พาณิชย์เตรียมส่งผลประมูลข้าว ให้นบข.เคาะขาย

พาณิชย์เตรียมส่งผลประมูลข้าว ให้นบข.เคาะขาย

"กรมการค้าต่างประเทศ" เตรียมสรุปผลประมูลข้าวให้ "นบข." พิจารณาเพื่อขายจำนวนกว่า 9.2 แสนตัน พร้อมลุยประมูลขายข้าวฟิลิปปินส์พรุ่งนี้

นางดวงพร รอดพยาธิ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า การยื่นซองประมูลข้าวเป็นการทั่วไป และเพื่อเข้าสู่อุตสาหกรรม ครั้งที่ 2 ของปี 2559 ปริมาณรวม 2 แสน 5 หมื่น 5 พันตัน ซึ่งเป็นข้าวผิดไปจากมาตรฐาน และข้าวผิดชนิด 4 ชนิด ประกอบด้วย ข้าวท่อนปทุมธานี ปลายข้าวเอวัน ปลายข้าวเอวันเลิศ และปลายข้าวปทุมธานี ในวันนี้ มีผู้ประกอบการค้าข้าว และผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรม 10 ราย ที่เข้ายื่นซองเสนอราคา จากทั้งหมด 13 ราย ที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติเข้าร่วมยื่นซองเสนอราคาประมูล โดยจากผลการเปิดซองในเบื้องต้น พบว่า มีผู้เสนอราคาสูงสุด จำนวน 7 ราย ใน 18 คลัง จากที่เปิดประมูลทั้งหมด 22 คลัง ปริมาณกว่า 1 แสน 6 หมื่น 9 พันตัน หรือคิดเป็นร้อยละ 66 ของปริมาณที่นำออกมาประมูล โดยมีมูลค่าที่เสนอซื้อ ประมาณ 1,024 ล้านบาท

ซึ่งหากรวมกับประมูลข้าวเป็นการทั่วไป หรือ ข้าวคุณภาพเพื่อการบริโภค ล๊อตที่ 5 ของปี 2559 เป็นข้าวขาว 5% ทั้งหมดปริมาณรวม 7 แสน 5 หมื่น 3 พันตัน ที่มีผู้เสนอราคาซื้อสูงสุด 8 ราย ในปริมาณทั้งหมดที่เปิดประมูล ทั้ง 28 คลัง หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 7,400 ล้านบาท ทำให้การประมูลทั้ง 2 แบบ ปริมาณรวม 1 ล้านตัน มีผู้เสนอซื้อสูงสุดรวมกว่า 9 แสน 2 หมื่นตัน รวมเป็นมูลค่ากว่า 8,424 ล้านบาท

โดยจะต้องรวบรวมผลการเสนอซื้อ ให้คณะทำงานดำเนินการระบายข้าวในสตอกของรัฐพิจารณา ว่าผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำหรือไม่ ก่อนนำเสนอให้ประธานกรรมการนโยบายและบริหารจัดการข้าว หรือ นบข. พิจารณาอนุมัติผลการจำหน่ายข้าวสารในสต็อกของรัฐ

ส่วนแนวทางการประมูลข้าวในสตอกรัฐครั้งต่อไปนั้น จะต้องพิจารณาข้าวของแต่ละคลังก่อน เพื่อเลือกข้าวที่จะระบายให้เหมาะกับความต้องการในแต่ละช่วงเวลาด้วย ซึ่งอาจจะเปิดระบายข้าว เพื่อการส่งออกได้ในช่วงที่ผลผลิตข้าวฤดูกาลใหม่เริ่มทยอยออกสู่ตลาด เพื่อไม่ให้ข้าวกลับมาวนอยู่ภายในประเทศ ซึ่งหากเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็พร้อมจะเปิดระบายทันที เพื่อไม่ให้เป็นภาระการจัดเก็บ โดยได้มีการติดตามสถานการณ์ตลาดข้าวเป็นรายวัน

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ กรมการค้าต่างประเทศ จะเข้าร่วมประมูลข้าวที่ประเทศ ฟิลิปปินส์จำนวน 250,000 แสนตัน ยอมรับว่า ข้าวไทยมีราคาแพงกว่าคู่แข่ง รวมทั้งเงินบาทแข็งค่า ยิ่งมีผลกระทบให้ช่องว่างราคาข้าวไทยสูงขึ้นไปอีก และจะสูงราคาอย่างเต็มที่ แต่ต้องพิจารณาราคาที่จะยื่นประมูลร่วมกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นการประมูลข้าวใหม่ ซึ่งรัฐบาล ไม่มีในสต๊อก จึงต้องใช้กลไกการค้าตามปกติของผู้ส่งออก โดยภาพรวมการส่งออกข้าวไทยของปีนี้ จนถึงวันที่ 26 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ปริมาณ 6 ล้าน 3 แสนตัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นมูลค่ากว่า 99,000 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน