เดือด! ยื้องบ941ล้าน บีบสภากทม.ไฟเขียว

เดือด! ยื้องบ941ล้าน บีบสภากทม.ไฟเขียว

เดือด! กทม.ยื้องบ 941 ล้านบาท บีบ "สภากทม." ไฟเขียว ยกเหตุจ่าย 4 รายการ "เกรียงศักดิ์" ยันทำไม่ได้ เหตุผ่านสภาแล้ว จี้ "ผุสดี" เร่งลงนาม

รายงานข่าวจากศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (กทม.) แจ้งว่า ภายหลังที่นางผุสดี ตามไท รองผู้ว่าฯกทม. ในฐานะรักษาราชการแทนผู้ว่าฯกทม. ยังไม่ลงนามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบประมาณ 75,635,821,500 บาท เพื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา หลังจากผ่านความเห็นชอบจากสภากทม.ไปแล้ว โดยก่อนผ่านความเห็นชอบ คณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ได้ตัดงบประมาณช่วงสุดท้ายของการพิจารณาจำนวน 941,595,500 บาท ก่อนผ่านการพิจารณาจากสภากทม.ในวาระที่สามเมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นได้ส่งรายละเอียดการพิจารณางบประมาณไปยังฝ่ายบริหารกทม.ในวันที่ 6 ก.ย. ซึ่งฝ่ายบริหารมีเวลา 30 วันในการตรวจสอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ซึ่งจะครบ 30 วันในวันที่ 7 ต.ค.นี้ แต่ที่ผ่านมาฝ่ายบริหารพยายามให้สภากทม.เปิดประชุมเพื่อขอให้สภาเห็นชอบงบประมาณอีกครั้ง เนื่องจากฝ่ายบริหารยืนยันว่าสภากทม.ไม่มีอำนาจในการตัดงบประมาณตรงนี้ แต่ฝ่ายสภากทม.ก็ยืนยันว่ามีอำนาจตัดงบประมาณได้ ฝ่ายบริหารจึงตัดสินใจจะส่งเรื่องให้คณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้ตีความ แต่ได้ยกเลิกไปในที่สุด ทำให้ทั้งสองฝ่ายจึงยังไม่สามาาถหาข้อสรุปได้

ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารกทม. โดยนางผุสดีได้ทำหนังสือด่วนที่สุดที่ กท. 1902/8566 ถึงร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ โลหะชาละ ประธานสภากทม. เรื่อง ส่งร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2560 โดยหนังสือระบุว่า “ตามหนังสือ ที่อ้างถึงสภากทม.ได้ส่งร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2560 ซึ่งที่ประชุมสภากทม.ได้ลงมติเห็นชอบให้ตั้งเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 75,635,821,500 บาท มาให้ผู้ว่าฯกทม. ลงนามแล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อใช้บังคับเป็นกฎหมายภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับร่างข้อบัญญัติจากสภากทม.ความละเอียดแจ้งแล้วนั้น กทม.ได้พิจารณาแล้ว ยังไม่เห็นชอบด้วยกับร่างข้อบัญญัติดังกล่าว เนื่องจากมีบางรายการที่เป็นค่าใช้จ่าย ซึ่งกทม.ต้องชำระหนี้ตามสัญญา แต่กทม.โดยสำนักการศึกษา ได้นำข้อสังเกตจากการอภิปรายของคณะกรรมการวิสามัญไปพิจารณาปรับลดเนื้องาน และเจรจากับคู่สัญญาแล้วแต่ไม่อาจทำได้ กทม.จึงยังเห็นว่ามีความจำเป็นต้องของบประมาณเพิ่มเติมตามรายการดังต่อไปนี้”

