'บิ๊กตู่'เตรียมยึดที่ดินอีก 2,188 ไร่ ใน'สุราษฏร์-โคราช'

'บิ๊กตู่'เตรียมยึดที่ดินอีก 2,188 ไร่ ใน'สุราษฏร์-โคราช'

"พล.อ.ประยุทธ์ " เผย "ส.ป.ก." เตรียมยึดที่คืนอีก 2,188 ไร่ ในจังหวัดสุราษฏร์ธานีและนครราชสีมา เพื่อจัดสรรให้เกษตรกรทำกิน

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาต(คสช.) กล่าวในรายการ คืนความสุขให้คนในชาติ ว่าการบูรณาการหน่วยงาน ร่วมพัฒนาพื้นที่ ส.ป.ก. ที่ยึดคืนจากการครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อจัดสรรให้เกษตรกรได้มีที่ดินทำกิน ผลการปฏิบัติภายใต้คำสั่งของ คสช.ตลอด 2 เดือนที่ผ่านมานั้น รัฐบาลโดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดำเนินการยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก. ที่ครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย เพื่อมาทำการปรับปรุงพัฒนาที่ดิน ก่อนที่จะจัดสรรที่ดินให้เกษตรกร ต่อไป โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการยึดและรื้อถอน สามารถยึดคืนได้ทันที 28 แปลง เนื้อที่ เกือบ 28,000 ไร่ ใน 6 จังหวัด โดยไม่มีผู้คัดค้าน สำหรับการปรับปรุงพัฒนาที่ดินนั้น เราจะต้องดำเนินการแบบ “บูรณาการ” หลายหน่วยงาน ดังนี้(1) กรมพัฒนาที่ดิน ปรับปรุงดินให้เหมาะสมมากขึ้นกับการเกษตรกรรม (2) กรมชลประทาน พัฒนาแหล่งน้ำ ฝายทดน้ำ ระบบกระจายน้ำ (3) กรมปศุสัตว์ ส่งเสริมการเลี้ยงแพะ ซึ่งมีความต้องการของตลาด ทั้งในประเทศและการส่งออกปีละมากกว่า 2 แสนตัว (4) กรมส่งเสริมการเกษตร ส่งเสริมการทำเกษตรผสมผสาน เป็นรายได้เสริม ระหว่างรอผลผลิตทางการเกษตรนะครับ (5) กรมส่งเสริมสหกรณ์ ส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ (6) คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) จะดูแลและสนับสนุนเพิ่มเติมให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างสมบูรณ์ที่สุด และ(7) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ส่งเสริมให้ความรู้ การทำปศุสัตว์ แนะนำการบริหารจัดการ การตลาด การพัฒนาสู่ “การเกษตรแปลงใหญ่” ต่อไป

สำหรับพื้นที่ที่มีจุดเด่นอยู่ใกล้ถนน ใกล้แหล่งท่องเที่ยว ก็อาจจะสามารถพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวการเกษตรได้ ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น โดยมีหน่วยงานภาคการท่องเที่ยวเข้ามาดูแลเพิ่มเติมอีกด้วย ทั้งนี้ ตามแผนงานของ ส.ป.ก. จะดำเนินการให้แล้วเสร็จทั้งหมดภายในต้นปี 2560 การดำเนินงานในระยะต่อไป ช่วงที่เหลือของปี 2559 ก็จะดำเนินการยึดคืนพื้นที่เพื่อการพัฒนาตามแนวทางเบื้องต้นอีก จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 2,188 ไร่ ใน จ.สุราษฏร์ธานี และ จ.นครราชสีมา ระยะสุดท้าย ห้วงปี 2560 ตามโรดแม็พ เราจะแบ่งการดำเนินการยึดคืนที่ดิน ส.ป.ก. ที่ครอบครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย อีก 28 แปลง เนื้อที่ประมาณ 28,000 ไร่

นอกจากนั้น ยังได้มีแนวทางในการพัฒนาพื้นที่ ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีการบูรณาการทุกหน่วยงาน จะใช้ Agri-Map ช่วยในการพิจารณาความเหมาะสมของพื้นที่ และใช้รูปแบบ “สหกรณ์” เข้ามาดูแลพื้นที่ โดยเราได้จัดทำโมเดลการแบ่งสรรพื้นที่ ออกไปตามการใช้งานนะครับ เป็น 4 ส่วน คือ (1) พื้นที่อยู่อาศัย (2) พื้นที่ทำกิน (3) พื้นที่ส่วนรวม เช่น สำนักงานสหกรณ์ แปลงรวม ตลาดเกษตรกร เป็นต้น นะครับ แล้วก็ (4) พื้นที่ป่า ถ้ามีก็จะต้องช่วยกันดูแลป่าปลูกป่าเพิ่มเติมนโยบายนี้ นอกจากจะเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ให้มีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเพื่อลูกหลาน และการใช้ทรัพยากรของชาติที่มีอยู่อย่างจำกัดอย่างมีประสิทธิภาพ และมีระเบียบแบบแผน ยังเป็นมาตรการดูแลเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ที่ขาดปัจจัยการผลิต โดยเฉพาะ “ที่ดิน” ทั้งที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย ที่จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำในระดับฐานรากนะครับ ซึ่งเป็น “รากแก้ว”ของประเทศ และปลูกฝังการทำงานแบบบูรณาการ ของหน่วยงานราชการ การทำงานร่วมกันของชุมชนในรูปแบบสหกรณ์ และกลไก “ประชารัฐ” ซึ่งเป็นพื้นฐานการสร้างความเข้มแข็ง ความสามัคคี ให้กับชุมชนอีกด้วย