‘ซัมมิท’รุกสินเชื่อบุคคลเป้า300ล้าน

“ซัมมิท แคปปิตอล”โหมสินเชื่อบุคคล เจาะกลุ่มมนุษย์เงินเดือนรายได้เกิน 3 หมื่นบาท ออกโปรโมชั่น 6 เดือนแรก ดอกเบี้ย 12.99%
นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจว่าตลาดสินเชื่อบุคคลปีนี้ยังมีโอกาสเติบโตต่อเนื่อง หรือเติบโตในระดับ 5-10% โดยกลุ่มลูกค้าที่บริษัทสนใจ คือ ผู้มีรายได้ประจำ เงินเดือนตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป ซึ่งมีจำนวนกว่า 700,000 คน จากทั่วประเทศที่มีจำนวน 1.2 ล้านคน
ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าดังกล่าว เชื่อว่ายังมีความต้องการสินเชื่อและเป็น กลุ่มเป้าหมายที่สามารถให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด เฉลี่ย 1 ล้านบาทหรือตามเกณฑ์ ธปท. กำหนดคือวงเงินไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือนประจำ ดังนั้นระดับรายได้ 30,000 บาท สามารถได้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 150,000บาท
ล่าสุด เปิดตัวสินเชื่อบุคคลซัมมิทแคปปิตอล อัตราดอกเบี้ยโปรโมชั่นช่วงนี้ สำหรับวงเงินสินเชื่อ60,000 บาท ช่วง 6 เดือนแรกดอกเบี้ย 12.99% และหนังจากนั้นจนครบกำหนดสัญญาดอกเบี้ย 19.99% โดยปกติถ้าเป็นลูกค้าดี บริษัทอาจคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า 28%
นอกจากนี้มาพร้อมสโลแกน ชีวิตดี๊ดี เพราะซัมมิทจัดให้ ภายใต้จุดแข็งเอกสารครบอนุมัติไว ได้เงินเร็ว อนุมัติสูงสุด 1 ล้านบาท ผ่อนนาน 12-60 เดือน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน มุ่งขยายฐานลูกค้าผ่านช่องทางเทเลเซลล์ 50 คน และจะเริ่มช่องทางไดเร็กในปีหน้า
ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคและขยายฐานลูกค้าครอบคลุมยิ่งขึ้น เริ่มนำร่องเปิดตลาดอย่างไม่เป็นทางการ เมื่อกลางเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา ตอบรับดี มียอดปล่อยสินเชื่อแล้วกว่า100 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายภายในปีนี้ปล่อยสินเชื่อบุคคล 300 ล้านบาทและในปีหน้าเติบโตก้าวกระโดดถึง 1,000 ล้านบาท และหนี้เสียไม่เกิน 3% ส่วนใหญ่เป็นลูกค้าเดิมที่มีประวัติข้อมูลกับบริษัทอยู่แล้ว
ทางด้านเป้าหมายของบริษัทในสิ้นปีนี้จะมีภาพรวมสินเชื่อยอดคงค้างประมาณ 5,000 ล้านบาท เติบโต 15% เป็นสินเชื่อใหม่ 1,800 ล้านบาท เติบโต 30% ส่วนใหญ่ยังคงเป็นสินเชื่อรถจักรยานยนต์และบิ๊กไบร์ท คุมหนี้เสียไม่เกิน 3% จากปัจจุบันหนี้เสียต่ำเพียง 1.08% มีเครื่องมือคัดกรองลูกค้าและข้อมูลเครดิตบูโรในการตรวจสอบ
“กลุ่มมนุษย์เงินเดือน30,000บาทขึ้นไป คุณภาพหนี้ดี และยังมีความต้องการสินเชื่อบุคคลเพื่อใช้เป็นทุนหมุนเวียน ในขณะที่กลุ่มธนาคารชะลอปล่อยสินเชื่อบุคคลและกลุ่มนอนแบงก์ด้วยกันบางแห่งมักคิดดอกเบี้ยเต็มเพดานตามที่กฎหมายกำหนด 28% ทำให้บริษัทมองเป็นโอกาสขยายตลาดใหม่แข่งขันกับลูกค้าแบงก์และในปีหน้าหากเศรษฐกิจดีธนาคารกลับมาแข่งขันแต่บริษัทมีจุดแข็งแข่งขันได้ ด้วยอนุมัติเร็วภายใน1วันเร็วกว่าธนาคารยังใช้เวลา3-5วัน เพื่อสนับสนุนเป้าหมายสู้ผู้นำปล่อยสินเชื่อรายย่อย”
สำหรับภาพรวมตลาดสินเชื่อบุคคลปีที่ผ่านมา ขยายตัวจำกัดเนื่องจากเศรษฐกิจฟื้นตัวช้า เป็นผลจากแรงกดดันการชะลอตัวของเศรษฐกิจคู่ค้าสำคัญ เช่น จีน ส่งผลต่อภาคส่งออกหดตัว และภาวะสินค้าเกษตรตกต่ำ ปัญหาภัยแล้ง ทำให้รายได้ลูกค้ารายย่อยระดับกลางถึงล่างลดลง รวมทั้งกลุ่มนอนแบงก์เข้ามาแข่งขันในตลาดผู้เล่นรายใหม่ ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดทำให้การดำเนินนโยบายสินเชื่อมีความระมัดระวังต่อเนื่อง
ยอดคงค้างสินเชื่อบุคคลทั้งระบบ ณ สิ้นปี 2558 อยู่ที่ระดับ 325,000 ล้านบาท เติบโต 3.8%จากช่วงเดียวกันปีก่อน แบ่งเป็นยอดคงค้างของสินเชื่อในกลุ่มนอนแบงก์ 167,000 ล้านบาท เติบโต 9.6% และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ 158,000 ล้านบาท หดตัว 1.7%
ส่งผลให้กลุ่มนอนแบงก์กลับมาครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี2554 หรือในรอบ 5 ปี และยังครองส่วนแบ่งผู้นำตลาดในปีนี้ต่อเนื่อง