ในหนังสือระบุต่อว่า “สำนักการศึกษา แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 1.โครงการพัฒนาทักษะการศึกษาทางดนตนีในสังกัดกทม.ระยะที่ 2 จำนวน 113,560,000 บาท 2.โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนรู้ทางดนตรีในสังกัดกทม. จำนวน 50,142,000 บาท ประกอบกับงบประมาณที่ตั้งไว้ในงบกลาง ทางสภากทม.ได้อนุมัตินั้นไม่เพียงพอโดยเฉพาะในรายการที่ต้องนำไปจ่ายสมทบเพิ่มเติม จากงบประมาณที่รัฐบาลจัดสรรมาให้ ส่วนก่อสร้างโครงการต่างๆ ที่รัฐบาลมอบหมายให้กทม.ดำเนินการ ซึ่งไม่ได้รับการอนุมัติรวมไปถึงรายการที่เป็นเงินสำรองสำหรับจ่ายเป็นเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการกทม. จึงของบประมาณเพิ่มเติมตามรายการต่อไปนี้ งบกลาง 1.รายการค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับภารกิจและหรือนโยบายที่ได้รับมอบจากรัฐบาล จำนวน 377,893,500 บาท 2.รายการเงินสำรองสำหรับจ่ายเป็นเงินบำเหน็จบำนาญข้าราชการกทม. จำนวน 400,000,000 บาท”

ในหนังสือระบุด้วยว่า “กทม.จึงขอส่งร่างข้อบัญญัติดังกล่าวให้สภากทม.เพื่อพิจารณาใหม่ตามมาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 เพราะในส่วน 941,595,500 บาท ซึ่งกทม.ขอแปรญัตติในขั้นสุดท้าย เพื่อให้การบริหารจัดการงบประมาณของกทม.เป็นไปตามแนวทางธรรมาภิบาล และเพื่อให้เป็นงบประมาณสมดุล ตามหลักการและเหตุผลที่ผู้ว่าณกทม.แถลงไว้ต่อสภากทม.”

จากนั้นเมื่อวันที่ 28 ก.ย. ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่กท. 0100/1497 เรื่อง ส่งร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 เพื่อพิจารณาใหม่ ถึงผู้ว่าฯกทม.โดยหนังสือระบุว่า "ตามหนังสือที่อ้างถึงผู้ว่าฯกทม. ได้ส่งร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ให้สภากทม.เพื่อพิจารณาใหม่ตามมาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528 ความละเอียดเเจ้งแล้วนั้น สภากทม.พิจารณาแล้วเห็นว่าบทบัญญัติเกี่ยวกับการพิจารณาร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายนั้น มีบัญญัติไว้เป็นการเฉพาะตั้งแต่มาตรา 103-106 และสภากทม.ได้ดำเนินการพิจารณาร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง ร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่อง งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2560 ในวาระ 2 และ 3 เสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2559 จึงถือว่าครบถ้วนตามกฏหมายและข้อบังคับการประชุมสภากทม.พ.ศ.2541 ทุกประการ

ในหนังสือระบุต่อว่า “เมื่อสภากทม.เห็นชอบร่างข้อบัญญัติงบประมาณรายจ่ายแล้วตามมาตรา 104 ได้บัญญัติไว้เป็นการเฉพาะว่า ให้ผู้ว่าฯกทม.ลงนามและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ ดังนั้นจึงไม่มีเหตุที่จะขอให้สภากทม.พิจารณาใหม่ และขอส่งคืนร่างข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครดังกล่าว เพื่อโปรดดำเนินการตามหน้าที่ต่อไป สำหรับเหตุผลที่จะขอเพิ่มเติมรายการงบประมาณทั้ง 4 รายการนั้น สภากทม.พิจารณาแล้วเห็นว่า ในขั้นตอนการบริหารงบประมาณสามารถดำเนินการได้หลายประการ ซึ่งหากจะเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายเพิ่ม เมื่องบประมาณไม่เพียงพอก็สามารถทำได้ตามกฎหมาย”

รายงานข่าวแจ้งด้วยว่า สำหรับข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 งบประมาณ 75,635,821,500 บาทนั้น พบว่ามีงบกลางจำนวน 13,588,494,100 บาท โดยเมื่อนำตัวเลขงบประมาณที่กทม.ขออนุมัติเพิ่มเติมในครั้งนี้ นำมารวมกันทั้ง 4 รายการ จะเท่ากับงบประมาณที่คณะกรรมการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ได้ตัดไปจำนวน 941,595,500 บาทพอดี อย่างไรก็ตามในวันนี้(30ก.ย.) เวลา 14.00 น. ร.ต.ต.เกรียงศักดิ์ จะแถลงข่าวถึงการปฏิบัติหน้าที่ของสภากทม.ในการพิจารณา ข้อบัญญัติกรุงเทพมหานครเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ 2560 ด้วยตนเอง