สุดงง! ผอ.โรงรียนดังถูกสั่งย้าย ก่อนเกษียณแค่3วัน

สุดงง! ผอ.โรงรียนดังถูกสั่งย้าย ก่อนเกษียณแค่3วัน

งงเป็นไก่ตาแตก! ผอ.โรงเรียนดังจะเกษียณอีก3วัน ถูกสั่งย้ายขณะโรงเรียนเตรียมงานมุทิตาจิตไว้แล้ว ด้านผอ.ใหม่เหลืออายุราชการอีกเพียง3วันเช่นกัน

ช่วงเช้าวันนี้ที่โรงเรียนบ้านหมากแข้ง เทศบาลนครอุดรธานี ที่เป็นโรงเรียนดังที่เป็นข่าวฮือฮา มีนักเรียนคู่แฝดมากที่สุดในโลกถึง 29 คู่ คณะครูอาจารย์ของโรงเรียน ได้มารวมตัวที่หน้าห้องทำงานของ นายสุรพล สุขประเสริฐ ผอ.โรงเรียนฯ พร้อมมอบช่อดอกไม้เพื่อให้กำลังใจ

หลังจากที่คณะกรรมการศึกษาธิการ (กศจ.) อุดรธานี มีมติให้โยกย้ายนายสุรพลไปเป็น ผอ.โรงเรียนบ้านคำกลิ้ง ต.บ้านจั่น อ.เมือง และให้นายพยัคฆ์ รัตนปกรณ์ ผอ.โรงเรียนบ้านตาด ต.บ้านตาด อ.เมือง ย้ายมาเป็นผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง

โดยทั้ง 2 ท่าน จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน นี้ หรือเหลือเวลาทำงานอีกเพียงอีก 3 วันเท่านั้น

คณะครูอาจารย์ที่เดินทางมาให้กำลังใจ แม้ยังคงรอคำสั่งของนายประเวศ รัตนวงศ์ รักษาการศึกษาธิการ จ.อุดรธานี ที่ยังไม่ลงนาม โดยได้ขอให้นายสุรพล อยู่ในตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ไปก่อน โดยเฉพาะในวันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) ครูอาจารย์-นักเรียน จะร่วมกันแสดงมุทิตาจิต และนักเรียน 900 คนรำอวยพรหน้าเสาธง หลังจากที่นายสุรพลได้สร้างคุณูปการแก่โรงเรียนมากมาย ติดต่อกันยาวนานมากกว่า 6 ปี และยังขอให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนการออกคำสั่งย้ายครั้งนี้ด้วย

ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง เปิดเผยว่า ทราบข่าวจากเพื่อนครูว่ามีคำสั่งย้าย ก่อนที่ตนจะเกษียณอายุราชการเพียง 3 วันเท่านั้น ซึ่งการย้ายผู้บริหารโรงเรียนที่ความจริง ต้องมี 2 องค์ประกอบ คือ การประเมินผลผู้ปฏิบัติงาน ที่จะต้องนำผลงานของแต่ละปีมาประเมิน และการย้ายตามกฎหมาย พรบ.ครู มาตรา 59 ที่ผู้ที่จะย้ายเข้ามาโรงเรียนใดก็แล้วแต่ ต้องให้กรรมการสถานศึกษาเห็นชอบ ว่าต้องการให้ใครมาบริหารโรงเรียน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อโรงเรียน

โดยต้องนำ 2 ส่วนนี้มาพิจารณา ส่วนอายุราชการที่เหลือเพียง 2-3 วัน แต่ต้องมาถูกคำสั่งย้าย เรื่องนี้ยังไม่ทราบ แต่ก็อาจเป็นไปได้ หากมีกรณีร้ายแรงที่คำสั่งจะชอบในบางสิ่งบางอย่าง แต่ไม่สบายใจว่า ที่มีการพิจารณาย้ายได้นำข้อมูลต่างๆ ไปพิจารณาอย่างรอบคอบแล้วหรือยัง

