'หมอพรทิพย์' แจงผลร่วมพิสูจน์ศพ 'ธวัชชัย'

'หมอพรทิพย์' แจงผลร่วมพิสูจน์ศพ 'ธวัชชัย'

"พญ.คุณหญิงพรทิพย์" แจงผลร่วมพิสูจน์ศพ "ธวัชชัย" ยืนยันผลตับแตก-ซี่โครงหัก เกิดหลังจากผูกคอ แต่ยังหารายละเอียดไม่ได้ว่าแขวนเองหรือถูกจับแขวน

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ฐานะที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้าหน้าที่กรมที่ดินจังหวัดพังงา ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าต่อการสืบสวนหาข้อเท็จจริงกรณีของนายธวัชชัย ว่า จากการตั้งประเด็นเพื่อหาข้อเท็จจริงมี2ประเด็นที่ต้องชี้แจง คือ ประเด็นแรก คือ กระบวนการแขวนคอ จากข้อมูลและภาพมีรอยรัดที่คอ อยู่ระดับกล่องเสียงเฉียงขึ้นหลัง กว้างไม่เกิน 0.5 เซนติเมตรจริง ในรายงานแพทย์และภาพถ่ายมีสิ่งที่บ่งชี้ว่าระหว่าการแขวนคอ ซึ่งอาจจะแขวนเอง หรือ ถูกแขวนนั้นนายธวัชชัยมีชีวิตอยู่ คือ มีเลือดออกใต้ตาขาว แต่ผลการชันสูตรหมอระบุด้วยว่ามีกระดูกกล่องเสียงหัก แต่ไม่มีรูปถ่ายเพื่อยืนยัน ทำให้เกิดข้อกังขาเพราะรอยรัดดังกล่าวนั้นต่ำกว่ากล่องเสียง ดังนั้นส่วนตัวอยากตรวจสอบบริเวณคอ หรือบริเวณกระดูกกล่องเสียงอีกครั้ง เพราะไม่มีภาพถ่ายยืนยัน และเป็นข้อสงสัยสุดท้ายเพราะรอยรัดที่คออยู่ในระดับต่ำ อีกทั้งการผ่าชัณสูตรเปิดแผ่นหนังที่ระดับไหปลาร้า แต่การชัณสูตรของคนที่ถูกแขวนคอ หรือ ถูกบีบคอต้องเปิดแผ่นหนังที่คอขึ้นไปทางใบหูสองข้าง หรือลักษณะตัววาย แต่เมื่อเปิดไม่เต็มที่จึงเห็นภาพไม่ชัด และยังมีข้อข้องใจแม้ลักษณะภายนอกจะไม่มีรอยเลือดที่เกิดจากการบีบคอปรากฎให้เห็นก็ตาม

พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวด้วยว่า ในการตรวจต่อจากนั้นได้เข้าไปดูในห้องที่เกิดเหตุ และได้ปฏิบัติตามข้อมูลที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ให้ไว้ คือ บานพับประตู อยู่สูงจากพื้นพอสมควร จึงได้นำภาพของผู้ตาย ซึ่งระบุความสูงและหาบุคคลที่สูงเท่ากัน สรุปได้ว่าหากจะแขวนคอตายที่บานพับ น้ำหนักจะลงพื้น ซึ่งกรณีดังกล่าวก้นของผู้ตายลอยเหนือพื้น ขณะที่ลักษณะของบานพับมีความชัดเจนว่าหากประตูเปิดอยู่จะไม่สามารถแขวนได้ ต้องอยู่ลักษณะปิดเท่านั้น ดังนั้นประเด็นที่ต้องพิจารณาต่อไป คือ ผู้ตายถูกจับแขวน หรือแขวนเอง โดยการจำลองเหตุคณะทำงานได้นำถุงเท้าคู่ใหม่ ที่มีเนื้อผ้าคล้ายกัน รวมถึงนำดัมเบล น้ำหนัก40ก.ก.,60ก.ก. และ80ก.ก.มาถ่วงน้ำหนักพบว่าการถ่วงน้ำหนักดังกล่าวสามารถดึงเส้นถุงน้ำให้บางไม่เกิน0.5ซม. ได้ ดังนั้นยืนยันข้อมูลได้ว่าถุงเท้าสามารถทำให้เกิดรอยได้โดยไม่มีข้อสงสัยอีก ส่วนที่ยังมีประเด็นที่ต้องตั้งคำถามต่อ คือ ถุงเท้าดังกล่าวสามารถถูกแขวนโดยบุคคลอื่นได้หรือไม่ คณะทำงานยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดีเอสไอไม่ได้พูดความจริงทั้งหมดตั้งแต่แรก หรือมีภาพถ่ายสภาพนายธวัชชัยระหว่างอยู่ในห้องของดีเอสไอ ทำให้เกิดปัญหาและกลายเป็นความไม่เชื่อมั่นว่านายธวัชชัยแขวนคอเองหรือมีผู้จับไปแขวนคอ

