผ่านมา รัฐบาลได้ประมูลโครงการขนาดใหญ่ไปแล้วหลายโครงการ ซึ่งส่งผลให้เม็ดเงินเข้าระบบและทำให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจดีขึ้นจากการลงทุนภาครัฐ

ทั้งนี้ บรรดานักวิเคราะห์และสำนักวิจัยต่างๆมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2560 ว่าจะขยายตัวมากกว่า 3% โดยส่วนหนึ่งได้รับอานิสงส์จากการลงทุนภาครัฐ ซึ่งคาดว่าจะมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบออกมาอย่างเต็มที่ในปีหน้า

นายพีระพล ถาวรสุภเจริญ รองปลัดกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมเตรียมเปิดประมูลโครงการตามแผนปฏิบัติการปี 2559 อีก 11 โครงการในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ มูลค่ารวม 344,609.49 ล้านบาท ตามแผนปฏิบัติการ

สำหรับ 11 โครงการดังกล่าวประกอบด้วย โครงการรถไฟทางคู่ 5 เส้นทางของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) มูลค่ารวม 101,878.23 ล้านบาท ได้แก่ เส้นทางประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร ระยะทาง 167 กิโลเมตร วงเงิน 17,249.90 ล้านบาทและเส้นทางมาบกะเบา-ชุมทางถนนจิระ 132 กิโลเมตร วงเงิน 29,449.31 ล้านบาท ซึ่งคณะกรรมการ (บอร์ด) ร.ฟ.ท. เตรียมพิจารณาเห็นชอบเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) ภายในเดือนนี้และได้รายชื่อผู้รับเหมาภายในสิ้นปี

กระทรวงคมนาคมยังเตรียมเสนอโครงการรถไฟทางคู่อีก 3 เส้นทางให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาภายในเดือนนี้และคาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือน พ.ย. ได้แก่ เส้นทางนครปฐม-หัวหิน ระยะทาง 165 กิโลเมตร วงเงิน 20,036.53 ล้านบาท, เส้นทางลพบุรี-ปากน้ำโพ ระยะทาง 148 กิโลเมตร วงเงิน 24,840.54 ล้านบาท และเส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ระยะทาง 90 กิโลเมตร วงเงิน 10,301.95 ล้านบาท

“ร่างทีโอไอาร์รถไฟทางคู่ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร และมาบกะเบา-จิระ ได้ใส่ข้อสังเกตและข้อคิดเห็นของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ที่ต้องการให้เกิดความโปร่งใสและเปิดกว้างให้มีผู้แข่งขันมากขึ้น โดยการรถไฟฯ จะเสนอให้บอร์ดเห็นชอบทีโออาร์ทั้ง 2 โครงการวันที่ 18 ต.ค. นี้ ส่วนอีก 3 เส้นทางที่เหลือน่าจะเปิดประมูลได้ในเดือน พ.ย. เพราะใช้ทีโออาร์ต้นแบบเหมือนกัน ถ้ามีสเปคและรายละเอียดเรียบร้อยก็ใช้วิธีประมูลแบบอีออคชั่นและเจรจาเสร็จก็จบ ถ้ามันอยู่ในกรอบวงเงิน” นายพีระพล กล่าว

โครงการรถไฟทางคู่ทั้งหมดจัดทำรายงานผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) เรียบร้อยแล้ว ยกเว้นเส้นทางหัวหิน-ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่ง ร.ฟ.ท. เตรียมเสนอรายงานอีไอเอ ฉบับแก้ไขให้คณะกรรมการผู้ชำนาญ (คชก.) พิจารณาในวันที่ 7 ต.ค. นี้

ดันรถไฟฟ้า2โครงการ1.75แสนล้าน

ด้านโครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนมีทั้งหมด 2 โครงการ มูลค่ารวม 175,161.26 ล้านบาท ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีแดงอ่อนบางซื่อ-พญาไท-มักกะสัน-หัวหมาก และสายสีแดงเข้ม บางซื่อ-หัวลำโพง (Missing link) ระยะทาง 25.9 กิโลเมตร วงเงิน 44,156.96 ล้านบาท โดย ร.ฟ.ท. จะนำเสนอต่อบอร์ด ในวันที่ 18 ต.ค. เช่นกัน จากนั้นเริ่มประกวดราคาในเดือน ต.ค.-พ.ย. นี้ และลงนามในสัญญาในเดือน ก.พ. 2560

