จับระทึก 'ผจก.หนุ่ม' ควงปืนปล้นธ.ออมสิน

ที่ธนาคารออมสิน สาขานราไฮเปอร์มาร์ท ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ภายใต้อำนวยการ พ.ต.อ.สุธรรม ชาติอาษา รอง ผบก.ภ.จว.น่าน พ.ต.อ.ประยูร ชำนาญคง ผกก.สภ.เมืองน่าน พ.ต.ท.อุทัย วงศ์คำแสน รอง ผกก.ภ.จว.น่าน พ.ต.ท.สุวัฒน์ จินดาวรรณ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองน่าน พ.ต.ท.รังสรรค์ ทินบุตร สวป.เมืองน่าน ร.ต.อ.นฤมิต สุขแสง รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน เข้าจับกุม นายณฤทธิ์ อามาตยศักดิ์ ผู้จัดร้านอาหาร จ.จันทร์เพ็ญ จ.น่าน อายุ 40 ปี อาวุธปืนไทยประดิษฐ์สั้น .22 หลังจากก่อนก่อเหตุ ควงปืนบุกเดี่ยวปล้นธนาคาออมสิน สาขาห้างนราไฮเปอร์มาท ถนนสุมนนเทวราช อ.เมือง จ.น่าน ได้หลังจากถูกประชาชนช่วยกันจับกุมไว้ได้หลังก่อเหตุหลบหนีออกจากธนาคาร พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดำเนินการาควบคุมตัว

พ.ต.ท.อุทัย วงศ์คำแสน รอง ผกก.ภ.จว.น่าน กล่าวว่า นายณฤทธิ์ อามาตยศักดิ์ ผู้จัดร้านอาหาร จ.จันทร์เพ็ญ จ.น่าน อาวุธปืนไทยประดิษฐ์สั้น .22 หลังจากก่อนก่อเหตุได้มาดูลาดเราได้ 3 วัน จนวันนี้ 3 ต.ค. เมื่อเวลา 13.15 น. ผู้ก่อเหตุสวมเสื้อผ้าร่มสีขาวหมวกกันน๊อคสีดำขาว ควงปืนบุกเดี่ยวเข้าเคาร์เตอร์ธนาคารออมสิน สาขาห้างนราไฮเปอร์มาท ให้ปืนบังคับให้เจ้าหน้าที่ธนาคารเปิดลิ้นชักแล้วตัวเองได้เก็บเงินและลวงเงินใส่ถุงผ้าร่มส่แดงที่เตรียมมา โดยใช้เวลาชิงทรัพย์ไม่ถึง 1 นาที จากนั้นได้หนีออกไปทางประตูธนาคาร โดยใช้มอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า ฟีโน่ นำสติกเกอร์สีขาวติดอำพรางรถและป้ายทะเบียน วตจ กรุงเทพมหานคร 657 เตรียมหลบหนี แต่ถูกประชาชนช่วยกันจับไว้ได้ พร้อมเงินที่ปล้น เงิน 295,500 บาท บาท และปืนได้

โดยระหว่างขี่รถมอเตอร์ไซค์หนีออกไปทางประตูหลังห้างนรานั้น ได้มีพลเมืองดี 2 คนพบเห็นจึงได้ช่วยกันเข้ารุมสะกัดจับคนร้าย และเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำห้างและธนาคารได้เข้ามาช่วยกันจับจนได้ตัวผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ดังกล่าวไว้ได้ โดยผู้ก่อเหตุชิงทรัพย์ใช้ปืนไม่ทราบขนาดเป็นแบบไทยประดิษฐ์ ในการเข้าชิงทรัพย์ในครั้งนี้และได้ทิ้งปืนไว้ตรงที่ตัวเองจอดรถไว้ เพื่อจะได้หนีก่อนที่พลเมืองดีจะเข้ามาช่วยกันจับ

