ส่องตลาดของเล่นผู้ใหญ่มาแรง!

ปัจจุบันกลุ่มสินค้านี้ถูกมองว่าเป็น “ของเล่นสำหรับผู้ใหญ่” ส่งผลให้ผู้ประกอบการต่างๆ เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ หวังควักกระเป๋าจากกลุ่มผู้ใหญ่ที่มีกำลังซื้อสูงกว่ากลุ่มลูกค้าเด็ก

ชนินทร์ มโนชญากร ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท แฟนธอม (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์โดรน ภายใต้แบรนด์ “แฟนธอม” กล่าวว่าจากความกระแสความนิยมผลิตภัณฑ์โดรนติดกล้องถ่ายภาพ หรืออากาศยานไร้คนขับ จากของเล่นในกลุ่มฮอบปี้หรือของสะสม ปัจจุบันถือว่าเป็นของเล่นสำหรับกลุ่มผู้ใหญ่ไปแล้ว เนื่องจากได้รับความนิยมอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใหญ่และคนรุ่นใหม่ รวมถึงกลุ่มนักเดินทางท่องเที่ยว ที่นำไปถ่ายภาพมุมสูง

มั่นใจปีนี้ตลาดโดรนโต30%

ขณะที่ภาพรวมตลาดโดรนในประเทศไทยปีก่อนมีมูลค่าราว 300 ล้านบาท คาดปีนี้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท เติบโต 30% ซึ่งเป็นผลมาจากดีมานด์ตลาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

ปัจจุบันมีผู้ใช้โดรนทั่วโลกกว่า 3 ล้านคน ตลาดใหญ่อยู่ที่สหรัฐ ที่มีผู้ใช้โดรนกว่า 1 ล้านคน และมี DJI ผู้พัฒนาโดรนติดกล้องรายใหญ่ที่สุดของโลกเป็นเจ้าตลาดด้วยส่วนแบ่งการตลาดกว่า 70%”

พฤติกรรมการเลือกซื้อโดรนติดกล้องของคนไทย ส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย 90% และผู้หญิง 10% อายุระหว่าง 30-45 ปี พิจารณาจากคุณภาพของกล้องถ่ายภาพที่มีความละเอียดและความคมชัดเป็นลำดับแรก รองมาคือระบบช่วยในการบินแบบอัตโนมัติ ส่วนราคาเป็นสิ่งสุดท้ายที่ผู้บริโภคพิจารณา สินค้าขายดีอยู่ที่ประมาณ 3 หมื่นบาท

เปิดตัวสินค้าใหม่เจาะช่างภาพ 

แนวทางการทำตลาดจะให้ความสำคัญกับการนำเข้าสินค้ารุ่นใหม่ๆ ต่อเนื่อง ที่ผ่านมาได้เปิดตัว “แฟนธอม 4” ซึ่งเป็นซีรีส์ล่าสุดที่พัฒนามาจากซีรีส์ก่อนหน้านี้ หรือแฟนธอม 3 เน้นจับกลุ่มเป้าหมายช่างภาพมืออาชีพและช่างภาพสมัครเล่น

ช่วงไตรมาส3 ปีนี้ เตรียมเปิดตัวสโตร์รูปแบบใหม่แห่งแรกในประเทศไทย เพื่อใช้เป็นโชว์รูม ศูนย์ฝึกอบรม และศูนย์บริการมาตรฐานอย่างเต็มรูปแบบเพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มเป้าหมายและการเติบโตของตลาดโดรนติดกล้องในประเทศไทยในอนาคต

ปัจจุบันแฟนธอมครองเจ้าตลาดผลิตภัณฑ์โดรนในประเทศไทย มียอดขายกว่า 240 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา มีส่วนแบ่งทางการตลาด 60% ปีนี้คาดยอดขายเพิ่มขึ้น 50%

เพิ่ม‘มิลเรอร์เลส’รับดีมานด์โต

เรืองกิจ จึงทวีศิลป์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เวิลด์คาเมร่า กรุ๊ป จำกัด ผู้บริหารร้านอุปกรณ์การถ่ายภาพครบวงจร “เวิลด์คาเมร่า” กล่าวว่ากล้องถ่ายภาพในกลุ่มมิลเรอร์เลสนับว่าเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ จนเกิดเป็นกระแสว่าเป็นหนึ่งในของเล่นผู้ใหญ่ยุคนี้ ซึ่งแนวทางการทำตลาดปีนี้ จะให้ความสำคัญกับกลุ่มกล้องมิลเรอร์เลสมากขึ้น ด้วยการเพิ่มสัดส่วนสินค้าอีก 5% ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

พฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้ากลุ่มนี้ ดูจาก “ราคา”ที่ไม่แพงจนเกินไป และสามารถจับต้องได้ หรือราว 16,900 บาท ซึ่งเป็นราคาขายดีในปัจจุบัน  ส่วนดีไซน์และภาพลักษณ์ของแบรนด์เป็นสิ่งรองลงมา

ภาพรวมตลาดกล้องมิลเรอร์เลสปีนี้มีเติบโตในเชิงปริมาณ ขณะที่ในเชิงมูลค่าลดลงเป็นผลมาจากราคาสินค้าที่ปรับตัวลดลงกว่า 3,000-4,000 บาทในช่วงที่ผ่านมา ขณะเดียวกันยังพบว่าสัดส่วนของตลาดขยายตัวต่อเนื่อง ปัจจุบันอยู่ที่ 70% ที่เหลือ 30% เป็นกลุ่มกล้องดีเอสแอลอาร์และกลุ่มกล้องคอมแพครวมกัน

ปัจจุบันมูลค่าตลาดรวมกล้อง 9,000 ล้านบาท ปีนี้คาดเติบโต 20-30% จากการขยายตัวของกลุ่มกล้องมิลเรอร์เลส  โดยค่ายผู้ผลิตกล้องยังคงเดินหน้าเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะกลุ่มกล้องไฮเอนด์ ซึ่งส่งผลให้ราคาจำหน่ายกล้องทุกกลุ่มอาจปรับขึ้นเล็กน้อย

เป้าหมายธุรกิจในปีนี้ คาดเติบโตสูงกว่าปีก่อนราว15% จากการขยาย 4 สาขาใหม่ รวมถึงการปรับสาขาเวิลด์คาเมร่า ลาดพร้าว ให้เป็นในรูปแบบของแฟลกชิฟสโตร์

ส่งจักรยานไฟฟ้าจับนักเดินทาง

จุฑาทิพย์ ติยะวัชรพงศ์ ผู้อำนวยการ แอลเอ กรุ๊ป ผู้ทำตลาดรถจักรยานภายใต้แบรดน์ “แอลเอ ไบซิเคิ้ล” กล่าวว่าจากกระแสรักสุขภาพของกลุ่มผู้บริโภค ที่หันมาใส่ใจในการออกกำลังกายมากขึ้น ประกับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ไม่ว่าจะเป็นโครงการต่างๆ ที่สนับสนุนให้ประชาชนหันมาปั่นจักรยานมากขึ้น นับว่าเป็นส่วนช่วยผลักดันให้ภาพรวมตลาดรถจักรยานของไทยในปีนี้ยังเติบโต 15-20%

โดยราคาที่ลูกค้าความสนใจอยู่ที่ 15,000-30,000 บาท การเลือกซื้อขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานว่าลูกค้ามีต้องการใช้งานอย่างไร รองมาคือเรื่องของราคา รูปแบบ และสเปคของรถจักรยาน

“รถจักรยานที่ขายดีในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ยังคงเป็นกลุ่มของโรดไบค์ หรือจักรยานที่ขับขี่บนท้องถนน รวมถึงเสือหมอบที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้”

แนวทางการทำตลาดนอกจากให้ความสำคัญกับกลุ่มรถจักรยานแล้วนั้น ยังทำตลาดในกลุ่มรถจักรยานไฟฟ้า หรืออีไบค์ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ที่ขับขี่จักรยานในระยะทางไกลๆ