'สมชัย'ปัดกกต.แตกคอ แย่งเก้าอี้ประธาน

'สมชัย'ปัดกกต.แตกคอ แย่งเก้าอี้ประธาน

"สมชัย" ปัดกกต.แตกคอ แย่งเก้าอี้ประธาน เผยเตรียมปรับเปลี่ยนทุกตำแหน่ง แต่ไม่ใช่ตอนนี้

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้งกล่าวถึงกระแสความขัดแย้งของกกต.ในการเปลี่ยนตัวประธานกกต.ว่า เรื่องการทำงานของกกต.ยังคงทำงานในหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองในแต่ละด้าน แต่ได้หารือกันว่าอาจจะมีการปรับเปลี่ยนทุกตำแหน่ง ไม่ใช่เฉพาะตำแหน่งประธานกกต.เท่านั้น เพื่อทำให้การทำงานเกิดการพัฒนาแบบใหม่ๆ เหมือนแต่ละกระทรวงยังมีการปรับเปลี่ยนปลัดกระทรวง อธิบดี ทั้งนี้เพื่อให้กรรมการแต่ละคนได้เรียนรู้งานเท่าๆกัน ซึ่งตนอยากกำกับดูแลทุกด้าน แต่คงต้องไปหารือกันอีกครั้ง และขณะนี้ประธานกกต.มาช่วยกำกับดูแลด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง เพราะตนมีปัญหาด้านสุขภาพอยู่      

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้ให้คณะทำงานของสำนักงานกกต.ไปศึกษาการทำงานในรูปคณะทำงานหรือบอร์ด คาดว่า สิ้นเดือนต.ค.น่าจะได้ผลการศึกษาดังกล่าว ส่วนจะดำเนินการตามที่คณะทำงานศึกษามาหรือไม่นั้น กกต.จะมีการพิจารณาถึงความเหมาะสมร่วมกันอีกครั้ง ยืนยันขณะนี้ทุกคนยังปฏิบัติหน้าที่เหมือนเดิมและกำกับงานด้านตัวเองเหมือนเดิม ประธานยังเป็นประธานเหมือนเดิม เรื่องนี้เป็นการคุยกันภายในเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมก็จะมีการสับเปลี่ยนกันเอง แต่ยังไม่ใช่ช่วงเวลานี้แน่นอน และไม่มีการส่งหนังสือถามความเห็นกรณีคำสั่งคสช.ที่40/2559

ผู้สื่อข่าวถามว่ากระแสข่าวความขัดแย้งของกกต.จะทำให้เกิดการเซ็ตซีโร่กกต.ใหม่หรือไม่ นายสมชัยกล่าวว่า การเซ็ตซีโร่กกต.เป็นหน้าที่ของหัวหน้าคสช.ที่จะพิจารณา แต่ยืนยันว่า กกต.ไม่ได้แตกแยกกัน ไม่ได้แย่งตำแหน่งกัน 

เมื่อถามนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.ให้คณะทำงานไปศึกษาการจัดเลือกตั้งของอินเดียที่มี กกต.เพียง 1 คนทำหน้าที่เพื่อปฏิรูปการทำงานกกต.ไทยนายสมชัยกล่าวว่า ถ้านายมีชัยพูดจริง คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติกำหนดมีกกต. 7 คน ส่วนกรณีที่กรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปการเมืองสปท.เสนอให้กระทรวงมหาดไทยจัดการเลือกตั้งแทนกกต.นั้นตนไม่ขอแสดงความคิดเห็นให้คนอื่นทะเลาะกันไป ตนไม่อยากไปทะเลาะด้วย    

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนและหลังการประชุมกกต.วันนี้ กกต.ทั้ง 5 คนได้มีการประชุมลับเพื่อหารือต่อกรณีดังกล่าว โดยเฉพาะการออกมาให้สัมภาษณ์ของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ที่ส่งสัญญาณมายัง กกต. ว่าการเปลี่ยนแปลงในช่วงนี้อาจไม่เหมาะสม ทำให้มีการยกคำสั่งให้สำนักงานฯทำหนังสือไปถามความขัดเจนจากคสช. และมีการตกลงว่าในช่วงนี้กกต.ก็มีภาระสำคัญที่ต้องผลักดันกฎหมายลูก 4 ฉบับก็จะมีการดำเนินการให้เสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงจะมาพูดคุยกันเรื่องการเปลี่ยนตำแหน่งกันใหม่ในช่วงต้นเดือนต.ค. ซึ่งก็เป็นจังหวะที่ทางสำนักงานจะเสนอรายงานผลการศึกษารูปแบบการทำงานในลักษณะบอร์ดต่อกกต. แต่ทั้งนี้ ก็มีรายงานว่า ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าวนายศุภชัย สมเจริญ ยังไม่ได้แสดงทีท่าที่ชัดเจนว่ายอมที่จะลงจากเก้าอี้ประธานกกต.แล้ว ทำให้ในส่วนของ 3 กกต.ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งประธาน มองว่าในช่วงต้นเดือนต.ค.หากยังไม่มีความชัดเจนก็จะมีการทวงถามกันอีกครั้ง