พญ.คุณหญิงพรทิพย์กล่าวด้วยว่า และประเด็นที่สอง คือ ตับแตก ในการประชุมพบว่าทางโรงพยาบาลให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะได้นำรายงานแพทย์และมีฟิล์ม โดยรายงานแพทย์ระบุรายละเอียดชัดเจน ว่า เมื่อมาถึงโรงพยาบาล เวลาประมาณ01.00น. นายธวัชชัย ไม่มีสัญญาณชีพจรใดๆ และมีความพยายามปั๊มหัวใจเพื่อช่วยชีวิต แต่ไม่สามารถจำนวนครั้ง ทำให้ความดันขึ้นประมาณ100มิลลิเมตรปรอทและมีชีพจร แต่นายธวัชชัยยังไม่รู้สึกตัว จากนั้นเมื่อเวลา02.20น. ได้ถ่ายฟิล์มเอ็กซ์เรย์ ซึ่งตนได้เห็นภาพในฟิล์มเอ็กซ์เรย์ ซึ่งเป็นของผู้ตายและระบุเวลา02.20น. โดยภาพในฟีล์ม ไม่มีรอยหัก แต่เมื่อเทียบกับผลการชัณสูตรศพ แพทย์ระบุว่า ศพมีซี่โครงหัก โดยข้างขวา หักตั้งแต่ซี่ที่2-6และข้างซ้าย หักตั้งแต่ซี่ที่2-7ดังนั้นสรุปเบื้องต้นว่าระหว่างที่นายธวัชชัยอยู่ที่ดีเอสไอไม่พบกระดูกซี่โครงหัก แต่ใครจะทำให้หักนั้น ต้องไปสืบสวนต่อ ขณะที่ภาวะตับแตกนั้น แพทย์ระบุและนำภาพถ่ายให้ดู พบว่าตับมีรอยแตกขนาดใหญ่ตรงกลางและมีเลือดออกในช่องท้องขนาด1,000ซี.ซี. ซึ่งกรณีของปริมาณเลือดดังกล่าวต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญในเรื่องการผ่าตัด หรือมีความเชี่ยวชาญด้านการบาดเจ็บที่ช่องท้องมาพิจารณา ซึ่งในวันที่20ก.ย. นั้นจะมีการประชุมเพื่อพิจารณาในประเด็นภาวะตับแตก หากตับแตกก่อนที่กระดูกไม่หักจะมาจากสาเหตุใดได้บ้าง และสามารถปั๊มชีพจรขึ้นได้หรือไม่ ทั้งนี้ตนมีความเห็นด้วยว่ากรณีภาวะตับแตก จนมีเลือดออกปริมาณดังกล่าวและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นต้องฟังความเห็นของแพทย์ที่รักษานายธวัชชัยด้วย

