พืชตัวร้าย “ไฮยาซินธ์น้ำ”

พืชตัวร้าย “ไฮยาซินธ์น้ำ”

เอ่ยชื่อ “ไฮยาซินธ์” แล้ว ใครๆ ก็คงคิดถึงดอกไม้สีน้ำเงิน-ม่วงทรงพุ่มที่สวยงาม

แต่ถ้าเป็น “ไฮยาซินธ์น้ำ”(water hyacinth) ล่ะ รู้จักกันหรือเปล่า


เพิ่งเป็นข่าวโด่งดังเมื่อนายกรัฐมนตรีพูดถึงประเด็นการดูแลสภาพแม่น้ำคูคลองและการจัดการ “ผักตบชวา” ซึ่งตลอดมาชาวไทยรู้จักกันดีในนามของ “สวะ” หรือวัชพืชน้ำที่ไม่ว่าจะจัดการอย่างไรก็ยังไม่หายไปจากแม่น้ำลำคลองของไทย ทั้งยังจะเพิ่มปริมาณขึ้นอีกไม่รู้กี่เท่าตัว และไฮยาซินธ์น้ำที่จินตนาการไว้อย่างสวยงามก็คือ “ผักตบชวา” บ้านเรานี่เอง


เรียกกันติดปากว่า ผักตบชวา แต่ไม่ใช่พืชพื้นเมืองของประเทศอินโดนีเซียอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพียงแต่ในสมัยรัชกาลที่ 5 มีการนำเข้ามาจากชวา ประเทศอินโดนีเซียเท่านั้น จริงๆ แล้ว ผักตบชวาเป็นพืชต่างถิ่นที่มาไกลจากลุ่มแม่น้ำอเมซอนในแถบทวีปอเมริกาใต้ และกระจายไปหลายแห่งทั่วโลก แน่นอน มันสร้างปัญหาให้กับทุกประเทศทั่วโลกเช่นกัน


จริงๆ แล้ว ผักตบมีหลายสายพันธุ์ ผักตบไทยก็เคยมีอยู่ทั่วไป และเป็นอาหารพื้นบ้านที่นำมารับประทานได้ แต่ผักตบไทยอาจจะแพร่พันธุ์ช้า ไม่เหมือนผักตบชวาที่อัตราการขยายพันธุ์เร็วจนกลายเป็นปัญหา สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศวิทยา จนต้องมีการกำจัดกันมาตลอด ซึ่งผักตบชวาเป็นปัญหาใหญ่ ถึงขนาดมีการออกกฎหมายในสมัยรัชกาลที่ 6 เรียกว่า พระราชบัญญัติสำหรับกำจัดผักตบชวา พระพุทธศักราช 2456 เลยทีเดียว


100 กว่าปีผ่านไป ดูเหมือนว่า การกำจัดผักตบชวาจะไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะจนถึงวันนี้ก็ยังต้องมีพืชที่เป็น “เอเลี่ยน สปีชี่ส์” ชนิดนี้ลอยเกลื่อนอยู่ทุกน่านน้ำไทย ถึงแม้จะมีไอเดียนำเอาผักตบชวามาสานเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ แต่ก็ยังไม่สามารถจัดการได้ จะเก็บมากินเหมือนสมัยก่อนตอนที่น้ำยังใสๆ ก็ทำไม่ได้แล้ว เพราะยุคนี้น้ำเปลี่ยนสี มีสารพิษอยู่เต็มไปหมด


ศิริพจน์ เหล่ามานะเจริญ นักวิชาการอิสระ บอกว่า ไม่ใช่แค่ประเทศไทยที่ต้องกุมขมับกับเรื่องนี้ แต่สหรัฐอเมริกาที่ว่าแน่กับทุกเรื่องยังต้องยอมให้กับผักตบชวา


“ผักตบชวาเป็นวัชพืชที่อเมริกายังหนักใจ เคยเอาทหารในกองทัพมาช่วยกันกำจัดเลยนะตอนนั้น โดยพยายามเทน้ำมันราดลงไปบนแพผักตบเพื่อให้มันตาย แต่มันก็ไม่ตาย จนกระทั่งเกิดวิกฤตอาหารโลก ในสภาคองเกรสมีคนเสนอให้มีการนำเข้าฮิปโปเข้ามาปล่อยในแม่น้ำหลุยเซียน่าเพื่อให้มากินผักตบ ฮิปโปกินผักตบได้ คนก็กินเนื้อฮิปโปได้ น่าจะได้ประโยชน์ ซึ่งโปรเจคนี้เรียกว่า American Hippo Bill แต่สุดท้ายก็แพ้โหวต โปรเจคนี้เลยไม่เกิดขึ้น แต่อเมริกาก็ยังเฝ้าระวังเรื่องนี้อย่างเข้มงวด”


ผักตบชวาทำให้น้ำท่วมมาเลเซียเมื่อปี 2500, ชลประทานในอินเดียผันน้ำไปให้ชาวบ้านไม่ได้เพราะผักตบชวาขวางไว้ ชาวบ้านขาดน้ำทำนาทำไร่จนสิ้นเนื้อประดาตัวไปหลายราย, คองโกขนส่งแร่ทองแดงและยูเรเนียมไปยุโรปและอเมริกาไม่ได้ เพราะถูกปิดกั้นทางน้ำด้วยผักตบชวาเป็นระยะทางยาวไกล ฯลฯ


ไม่ใช่ไทยประเทศเดียวหรอกที่บอกว่าผักตบชวาคือ “สวะ” เพราะหลายๆ ประเทศก็มีนิยามให้กับมันเหมือนกัน เช่น ในรัฐเบงกอลของอินเดียเรียกว่า “Blue devil” หรือปีศาจสีฟ้า ในแอฟริกาใต้เรียกว่า “Florida devil” (สงสัยจะแพร่มาจากอเมริกา) ส่วนในศรีลังกาเรียกว่า “Japanese trouble” ซึ่งดูท่าว่าน่าจะได้รับผักตบชวามาจากญี่ปุ่นเหมือนกับอเมริกาที่ญี่ปุ่นมอบผักตบชวาให้เป็นของขวัญ


ต้นเล็กนิดเดียวแต่สร้างปัญหาใหญ่ขนาดดี ถ้าไม่ช่วยกันดูแลให้ดี ระวังจะโดนปรับต้นละ 100 บาท โทษฐานที่มีผักตบชวาไว้ในครอบครองนะ