อีกโครงการคือ รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ เตาปูน-ราษฎร์บูรณะ ระยะทาง 23.6 กิโลเมตร วงเงิน131,004.30 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) คาดว่าจะเสนอให้ที่ประชุม ครม. เห็นชอบภายในเดือน พ.ย. นี้ และมีกรอบเวลาประกวดราคาระหว่างเดือน ธ.ค. ปีนี้ถึงเดือน พ.ค. 2560

ประกวดราคามอเตอร์เวย์ที่เหลือ

สำหรับโครงการก่อสร้างทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) มี 2 เส้นทาง มูลค่ารวม 60,000 ล้านบาท ได้แก่ เส้นทางบางปะอิน-นครราชสีมา ที่เหลือสัญญาอีก 15 ตอน วงเงิน 30,000 ล้านบาท โดยจะประกวดราคาและลงนามในเดือนนี้ และมอเตอร์เวย์ บางใหญ่-กาญจนบุรี ที่เหลือสัญญาอีก 16 ตอน จะเริ่มประกวดราคาในเดือนนี้และลงนามในสัญญาภายในเดือน ธ.ค. นี้

“สำหรับเส้นทางบางปะอิน-โคราช ตอนที่มีปัญหาและมีผลกระทบจากผู้ร้องเรียน กรมทางหลวงต้องไปเคลียร์ให้เรียบร้อยก่อนลงนามในสัญญา โดยตอนนี้เพิ่งลงนามในสัญญาไป 21 ตอนจากทั้งหมด 41 ตอน” รองปลัดกระทรวงคมนาคมกล่าว

เปิดประมูลสุวรรณภูมิเฟส2อีก2สัญญา

สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินสุวรรณภูมิเฟสที่ 2 จะมีการเปิดประมูลมีทั้งหมด 2 สัญญา มูลค่ารวม 7,570 ล้านบาท ได้แก่ งานจ้างก่อสร้างส่วนขยายอาคารผู้โดยสารด้านทิศตะวันออก อาคารสำนักงานสายการบิน และที่จอดรถด้านทิศตะวันออก (CC2) มูลค่า 4,680 ล้านบาท

ปัจจุบันอยู่ระหว่างทบทวน ทีโออาร์คาดว่าจะเปิดประมูลได้ภายในเดือน ธ.ค. นี้และจะเสนอคณะกรรมการบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ บอร์ด ทอท. เห็นชอบรายชื่อผู้รับเหมาในเดือน ก.พ. 2560

สุดท้ายสัญญางานจัดซื้อพร้อมติดตั้งระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) มูลค่า 2,890 ล้านบาท โดยโครงการอยู่ระหว่างเปิดขายซอง ทีโออาร์จนถึงวันที่ 12 ต.ค. นี้ และข้อมูลล่าสุดถึงวันที่ 3 ต.ค. ที่ผ่านมา มีผู้ซื้อซองประกวดราคาแล้วทั้งหมด 5 ราย โดยกรอบเวลาหลังจากนี้คือ จะเปิดให้ยื่นซองเสนอราคาในวันที่ 28 พ.ย. และประกาศผลวันที่ 20 ธ.ค. นี้

เผยเบิกจ่ายปีนี้ตามแผน93%

นายพีระพล กล่าวต่อ ว่า การเบิกจ่ายงบประมาณตามแผน ปฏิบัติการปี 2559 ทั้งหมด 20 โครงการอยู่ที่ 1.9 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 93% จากแผนการเบิกจ่ายทั้งหมด 20,000 ล้านบาท ซึ่งอัตรานี้ ใกล้เคียงกับการเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวมของกระทรวงคมนาคม

สำหรับแผน Action plan ในปี 2560 นั้น กระทรวงคมนาคมมอบหมายให้ สนข. นำกลับไปทบทวน เพื่อเลือกเฉพาะโครงการที่มีจำเป็นหรือมีความพร้อมมากที่สุด เช่น โครงการที่ผ่านมา อีไอเอแล้ว และให้ตัดโครงการที่เป็นไปได้ต่ำออกไป โดยคาดว่าสนข.จะเสนอกลับมาเสนอในเดือน ต.ค. นี้