บุกจับนายจ้างสุดโหด ฆ่าลูกจ้างยัดถัง-ทารุณเด็กจนตาบอด

บุกจับนายจ้างสุดโหด ฆ่าลูกจ้างยัดถัง-ทารุณเด็กจนตาบอด

ตำรวจบุกรวบนายจ้างวัย35 สุดโหดฆ่าแม่บ้านสาวยัดถัง ทิ้งโคราชปี56 พบพฤติกรรมสุดเหี้ยมจับเด็กมาทารุณจนตาบอด

ที่สำนักงานตำรวจแก่งชาติ (ตร.) - เมื่อเวลา13.30 น. วันที่ 30 สิงหาคม 2559 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.อ.หาญพล นิตย์วิบูลย์ ที่ปรึกษา สบ.10 ร่วมสอบปากคำ นายจักรกฤษณ์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีฆาตกรรมโหด นางสาวสุภาพ เดชไทย ลูกจ้างของตัวเอง ก่อนนำศพยัดใส่ถังไปทิ้งในเขตท้องที่ สภ.กลางดง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 29 ต.ค. 2556 หลังจับกุมตัวได้ ได้ที่บ้านพัก ย่านคลองหก จ.ปทุมธานี ช่วงเช้าวันนี้ (30 ส.ค. 59)

พล.ต.อ.หาญพล กล่าวว่า จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหาเป็นคนอารมณ์ร้าย และมักชอบอ้างตัวว่าเป็นตำรวจปราบปรามยาเสพติด โดยคนร้ายมักจะปล่อยเงินกู้ในตลาดไท จ.ปทุมธานี และมีการพกพาอาวุธปืนติดตัวอยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้ จากการสืบสวนพบว่า ก่อนที่คนร้ายจะลงมือฆ่าน.ส.สุภาพ แม่บ้านของตัวเอง เคยทำร้ายร่างกายมาแล้วหลายครั้ง และครั้งสุดท้ายก่อนจะเสียชีวิต ผู้ตายได้โทรศัพท์ไปบอกกับญาติเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทางญาติไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน จึงไม่สามารถช่วยเหลือได้ ก่อนตำรวจจะไปพบศพในเวลาต่อมา

อย่างไรก็ตาม จากการสืบสวนทราบว่า ผู้ตายได้ไปสมัครทำงานบริษัทจัดหาแม่บ้าน ต่อมาได้ถูกส่งตัวไปอยู่ที่บ้านนายจักรกฤษณ์ โดยถูกทารุณและทำร้ายจนเสียชีวิต ซึ่งการสมัครงานในบริษัทฯ แห่งนี้ เป็นที่มาของเบาะแสที่สามารถจับกุมคนร้ายได้ดังกล่าว

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังสามารถช่วยเด็กชายอายุ 17 ปี ซึ่งนายจักรกฤษ์ ได้รับมาจากเพื่อน ซึ่งเป็นพ่อเลี้ยงของเด็กคนดังกล่าวมาอุปการะไว้ตั้งแต่ปี 2556 โดยนำมากักขังไว้ในบ้าน ก่อนจะทำการทารุณด้วยการทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส อาทิ ใช้น้ำกรดสาดจนตาบอด , ถอดฟันทีละซี่ จากนั้นจะนำหลักฐานไปเบิกเงินกับบริษัทประกันชีวิต ซึ่งทำไว้กว่า 13 บริษัท จำนวน 21 กรมธรรม์ มูลค่ากว่า 17 ล้านบาท ซึ่งมีบางบริษัทที่ยอมจ่าย และบางบริษัทยังไม่ยอมตาย เนื่องจากไม่เชื่อว่าเด็กประสบเหตุจริง โดยพบว่าได้เงินประกันไปแล้วกว่า 1 ล้านบาท โดยตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนในเชิงลึกว่า มีใครบ้างที่ได้รับผลประโยชน์ และมีส่วนร่วมในการกระทำของนายจักรกฤษ ด้วยหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุจริง และยอมรับว่า ปกติเป็นคนอารมณ์ร้าย มักควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ตำรวจจึงแจ้งข้อหา ฆ่าคนโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้นอำพรางศพ