ตามพรบ.ครู มาตรา 59 ชี้ว่าผู้ที่จะย้ายมาโรงเรียนบ้านหมากแข้ง ต้องให้กรรมการสถานศึกษาให้ความเห็นชอบ แต่ผู้ที่จะย้ายมาแทนทางกรรมการสถานศึกษาไม่แห็นชอบที่จะให้ย้ายมา หากย้ายมาแล้วจะเกิดปัญหาหรือไม่ ตนยอมรับในสิ่งที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองพิจารณา แต่ขอทราบว่าพิจารณาโดยได้ข้อมูลที่แท้จริงถ่องแท้หรือยัง ที่ผ่านมาอยู่ที่โรงเรียนนี้ 6 ปี และอีก 3 วันจะเกษียณแล้ว มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้อีกไหม หากคำสั่งมาจะมีผลอย่างไรก็ตาม แต่ยืนยันจะทำหน้าที่ที่โรงเรียนนี้จนถึงวันที่ 30 กันยายน

ด้านนายประเวศ รัตนวงศ์ รักษาการศึกษาธิการ จ.อุดรธานี และ ผอ.สนง.เขตพื้นที่การศึกษาอุดรธานี เขต 1 ซึ่งจะเกษียณราชการในปีนี้เช่นกัน เปิดเผยว่า เรื่องดังกล่าวกำลังอยู่ในขั้นตอนทางธุรการ และช่วงนี้ตนต้องไปร่วมงานเกษียณอายุราชการต่าง ๆ ซึ่งตนก็จะเกษียณด้วย จะไม่ขอให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ ขอให้ไปสัมภาษณ์นายชยาวุธ จันทร ผวจ.อุดรธานี ซึ่งมีฐานะเป็นประธานกรรมการศึกษาธิการ จ.อุดรธานี ที่พิจารณาเรื่องนี้

ขณะที่ผู้สื่อข่าวติดต่อจะขอสัมภาษณ์นายชยาวุธ ผวจ.อุดรธานี แต่ติดภารกิจติดตามองคมนตรี ที่มาปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ อ.บ้านดุง รวมทั้งไม่สามารถติดต่อ นายพยัคฆ์ รัตนปกรณ์ ว่าที่ ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ได้

แต่กลับมีแถลงการณ์ของนายพยัคฆ์ฯ ลงวันที่ 28 กันยายน 59 ออกแจกจ่ายรวมทั้งส่งทาง “สื่อออนไลน์” ระบุความเป็นมาและข้อเท็จจริง การได้รับแต่งตั้งเป็นผอ.รร.บ้านหมากแข้ง ก่อนเกษียณอายุ 3 วัน 1.เกิดจากการย้ายผู้บริหารตามคำขอปี 53 ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ 2.คกก.ประเมินขอย้ายให้ตนได้คะแนนสูงสุด แต่กลับให้บุคคลอื่นส่งเอกสารเพิ่มเติม 3.อกคศ.เขตมีมติลับให้บุคคลที่เคยมีคะแนนต่ำกว่า มาดำรงตำแหน่ง ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง (8 ธ.ค.53)

4. กคศ.ได้มีมติให้เพิกถอนมติการแต่งตั้ง ผอ.รร.บ้านหมากแข้ง 3 ครั้ง ตามหนังสือลับ ครั้งที่หนึ่ง 21 ม.ค.56 ครั้งที่สอง 14 พ.ค.58 และครั้งที่สาม 13 ก.ย.59 มติและคำวินิจฉัยของ กคศ.ครั้งที่ 3 ระบุเพิ่มเติมอย่างชัดเจนว่า การโยกย้าย ผอ.โรงเรียนบ้านหมากแข้ง ไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวิธีการย้ายผู้บริหาร จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ ให้ถอนมติและคำสั่งแต่งตั้ง ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ผอ.พยัคฆ์ รัตนปกรณ์ ได้รับความเป็นธรรมถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนเกษียณอายุราชการเพียง 3 วัน