"วินด์เซอร์"รุกขยายแฟรนไชส์เจาะโครงการ

"วินด์เซอร์"รุกขยายแฟรนไชส์เจาะโครงการ

"วินด์เซอร์" รุกตลาดประตู-หน้าต่างไวนิล ดึงพันธมิตรขยายสาขากว่า 10 แห่ง เจาะลูกโครงการ-รายย่อย

     นายสัมพันธ์ ลู่วีระพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ในเครือซิเมนต์ไทย หรือเอสซีจี  ผู้ผลิต และจำหน่ายประตูหน้าต่างไวนิล  ภายใต้แบรนด์ “วินด์เซอร์”  กล่าวว่า  หลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ได้วางแนวทางในการบริหาร  โดยยังคงมีเป้าหมายเดียวกับบริษัทแม่ คือการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม และพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด  โดยปีนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้า รวมทั้งการขยายช่องทางในการกระจายสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ผ่านทางพันธมิตรทางธุรกิจ เพื่อรองรับความต้องการในการติดตั้งและบริการหลังขาย โดยปัจจุบันทางบริษัทมีพันธมิตรหรือแฟรนไชส์รวม 30 รายทั่วประเทศ

      โดยปัจจุบันตลาดประตูหน้าต่างถือเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ ด้วยปริมาณบ้านสร้างใหม่กว่า 4-5 แสนหลังต่อปี และยังมีตลาดบ้านเก่าอีกกว่า 20 ล้านหลัง ที่ยังไม่ได้เปลี่ยนประตูหน้าต่างเก่า ประตูหน้าต่างเป็นวัสดุที่มีมูลค่าสูงมากที่สุดรายการหนึ่งในการก่อสร้างบ้าน โดยจะมีมูลค่าอยู่ที่ประมาณ 5-10 % ของมูลค่าก่อสร้างโดยประมาณ โดยตลาดรวมของประตูหน้าต่างปัจจุบันอยู่ที่ 40,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้เป็นประตูหน้าต่างไวนิลมีสัดส่วนเพียง 7-8% เท่านั้น  ในส่วนของ วินเซอร์  มีส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด 70% ของตลาดรวมไวนิลที่ปัจจุบันมีมูลค่า 2,800 ล้านบาท  

        นอกจากการขยายพันธมิตรเพิ่มแฟรนไชส์ให้ได้อีก 10 สาขาภายในเดือนส.ค.แล้ว ยังเตรียมออกโปรดักส์สำหรับอาคารสูงรวมทั้งประตูหน้าต่างไวนิลแบบสี เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น อย่างไรก็ดีในครึ่งปีแรกทางบริษัทมีรายได้กว่า 700 ล้านบาท ลดลงจากในช่วงเดียวกันที่ทำได้ 900 ล้านบาท เนื่องจากปริมาณบ้านสร้างใหม่ลดลง แต่ทางบริษัทยังคงเป้ารายได้ทั้งปีที่ 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้มองว่าดีมานต์ในตลาดยังดี และการรุกตลาดบ้านเก่าจะเสริมรายได้โดยปัจจุบันมีสัดส่วนเพียง 10% แต่คาดว่าสัดส่วนรายได้ในอีก 2 ปีข้างหน้าจะอยู่ที่ 20-30% 

         สำหรับผู้ที่จะเข้ามาเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ ต้องมีสถานที่ตั้งของโรงประกอบรวมคลังสินค้า เงินลงทุนตั้งต้นและเงินทุนหมุนเวียนตั้งแต่10ล้านบาทขึ้นไปและใช้เงินหมุนประมาณ 5 ล้านบาทต่อเดือน คาดภายในสิ้นปีจะเปิดได้ 4-5 สาขา และหากครบ 10 สาขา จะผลักดันให้มีรายได้เพิ่มขึ้น 400 ล้านบาท โดยปัจจุบันโครงสร้างรายได้ของวินเซอร์ มาจากลูกค้าโครงการ 70% รายย่อย 30%