“เดอะซี ศรีราชา”ดึงเจแอลอลเจาะนักลงทุน

นางวันเพ็ญ ธนธรรมสิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวลธ์ ดีเวลลอปเปอร์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังประสบผลสำเร็จการดำเนินโครงการ “เดอะซี " คอนโดมิเนียมสูง 39 ชั้น ติดชายทะเลศรีราชา โดยมียอดจองอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เปิดตัวโครงการกลางปี 2557 ทำให้สามารถปิดการขายโครงการไปด้วยยอดขายมูลค่ารวม 1,800 ล้านบาท พร้อมดำเนินการก่อสร้างอาคารสูง 39 ชั้น ซึ่งได้รับอนุมัติการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และใบอนุญาตก่อสร้างเรียบร้อย คาดว่าสามารถสร้างเสร็จได้ตามกำหนดกลางปี 2560
ล่าสุด บริษัทเปิดให้จองเฟสพิเศษ จำนวน 100 ยูนิต ตกแต่งเสร็จพร้อมเข้าอยู่ พื้นที่เริ่มต้น 31.80 ตารางเมตรขนาด 1 ห้องนอนไปจนถึง 3 ห้องนอนขนาดพื้นที่ 111.10 ตารางเมตร โดยได้แต่งตั้งให้บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือเจแอลแอล เป็นตัวแทนขาย มุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักลงทุนอสังหาริมทรัพย์ทั้งไทยและต่างประเทศ โดยเปิดให้นักลงทุนและผู้สนใจทั่วไปได้จองตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นไป
ภาพรวมของภาคอสังหาริมทรัพย์ในภาคตะวันออกกำลังเริ่มคึกคักและมีทิศทางเติบโตที่สดใส ตัวเลขล่าสุดเดือนมกราคม-มีนาคม 2559 จากศูนย์ข้อมูลการลงทุนภาคที่ 4 (BOI) มีการอนุมัติการส่งเสริมการลงทุนในภาคตะวันออก มูลค่าลงทุนรวมกว่า 4,000 ล้านบาท มีการจ้างงานกว่า 9,000 ตำแหน่ง โดยมีสัดส่วนการลงทุนในจังหวัดชลบุรีและระยองรวมกันมากกว่า 80% เพื่อพัฒนาภาคตะวันออกให้เป็นแหล่งผลิตสินค้าจากการลงทุนของต่างประเทศและมีกลุ่มทุนจากญี่ปุ่นเข้ามาลงทุนมากที่สุด เห็นได้จากในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามีการขยายตัวของการเช่าที่พักอาศัยของชาวญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมากโดยเฉพาะในอำเภอศรีราชา ซึ่งเป็นทำเลที่มีชัยภูมิเหมาะสมในการพักอาศัย
“จากปัจจัยที่กล่าวมาเรามองเห็นภาพที่จะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ในภาคตะวันออก ชุมชนญี่ปุ่นจะขยายตัวเพิ่มขึ้น การลงทุนเพิ่มขึ้น ภาคอสังหาฯ ย่อมขยับตัวตาม แม้ว่าปัจจุบันจะมีที่พักอาศัยคงเหลืออยู่ในตลาดจำนวนมาก แต่จากแนวโน้มความต้องการที่เพิ่มขึ้นแล้ว ภาคอสังหาฯ ในชลบุรีโดยเฉพาะที่ศรีราชา ถือว่าเป็นทิศทางขาขึ้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จะเริ่มขยับตัวกันมากขึ้นเช่นกัน” นางวันเพ็ญ กล่าว

นางสุพินท์ มีชูชีพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โจนส์ แลง ลาซาลล์ (ประเทศไทย) จำกัด (เจแอลแอล) กล่าวว่า แนวโน้มการเติบโตของศรีราชา พบว่ามีปัจจัยสำคัญจากการพัฒนาสาธารณูปโภคด้านการคมนาคมจากภาครัฐเพื่อรองรับยุทธศาสตร์การพัฒนาท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังและขยายการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก โดยมีการสร้างเส้นทางขนส่งเชื่อมต่อโครงข่ายทางบก ทางน้ำและทางอากาศ การขนส่งระบบรางโครงรถไฟความเร็วสูง ถนนมอเตอร์เวย์ใหม่ซึ่งเป็นเส้นทางรถยนต์จากแหลมฉบังสู่จังหวัดในภาคตะวันตก ผ่านเข้าสู่ทวายในฝั่งพม่า รวมทั้งมีการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา สัตหีบ ในเชิงพาณิชย์ด้วย ก่อให้เกิดการภาพการขยายตัวอย่างรวดเร็วและชัดเจนนับจากนี้ไปของภาคอุตสาหกรรม ภาคขนส่ง ภาคการท่องเที่ยว และที่พักอาศัย
นอกจากนี้ ยังมีการขยายแผนการลงทุนในไทยจากญี่ปุ่นเพิ่มมากขึ้นหลังเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน โดยปัจจุบัน จำนวนบริษัทมากกว่า 60% ของบริษัทที่ตั้งฐานการผลิตอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออกที่เป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ส่งผลทำให้ราคาที่ดินเพื่อพัฒนาที่พักอาศัยในศรีราชาเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา