'จักรทิพย์'เสนอปรับ4เท่า พวกเบี้ยวจ่ายใบสั่ง

"พล.ต.อ.จักรทิพย์" ผบ.ตร. ถก 53 หน่วยงานแก้จราจร เสนอปรับ 4 เท่า พวกเบี้ยวจ่ายใบสั่ง
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวระหว่างประชุมแก้ไขปัญหาจราจรในเขต กทม. และปริมณฑล ว่า วันนี้ได้เชิญ 53 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วมหารือ และร่วมแสดงความคิดเห็นถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาการจราจร โดยจะพูดคุยกันในทุกมิติ และจะเน้นให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น ส่วนตัวมองว่าปัญหาจราจรมีหลายเรื่อง เช่น มีรถจำนวนมากกว่าถนน ฝนตก น้ำท่วมขัง มีการก่อสร้างทางรถไฟฟ้า หรือก่อสร้างอื่นๆในบริเวณช่องทางการจราจร ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะมีการพูดคุยต่อไปเพื่อหาข้อสรุป สำหรับกรอบระยะเวลาการแก้ปัญหารถติดใน 21 เส้นทางหลัก ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม กำหนดไว้ 1 เดือน ไม่ถือว่าเป็นการกดดันการทำงาน โดยมองว่าการทำงานทุกอย่างต้องกำหนดกรอบระยะเวลา ซึ่งการแก้ไขปัญหาจราจรนั้น ควรจะเริ่มจากผู้ขับขี่ต้องมีวินัย รองลงมาคือการอำนวยความสะดวกของเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ทางด้าน นายนันทพงศ์ เชิดชู รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ที่ประชุมได้มีการตั้งคณะทำงานขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจราจรขึ้น 5 ชุด ได้แก่ 1.คณะทำงานขับเคลื่อนด้านกฎหมาย การกวดขันวินัยจราจร และอำนวยความสะดวกการจราจร 2.คณะทำงานขับเคลื่อนด้านกายภาพและปรับปรุงสภาพถนน 3.คณะทำงานขับเคลื่อนด้านการขนส่งสาธารณะ 4.คณะทำงานขับเคลื่อนด้านการบริหารจัดการและเทคโนโลยี และ 5.คณะทำงานขับเคลื่อนด้านการเสริมสร้างจิตสำนึกและการประชาสัมพันธ์ สำหรับประเด็นการเชื่อมโยงข้อมูลการออกใบสั่งของตำรวจกับกรมการขนส่งทางบก ที่ระบุว่าหากไม่ไปเสียค่าปรับกับตำรวจ จะไม่สามารถต่อทะเบียนรถยนต์และทำใบขับขี่ได้นั้น เรื่องนี้อยู่ในคณะทำงานชุดที่ 1 คือ การขับเคลื่อนด้านกฎหมายฯ โดยกรมการขนส่งทางบกเป็นกรรมการในชุดดังกล่าว มีตำรวจเป็นหัวหน้าชุด และจะมีการนัดประชุมกลุ่มย่อยในครั้งต่อไปในเร็วๆนี้ ซึ่งจะต้องพูดคุยกัน
ในข้อกฎหมาย ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะให้ใบสั่งมีผลในทางปฏิบัติ มีผลในการช่วยควบคุมพฤติกรรมผู้ขับขี่หรือผู้ขับรถที่ฝ่าฝืนได้ ส่วนจะมีหน่วยงานใดเป็นผู้รับผิดชอบในการจัดทำฐานข้อมูลหรือแอพพลิเคชั่นนั้น ยังไม่มีการพูดคุยในเรื่องนี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมมีการเสนอให้เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย กวดขันในเรื่องการออกใบสั่ง ให้เป็นวาระพิจารณาเร่งด่วน หากใครได้รับใบสั่งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ไม่ไปชำระเงินภายใน 30 วัน ทางพนักงานจะส่งหนังสือแจ้งให้ชะลอการจดทะเบียนเสียภาษี และผู้ที่ถูกใบสั่งจะต้องจ่ายค่าปรับเพิ่มเป็น 4 เท่า ซึ่งเรื่องนี้เป็นการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วน







