รองหน.ปชป.ซัด 'สปท.' ล้าหลัง ฝากอนาคตประเทศไว้ไม่ได้

รองหน.ปชป.ซัด 'สปท.' ล้าหลัง ฝากอนาคตประเทศไว้ไม่ได้

"นิพิฏฐ์" รองหน.ปชป. ชี้ "ศาลรธน." ปูทางประชาธิปไตย ให้ส.ส.เสนอชื่อนายกฯเท่านั้น ซัด "สปท." ล้าหลัง ฝากอนาคตประเทศไว้ไม่ได้

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยต่อร่างรัฐธรรมนูญที่ลงประชามติว่า เมื่อคำวินิจฉัยออกมาตนก็เคารพ และขอบคุณศาลที่วินิจฉัยโดยวางหลักประชาธิปไตยให้กับประเทศชาติ เนื่องจากคำวินิจฉัยกลางของศาลตรงตามกับที่ตนเองเคยแสดงความคิดเห็นมาหลายครั้งแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีที่เป็นหน้าที่และอำนาจของ ส.ส. ให้เสนอชื่อผู้ที่จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีตามบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองโดยส่วนนี้ ถือว่าชัดเจนมาก ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวางหลักประชาธิปไตยให้กับประเทศ เพราะส.ส.คือผู้แทนของประชาชน ส่วนส.ว. ก็แค่มีอำนาจร่วมออกเสียงยกเว้นรายชื่อที่พรรคการเมืองเสนอมา กรณีที่จะให้มีนายกรัฐมนตรีนอกบัญชีเท่านั้น

“สุดท้ายแล้วศาลวินิจฉัยเหมือนกับที่ผมบอกไว้ทุกเรื่อง ตรงนี้ยิ่งชัดเจนว่า ความน่าเชื่อถือของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ที่เคยมีความเห็นขัดแย้งกับที่ศาลรัฐธรรมนูญ และมีความคิดเห็นแย้งกับผม จนเป็นข่าวออกมาเรื่องไอ้ห้อย ไอ้โหน รายวัน ผมก็โดนต่อว่าจากประชาชนอย่างหนักเหมือนกัน ตอนนี้คำอธิบายของศาลที่ออกมาชัดเจนว่า ส.ว.ไม่สามารถร่วมเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีได้ ยิ่งสะท้อนความคิดล้าหลังของ สปท.ที่ไม่ก้าวหน้า คับแคบ ฝากอนาคตประเทศไว้กับคนเหล่านี้ไม่ได้ ถ้าลงโทษด้วยการยุบ สปท.ก่อนกำหนดได้ก็จะดี” รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

เมื่อถามว่า การที่ศาลรัฐธรรมนูญเปิดช่องให้ส.ว.ร่วมออกเสียงกรณีที่จะให้มีนายกรัฐมนตรีนอกบัญชี จะยิ่งเปิดช่องให้มีนายกฯคนนอกได้ง่ายขึ้นหรือไม่ นายนิพิฏฐ์ กล่าวว่า ไม่เป็นเช่นนั้น เพราะศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชัดเจนแล้วคือ นายกฯต้องมาจากการเสนอชื่อของ ส.ส. เจตนาหลักตรงนี้ชัดเจนมากว่า ส.ส. คือ นักการเมืองผู้ที่ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน การให้รัฐสภาเลือกนายกรัฐมนตรีจากบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองเท่ากับเป็นการยอมรับการตัดสินใจของประชาชน ดังนั้น ส.ว. จะไม่มีสิทธิ์เสนอชื่อนายกฯอย่างชัดเจน ทั้งนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จะแก้ไขอย่างไร ตนมองว่า คงไม่ยากเกินไป เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ กรธ. ก็แค่ทำให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของประชาชนในผลประชามติ และคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญเท่านั้น