“ภาวะที่ทำให้ตับแตกได้นั้น จากการตรวจจากศพสามารถบอกว่าต้องได้รับแรงกระแทกโดยของแข็ง ส่วนของแข็งจะวิ่งมาโดนตัว หรือของแข็งวิ่งมาชนตัวตอบไม่ได้ แต่ในบางครั้ง เช่น ถูกกระทืบ มีรอยรองเท้าสามารถบอกได้จากการชัณสูตรศพ แต่ในวันนี้ยังตอบประเด็นนี้ไม่ได้ ซึ่งรอยช้ำตามร่างกายของผู้ตายนั้นเราไม่พบ แต่พบรอยช้ำที่กระดูกเท่านั้น อย่างไรก็ตามมีคนตั้งคำถามว่าตับอาจจะแตกก่อนที่จะถูกช่วยชีวิต ทั้งนี้ในสิ่งที่เห็นอาจเกิดความเห็นอาจแตกต่างกันได้ เช่น แพทย์ส่วนหนึ่งบอกว่าตับแตกเพราะเกิดจากการปั๊ม เพราะปริมาณเลือดไม่ไปด้วยกันกับขนาดที่แตก ขณะที่แพทย์อีกคนบอกว่าตับแตกก่อนที่จะแขวนคอ ดังนั้นต้องไปว่ากันในหลักการ ดังนั้นสิ่งที่ต้องการสื่อให้สังคมรับทราบ คือ ทุกคนอยู่บนหลักฐานและความจริง แต่ประเด็นคือสิ่งที่เป็นหลักฐานที่เห็น ไม่สามารถสรุปว่าความจริงคืออะไรได้ทั้งหมด เพราะเป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนและความร่วมมือของแพทย์” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่ากระบวนการที่เกิดขึ้นเป็นกระบวนการตัดตอนคดีหรือไม่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ กล่าวว่า ทุกคนมีสิทธิคิด แต่หน้าที่ของนิติวิทยาศาสตร์คือการรวบรวมพยานหลักฐานให้ปรากฎโดยสมบูรณ์ ถูกต้อง และเต็มที่ หากยังพบกรณีที่ยังหาคำตอบไม่ได้ต้องไปหาเหตุผล เช่น รอยรัดที่คอ ทั้งนี้มีตำราแพทย์บางเล่มระบุว่า ส่วนใหญ่เวลาแขวนรอยรัดต้องอยู่เหนือกล่องเสียง บริเวณใต้คาง เฉียงขึ้น แต่มีข้อเขียนระบุอีกว่า10-20เปอร์เซ็นต์ อาจไม่อยู่ในตำแหน่งดังกล่าว หรือกรณีที่กระดูกกล่องเสียงชิ้นเล็กหัก แม้จะไม่เกิดจากการแขวนคอ กระดูกดังกล่าวสามารถหักได้ โดยทั้งหมดนั้นอาจไม่ใช่วิทยาศาสตร์ ดังนั้นขึ้นอยู่กับการชั่งน้ำหนักทั้งหมดว่า เมื่อเข้าไปตรวจสอบแล้ว เช่น กรณีที่ที่นายธวัชชัย ขาดอากาศยังมีชีวิตอยู่ ดังนั้นหากระหว่างที่นายธวัชชัยมีชีวิต รู้สึกตัวและถูกจับแขวน ดิ้นเพียงนิดเดียวก็หลุดแล้ว เพราะมีมุมให้เกี่ยวเพียงนิดเดียวเท่านั้น นอกจากที่นายธวัชชัยไม่รู้ตัว ซึ่งกรณีไม่รู้ตัวอาจเกิดได้หลายเหตุ เช่น ถูกทำร้ายร่างกาย ดังนั้นต้องปรากฎแผล หรือถูกวางยาหรือไม่ แต่หมอตรวจแล้วไม่พบอะไร เป็นต้น