พาณิชย์สั่งซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไม่ต่ำกว่ากก.ละ8บาท

พาณิชย์สั่งซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ไม่ต่ำกว่ากก.ละ8บาท

"พาณิชย์" สั่งโรงงานอาหารสัตว์ซื้อข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่ต่ำกว่า 8 บาท/กก. พร้อมชะลอนำเข้าข้าวสาลี หวั่นดึงราคาข้าวโพดตกต่ำ

น.ส.วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เตรียมมาตรการรองรับช่วงที่ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลังที่จะออกสู่ตลาดจำนวนมากพร้อมกันในช่วงเดือนพ.ย.นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ราคาตกต่ำ โดยได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการโรงงานอาหารสัตว์ ให้รับซื้อเมล็ดข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ ราคาไม่ต่ำกว่าปีก่อน หรือกิโลกรัม (กก.) ละ 8 บาท ที่ความชื้น 14.5% เมื่อทอนเป็นราคาที่เกษตรกรขายแบบฝัก จะอยู่ที่กก.ละ 3.80-4.00 บาท ซึ่งเป็นราคาที่เกษตรกรอยู่ได้ ทั้งนี้หากโรงงานใดที่รับซื้อในราคาต่ำกว่า 8 บาท หากพบเห็น ขอให้เกษตรกรแจ้งมาที่กรมฯ ทันที เพื่อจะแก้ปัญหาให้ เช่น อาจกำหนดเป็นราคาแนะนำที่โรงงานต้องรับซื้อ หากไม่ได้ผล จะพิจารณาออกมาตรการอื่น ๆ ต่อไป

“ราคาที่กก.ละ 8 บาทนั้น ถือว่าเท่ากับปีที่ผ่านมา และยังมีแนวโน้มที่จะปรับเพิ่มขึ้นเป็นกก.ละ 9 บาทได้อีก ในช่วงปลายฤดูการผลิต เนื่องจากปัจจุบันนี้ ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศมีเพียงปีละ 4.3 ล้านตัน ซึ่งไม่เคยเพียงพอกับความต้องการใช้ที่ปีละ 7-8 ล้านตันอยู่แล้ว ทำให้โรงงานต้องสั่งนำเข้าข้าวสาลีมาผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงทุกปี เพียงแต่ปีนี้ ในช่วงเดือนพ.ย.-ธ.ค. จะมีผลผลิตออกสู่ตลาดจำนวนมาก ทั้งข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดสัตว์เลี้ยง ทำให้กรมฯ กังวล และต้องหาทางป้องกันไม่ให้ราคาลดลงในช่วงที่ผลผลิตออกมาดังกล่าว ในทุกผลผลิต ซึ่งในส่วนของข้าวโพดนั้น ก็ขอความร่วมมือให้รับซื้อไม่ต่ำกว่ากก.ละ 8 บาท แต่หากไม่ให้ความร่วมมือ กรมฯ ก็จะบันทึกชื่อไว้”น.ส. วิบูลย์ลักษณ์ กล่าว

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้ขอความร่วมมือให้โรงงานอาหารสัตว์ ชะลอการนำเข้าข้าวสาลี ที่สั่งซื้อไว้จากต่างประเทศออกไปก่อน โดยให้นำเข้าได้ในช่วงที่ผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกหมดแล้ว หรือช่วงเดือนก.พ.60 เป็นต้นไป เพื่อไม่ให้กระทบกับราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศ แต่ทั้งนี้ยอมรับว่า รัฐบาลคงไม่สามารถจำกัดปริมาณการนำเข้าข้าวสาลีได้ เพราะไทยเป็นผู้ผลิต และส่งออกเนื้อสัตว์รายใหญ่ของโลก หากยังมีต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะจากวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่สูง จะทำให้ราคาเนื้อสัตว์สูงตามไปด้วย กระทบต่อทั้งผู้บริโภคในประเทศ และทำให้สูญเสียศักยภาพในการแข่งขันด้านการส่งออกกับประเทศที่มีต้นทุนวัตถุดิบอาหารสัตว์ถูกกว่า ทั้งสหรัฐฯ และบราซิล

ส่วนปัญหาราคามันสำปะหลังตกต่ำนั้น ก็ได้ขอความร่วมมือไปยังผู้ประกอบการมันสำปะหลังแล้ว เพื่อให้รับซื้อหัวมันสดจากเกษตรกร ในราคากก.ละ 1.90 บาท ซึ่งผู้ประกอบการโรงงานมันเส้น และเอทานอล รับปากจะให้ความร่วมมือเต็มที่ เพราะราคาส่งออกมันเส้นของไทยดีมาก เมื่อทอนเป็นราคาหัวมันสดแล้ว จึงรับซื้อได้ที่กก.ละ 1.90 บาท แต่ทั้งนี้ ขอให้เกษตรกรอย่าเพิ่งเร่งรีบขุดหัวมันขึ้นมา เพราะจะได้คุณภาพต่ำ และเชื้อแป้งไม่ได้ตามมาตรฐานที่ 25% ซึ่งจะทำให้ราคารับซื้อต่ำลงไปตามเปอร์เซ็นต์ของเชื้อแป้ง โดยที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและบริหารจัดการมันสำปะหลัง (นบมส.) ได้อนุมัติมาตรการพักชำระหนี้ให้เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง โดยมีเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 560,000-600,000 ครัวเรือน คาดจะใช้เงินงบประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นยาแรง ที่จะช่วยเหลือไม่ให้ราคามันฯ ตกต่ำ รวมถึงยังมีมาตรการชดเชยดอกเบี้ยให้เกษตรกร เพื่อชะลอการขุดหัวมันไว้กัน เพื่อทำให้เกษตรกรมีเงินไปใช้จ่ายในช่วงที่ยังขายผลผลิตไม่ได้ คาดว่าจะนำเสนอให้ครม.เห็นชอบสัปดาห์หน้า

สำหรับราคามันสำปะหลัง ขณะนี้ แบบคละ กก.ละ 1.20 บาท แต่ถ้าเชื้อแป้ง 25% กก.ละ 1.60-1.70 บาท ลดลงจากปีก่อนที่ราคากก.ละ 2.50 บาท โดยคาดว่าผลผลิตหัวมันสดปี 59/60 จะออกสู่ตลาดช่วง 6 เดือนแรก คือ เดือนพ.ย.59-เม.ย.60 ปริมาณ 21 ล้านตัน จากผลผลิตทั้งฤดูกาล 31 ล้านตัน