'ไทยเบฟฯ' จัดทัพใหญ่ ดัน 9 บิ๊กบริหาร สานวิชั่นผู้นำอาเซียน

'ไทยเบฟฯ' จัดทัพใหญ่ ดัน 9 บิ๊กบริหาร สานวิชั่นผู้นำอาเซียน

"ไทยเบฟ" จัดทัพใหม่ปรับโครงสร้างผู้บริหารระดับสูง 9 ตำแหน่งรวด สั่งรายงานตรง “ฐาปน” มีผล 1 ต.ค. นี้ สายวิชั่นผู้นำอาหารเครื่องดื่มอาเซียน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะกรรมการบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) มีมติอนุมัติปรับเลื่อนตำแหน่ง และแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง เพื่อเตรียมความพร้อมบุกธุรกิจรับวิสัยทัศน์ปี 2020 ในการเป็นผู้นำธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มในอาเซียน ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559 ประกอบด้วย

1.นายอวยชัย ตันทโอภาส เลื่อนตำแหน่งจากกรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เป็น “กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส” โดยจะควบคุมดูแลช่องทางการจำหน่ายสินค้าในฐานะผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มบริหารช่องทางการจัดจำหน่าย (Chief Route-to-Market)

2.แต่งตั้งนายสิทธิชัย ชัยเกรียงไกร ผู้ได้รับการโหวตให้เป็น ซีเอฟโอ ที่ดีที่สุดของประเทศไทยสามปีซ้อน (ปี 2557-2559) และได้รับการโหวตให้เป็น ซีเอฟโอที่ดีที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asia’s best CFO) ในปี 2558 เลื่อนตำแหน่งจากกรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เป็น “กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส” และจะยังคงควบคุมดูแลเรื่องการเงิน และสนับสนุนการเติบโตของไทยเบฟและการเติบโตของกลุ่มในฐานะซีเอฟโอ (CFO)

3.แต่งตั้งนายพิษณุ วิเชียรสรรค์ ผู้บุกเบิกธุรกิจเบียร์ของไทยเบฟ เลื่อนตำแหน่งจากกรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เป็น “กรรมการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่อาวุโส” โดยยังคงควบคุมดูแลเทคโนโลยีและวิศวกรรมของกลุ่มในฐานะผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มเทคโนโลยีและวิศวกรรม (Chief Technology and Engineering)

แต่งตั้งซีอีโอกลุ่มสุราคนใหม่

4.แต่งตั้ง “กรรมการผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจสุราคนใหม่” (Spirit Product Group CEO) โดยนายประภากร ทองเทพไพโรจน์ ได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่เป็นซีอีโอกลุ่มธุรกิจสุรา ซึ่ง นายประภากร เป็นผู้นำในการออกเบียร์ช้างโฉมใหม่ในปี 2558 ทำให้ยอดขายเติบโตจนถึงปัจจุบัน

ทั้งนี้ นายประภากร จะสืบทอดตำแหน่งต่อจาก นายอวยชัย ตันทโอภาส ผู้ซึ่งวางรากฐานธุรกิจสุราของไทยเบฟในประเทศไทยและเป็นผู้นำในตลาดสุราในประเทศมากว่า 3 ทศวรรษ

แต่งตั้งซีอีโอกลุ่มเบียร์ใหม่

5.แต่งตั้ง “กรรมการผู้อำนวยการ”กลุ่มธุรกิจเบียร์คนใหม่ (Beer Product Group CEO) นายเอ็ดมอนด์ นีโอคิม ซูน จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่เป็น ซีอีโอ กลุ่มธุรกิจเบียร์ ซึ่ง นายเอ็ดมอนด์ เป็นผู้มีบทบาทสำคัญในการออกเบียร์ช้างโฉมใหม่ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่ บริหารกลุ่มธุรกิจเบียร์ในประเทศไทย

6.แต่งตั้งนายโฆษิต สุขสิงห์ จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งจาก “ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่” เป็น “รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่” และผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง (Chief Supply Chain Management) รวมทั้งควบคุมการพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

7.แต่งตั้งนายเอกพล ณ สงขลา จะได้รับการเลื่อนตำแหน่งจากผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่เป็น “รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่” และผู้บริหารสูงสุดของกลุ่มทรัพยากรบุคคล (Chief People Officer) โดยควบคุมดูแลงานด้านทรัพยากรบุคคล เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงไปสู่วิสัยทัศน์

8.แต่งตั้งนายบรรจง ชินธนะศิริ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักบัญชี และงบประมาณ ได้รับแต่งเป็น “ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายบัญชี” และ 9.แต่งตั้งนายปราโมทย์ หรรษมนตร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการ จะได้รับแต่งตั้งเป็น “ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สำนักการผลิตสุรา”

ผู้บริหารรายงานตรง“ฐาปน”

นายเจริญ สิริวัฒนภักดี ประธานคณะกรรมการไทยเบฟ กล่าวว่า การปรับโครงสร้างครั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับพันธสัญญาขึ้นไปอีกขั้นเพื่อมุ่งสู่การเป็นบริษัทที่มีความยังยืนโดย ผู้บริหารจากโครงสร้างใหม่นี้จะรายงานตรงต่อนายฐาปน สิริวัฒนภักดี โดยที่คณะกรรมการทั้งหมดได้ให้การสนับสนุนวิสัยทัศน์ 2020 อย่างเต็มกำลังเพื่อให้ไทยเบฟเป็นผู้นำเครื่องดื่มครบวงจรที่มั่นคงและยั่งยืนในอาเซียน การเลื่อนตำแหน่งและการสืบทอดตำแหน่งที่ประกาศในวันนี้มีความสำคัญต่อการเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ รวมถึงเป็นการวางรากฐานสำคัญต่อไปในอนาคต

ปรับทัพบริหารสานวิชั่น2020

นายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ไทยเบฟ กล่าวว่า โครงสร้างใหม่นี้จะสนับสนุนเสาหลักทางกลยุทธ์ทั้ง 5 ประการตามวิสัยทัศน์ 2020 ได้แก่ การเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพ (Growth) ความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ (Diversity) ตราสินค้าที่โดนใจ (Brands) การขายและการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง (Reach) และความเป็นมืออาชีพ (Professionalism)

"เราจะขับเคลื่อนเสาหลักทั้ง 5 เพื่อการเติบโตของผลิตภัณฑ์หลักทั้ง 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มธุรกิจสุราเบียร์ และเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ตราสินค้าซึ่งให้ความแข็งแกร่งกับบริษัทอยู่แล้วจะได้รับการสนับสนุนผ่านกลุ่มบริหารการลงทุนตราสินค้าเพื่อความสำเร็จระยะยาวในการพัฒนาพอร์ตสินค้า กลุ่มบริหารช่องทางการจำหน่าย จะมุ่งที่การขายและการกระจายสินค้าที่แข็งแกร่ง โดยดูแลเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ด้านความเป็นมืออาชีพจะได้รับการสนับสนุนจากทุกหน่วยงานในกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มการเงินและบัญชี กลุ่มเทคโนโลยี และวิศวกรรม กลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง (และสารสนเทศ) และกลุ่มทรัพยากรบุคคล”