แล่ “วิถีรวยหุ้นฉบับวีไอ’

“ตั้งแต่ภาวะดอกเบี้ยตกต่ำ ตลาดหุ้นขึ้นลงตามกระแสข่าวทั่วโลก นักลงทุนหน้าใหม่ แม้กระทั่งคนวัยเกษียณ เริ่มไหลเงินเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นมากขึ้น ส่วนใหญ่เลือกลงทุนแนว Value Investor บนพื้นฐานความรู้ที่ผิดๆ”

“ฉัตรชัย วงแก้วเจริญ” นักลงทุนแนววีไอ อดีตคณะกรรมการ สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) ขยายความเห็นส่วนตัวว่า นักลงทุนที่เพิ่งเข้ามาลงทุนแนววีไอ ส่วนใหญ่มีหลักการลงทุนแนววีไอไม่ถูกต้อง 

หลายคนยังมีความเชื่อที่ว่า การลงทุนแนวเน้นคุณค่าต้อง 1.ถือหุ้นยาวนาน 2.ซื้อแล้วไม่ขาย 3.ไม่ต้องเฝ้าหุ้น และ4.ซื้อทิ้งไว้เลย เป็นต้น

หลักการเช่นนี้เป็นความเชื่อที่ผิดอย่างมาก หากยังลงทุนด้วยวิธีนี้ โอกาสประสบความสำเร็จ หรือชนะตลาดหุ้น หนทางริบหรี่เหลือเกิน

มือใหม่บางคนเลือกเดินตามรอยเท้า “ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร” ผู้เผยแพร่แนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่าคนแรกในประเทศไทย ด้วยการซื้อหุ้นชั้นนำแล้วถือยาว โดยไม่ติดตามข่าวสารใดๆ หวังประสบความสำเร็จเหมือนนักลงทุนรุ่นใหญ่ หลังในอดีตเคยได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้น ซีพี ออลล์ หรือ CPALL ค่อนข้างมาก

“สิ่งแวดล้อมโลกที่ไม่เหมือนเดิม ราคาหุ้นชั้นนำหลายตัวมีราคาแพงขึ้น จะหวังซื้อแล้วโกยกำไรมากๆ คงทำได้ยาก วันนี้นักลงทุนบางรายเริ่มมองการลงทุนในหุ้นที่ออกไปขยายกิจการในต่างประเทศ เพราะฐานะการเงินมีโอกาสขยายตัวมากกว่าธุรกิจที่มีรายได้จากในประเทศอย่างเดียว”

นักลงทุนแนววีไอ กล่าวถึง “หลักลงทุนแนววีไอที่ถูกต้อง” ว่า ต้องซื้อกิจการที่ดี ในราคาที่มีส่วนลด จากมูลค่าของกิจการพอสมควร ก่อนจะเข้าไปจับจองเป็นเจ้าของ นักลงทุนต้องศึกษาหาความรู้ และหาคุณสมบัติที่ดีเกี่ยวกิจการนั้นให้ได้เสียก่อน 

ส่วน “หลักขายแนววีไอที่ถูกต้อง” คือ 1.พื้นฐานกิจการแย่ลงอย่างถาวร เช่น มีเทคโนโลยีใหม่เข้ามาทดแทน ,สภาพการแข่งขันของอุตสาหกรรมเปลี่ยนแปลงไป หรือมีการแข่งขันมากขึ้น

จากหลักการลงทุนดังกล่าว หากพิจารณาดีๆ จะพบว่า ไม่มีปัจจัย "เวลา" เข้ามาเกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะซื้อหุ้นตัวนั้น มานานแค่ไหน แต่ถ้าเข้าประเด็นข้อใดข้อหนึ่งนักลงทุนต้องขาย

ที่สำคัญไม่มีประเด็น "ต้นทุน" เข้ามาประกอบการตัดสินใจเช่นกัน ถ้าแนวโน้มหุ้นที่ถืออยู่ไม่ดี มูลค่าหุ้นต่ำกว่าราคาตลาดพอสมควร ก็ต้องขาย ไม่ว่าจะขาดทุนหรือกำไร

“วิถีการลงทุนแนววีไอต้องรู้จัก อดทน รอคอย และซื้อขายให้ถูกวิธี”