จับหนุ่มปลอมคำสั่งศาล หวังเงินประกันพี่ชายใช้หนี้

จับหนุ่มปลอมคำสั่งศาล หวังเงินประกันพี่ชายใช้หนี้

จับหนุ่มใหญ่ปลอมแปลงเอกสารศาล หวังนำไปประกอบเป็นหลักฐานรับเงินประกันของพี่ชายที่เสียชีวิต 1.5 แสนบาท

พ.ต.ท.อำนาจ ฉิมมา รอง ผกก.สส.สภ.เมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู นำตัว นายเพชรรัตน์ อัตรัง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 228 หมู่ที่ 7 ต.หนองเรือ อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู มาสอบสวนพร้อมด้วยอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ เอกสาร สมุดฝากบัญชีธนาคาร 4 เล่ม เอกสารโฉนดที่ดิน เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ตรายางประทับชื่อตำแหน่งและหน่วยงานทางราชการอีกหลายหน่วยงาน เพื่อสืบสวนสอบสวนขยายผลถึง พฤติกรรมในการกระทำผิดปลอมแปลงเอกสาร หลังจากที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองหนองบัวลำภูได้ร่วมกับชุดสืบสวน สภ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู จับกุมตัวนายเพชรรัตน์ ที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่ง ที่หมู่บ้านหนองเรือ ต.หนองเรือ อ.โนนสัง หลังได้นำตัวมาสอบสวนขยายผลที่ สภ.เมืองหนองบัวลำภู

พ.ต.ท.อำนาจ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 59 นายสมชาย เนนุมารักษ์ ผู้อำนวยการศาลจังหวัดหนองบัวลำภู เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.นิรันทร์ ปัดสาโท สารวัตรเวร สภ.เมือง ว่า นายเพชรรัตน์ อัตรัง ปลอมแปลงเอกสารสิทธิ์ คำพิพากษาศาลจังหวัดหนองบัวลำภู หลังได้รับแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมือง ได้สืบสวนกระทั่งทราบว่า นายเพชรรัตน์ เปิดร้านคาราโอเกะ อยู่ในหมู่บ้านหนองเรือ ทำตัวเป็นคนเจ้าสำราญ ใจบุญกุศล จึงได้ร่วมกันเจ้าหน้าที่ ตำรวจ สภ.โนนสัง ทำการจับกุม จากนั้นได้นำไปตรวจค้นหาหลักฐานที่บ้านพัก พบว่า มีเอกสารหลายรายการที่น่าจะมีการปลอมแปลง นอกจากนี้ยังพบตรายางที่ประทับของหน่วยงานราชการหลายหน่วยงาน ตราที่ประทับชื่อ ตำแหน่ง ตราประทับวันที่ ตราประทับสำเนา รวมกว่า 50 อัน

จากการสอบสวนนายเพชรรัตน์ ให้การว่า ตัวเองเรียนจบ ม.3 จากนั้นสังเกตเห็นนักเรียนแก้ไขภาพจากโปรแกรมโฟโต้ชอป ในการแต่งภาพ จึงให้เด็กสอนให้เพื่อนำเอาวิธีการแก้ไขภาพนำไปใช้ในการจัดทำเอกสารบางอย่างที่เกี่ยวข้อง ส่วนตราประทับของส่วนราชการและหน่วยงานต่างๆ นั้นทำจากร้านค้าที่จังหวัดอุดรธานี เมื่อพี่ชายเสียชีวิตจึงได้ปลอมแปลงเอกสารหลักฐานของทางราชการที่เป็นคำสั่งศาลจริง เพื่อนำไปประกอบหลักฐานขอรับเงิน ซึ่งค่าเป็นนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลจากบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่ง ของนายธรรมศาสตร์ อัตรัง พี่ชาย ที่ได้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 5 ส.ค. 59 ซึ่งทางบริษัทประกันจะต้องจ่ายเงินค่าชดเชยให้เป็นเงิน 160,000 บาท จากนั้นบริษัทประกันได้จ่ายเงินเป็นเช็คมาให้ จึงต้องการเงินของพี่ชายที่ทำประกันชีวิตไว้ จึงปลอมแปลงคำสั่งศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกไปขอรับเงินจากทางบริษัทประกันภัย ทำให้ทางบริษัทประกันภัยเกิดความสงสัยและได้ขอตรวจสอบไปยังศาลว่า คำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งของจริงหรือไม่ และเมื่อทางศาลจังหวัดหนองบัวลำภู ตรวจสอบพบว่าเป็นคำสั่งปลอม จึงได้แจ้งความดำเนินคดีกับ ผู้ต้องหา

นอกจากนี้นายเพชรรัตน์ได้ปลอมแปลงเอกสารหลายฉบับ  ทั้งปลอมใบมรณบัตรของตัวเอง เพื่อรับเงินจากบริษัทประกันชีวิตแห่งหนึ่งจำนวน 800,000 บาท บริษัทแห่งหนึ่งกว่า 1,000,000 บาท และ ติดต่อจะปลอมเอกสารการเสียชีวิตของเด็กตกน้ำที่อำเภอนากลาง แต่ทางพ่อแม่ผู้ตายไม่เห็นด้วย

ก่อนหน้านั้นได้นำเอาหลักฐานบ้านและที่นาไปกู้ยืมเงินจากธนาคารพานิชย์แห่งหนึ่ง 3,000,000 บาท ทางธนาคารทำประกันชีวิตให้โดยหักเงินไว้ 400,000 บาท ได้เงินมา 2,600,000ล้านบาท ส่งเงินธนาคารกว่า 3 ปี บ้านและที่นา ถูกทางธนาคารยึดไป จึงคิดหาวิธีให้ได้ทรัพย์สินคืนมา นายเพชรรัตน์ได้วางแผนทำเอกสารมรณบัตรปลอมว่าตัวเองเสียชีวิต ไปรับเงินค่าประกันมาไถถอนที่ดิน และบ้านกลับคืนมา

“ผู้ต้องหาอ้างว่า ญาติพี่น้องก็มาสอบถามเพราะต้องการเงินจากบริษัทประกันชีวิต พร้อมทั้งบอกว่า บริษัทประกัน ธนาคาร มักจะเอาเปรียบชาวบ้าน เวลาไปธนาคารก็มักจะให้ทำประกันชีวิต ส่วนเงินที่ได้มาจะเอาไปทำบุญ บริจาคให้โรงเรียน ซึ่งทางตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อพฤติกรรมของผู้ต้องหา เชื่อว่าไม่ได้ทำคนเดียว จึงต้องหาพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่ามีผู้เกี่ยวข้องด้วยหรือไม่”พ.ต.ท.อำนาจ กล่าว