ผู้เห็นเหตุการเล่าให้ฟังว่า ได้เห็นผู้ก่อเหตุดังกล่าวได้มาจอดรถไว้ที่ข้างห้างนราไฮเปอร์มารท และเดินไปไม่ถอดหมวกกันน๊อค แต่ไม่ได้เอะใจอะไร จากนั้น ได้เห็นถือถุงสีแดงวิ่งกลับมาที่รถและมีพลเมืองดีวิ่งตามมา ตอนแรกเข้าใจว่าเป็นเหตุทะเลาะวิวาท จากที่พลเมืองดีได้ช่วยกันจับและเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาจับกุมแล้ว ทราบชื่อภายหลังว่านายณฤทธิ์ อามาตยศักดิ์ บ้านเลขที่ 8 หมู่ 4 บ้านม่วงตึ๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน อายุ 40 ปี เป็นผู้จัดการ ร้านอาหาร จ.จันทร์เพ็ญ จากการสอบถามเบื้องต้นได้ความว่า ที่ได้ลงมือทำนั้น เนื่องจากตนเองมีภาระหนี้สินเป็นจำนวนมาก และหาทางออกไม่ได้ จำเป็นต้องการใช้เงินจึงได้ตัดสินใจลงมือชิงทรัพย์ที่ธนาคารออมสินดังกล่าว โดยได้เงินไปทั้งสิ้น 295,500 บาท

โดย นางสาว นัฐชา เชียงพรม อายุ 36 ปี แม่บ้าน ธ.ออมสินฯ สาขา ห้างนราไฮเปอร์มารท ถนนสุมนเทวราช อ.เมือง จ.น่าน กล่าวว่า ขณะที่ตนอยู่ในธนาคารด้านใกล้ประตู เห็นชายคนหนึ่งสวมเสื้อวอร์มสีขาวสวมหมวกกันนอ็คเต็มใบสีดำขาวถือถุงแดง พร้อมปืนสั้นในมือวิ่งเข้าไปในธนาคาร พร้อมกับบอกพนักงานว่าส่งเงิน จึงรู้ว่าเป็นการปล้นจึงรีบวิ่งไปเปิดประตู คนร้ายตะโกนว่าอย่าวิ่งตนไม่ฟังเสียง เปิดประตูออกไปพร้อมกับมีลูกค้าวิ่งตามออกไป ตนจึงวิ่งไปขอความาช่วยเหลือคนแถวนั้นบอกว่าช่วยด้วยคนร้ายปล้นธนาคาร ต่อมาก็เห็นคนร้ายวิ่งออกมา ประชาชนที่อยู่แถวนั้นใช้ไม้ถูพื้นตีคนก็ช่วยกันไล่จับไว้ได้

ส่วนอีกคน นายนพดล อินตะมาพลเมืองดีเล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ได้เห็นเหมือนคนตีกันบริเวณหน้าธนาคารและมีคนตะโกน ตนเองจึงวิ่งไปแต่พอผู้ก่อเหตุวิ่งมาก็ชักบืนใส่ตนเอง ตนเองจึงได้หลบลงข้างรถและคว้าไม้ม๊อบถือพื้นขว้างใส่ ผู้ก่อเหตุและได้เข้าไปจับ จากนั้นได้มีนายอัครเดช เสี้ยนเสริญ เข้ามาช่วยอีกแรงจึงสามารถจับตัวผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด

นายอัครเดช เสี้ยนเสริญ ได้เล่าถึงเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเองได้มาหาน้าที่ทำงานในห้างนรา และได้มีเสียงแอะอะโวยวายนึกว่ามีเรื่องจะทะเลาะวิวาทกัน คิดว่าจะเข้ามาห้าม แต่มีคนตะโกนว่ามีเหตุชิงทรัพย์ตนเองก็เลยเข้ามาช่วยจับในที่สุด

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาว่าลงมือก่อเหตุชิงทรัพย์ พกปืนในที่สาธารณะ ไว้ก่อนจากนั้นหลังจากสอบสวนเสร็จจะได้แจ้งข้อกล่าวหาถายหลังอีกครั้ง และจะนำตัวผู้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบคำรับสารภาพในวันพรุ่งนี้

ทั้งนี้ ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ของบริษัท โคคา-โคลา (ประเทศไทย) จำกัด ขอเรียนชี้แจงว่า ผู้ก่อเหตุคนดังกล่าวเป็นหุ้นส่วนของตัวแทนจำหน่ายหรือเอเย่นต์ของบริษัทไทยน้ำทิพย์ในจังหวัดน่าน มิใช่พนักงานของไทยน้ำทิพย์หรือบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มธุรกิจโคคา-โคลาในประเทศไทยแต่อย่างใด