ทิสโก้เน้นบริหารต้นทุนดันกำไรโต

ทิสโก้เน้นบริหารต้นทุนดันกำไรโต

ทิสโก้เน้นบริหารต้นทุนดันกำไรโต เผยเอ็นพีแอลทรงตัว ส่วนแผนแก้หนี้สหวิริยาสตีลเคาะเร็วสุดปลายปีนี้

 

“ทิสโก้” ครึ่งปีหลังคงแผนทำกำไรปีนี้ตามเป้า รักษาการเติบโตต่อเนื่องจากครึ่งปีแรกโต12% เน้นบริหารต้นทุน สร้างรายได้ค่าธรรมเนียมกองทุนและประกันยังโตดี ส่วนภาพรวมสินเชื่อปีนี้ยังทรงตัวหรืออาจติดลบเล็กน้อย จากยอดขายรถใหม่ไม่กระเตื้องนัก แต่สบโอกาสยังเดินหน้าขยายสินเชื่อสมหวังเงินสั่งได้ ล้อไปกับขยายธุรกิจในกลุ่มยังไปได้

นางอรนุช อภิศักดิ์ศิริกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของกลุ่มทิสโก้จากนี้ยังคงแผนเดิมพยายามรักษาการเติบโตปีนี้ตามเป้าหมาย โดยมุ่งเน้นการเติบโตด้านกำไรต่อเนื่องจากครึ่งปีแรก ที่สะท้อนการทำกำไรเพิ่มขึ้น12% ภายใต้การบริหารต้นทุนเงินทุนประสิทธิภาพ เน้นการสร้างรายได้จากค่าธรรมเนียม ด้านธุรกิจจัดการกองทุนและธุรกิจนายหน้าประกันภัย 

โดยช่วงครึ่งปีหลังสายงานวณิชธนกิจ ยังมีงานนำบริษัทเข้าจดทะเบียนขายหุ้นให้กับนักลงทุนหรือ IPO ในกลุ่มธุรกิจรายใหญ่เช่น บริษัทลูกของบริษัทบางจาก ปิโตรเลียม และพีทีที รวมถึงงานประกันแม้อัตราการเพิ่มขึ้นของลูกค้ารายใหม่จะลดลงแต่สามารถรักษาการเติบโตของเบี้ยประกันไว้ได้ทั้งประกันชีวิตและประกันวินาศภัย

        ส่วนในแง่การเติบโตของสินเชื่อของธนาคาร ในปีนี้มองว่าอาจเติบโตทรงตัวหรือติดลบเล็กน้อย เนื่องจากยอดขายรถยนต์ใหม่ยังไม่กระเตื้องขึ้นมาก ทั้งปีนี้น่าจะทรงตัว 700,000 - 800,000 คัน ทำให้สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ทรงตัวตามไปด้วยและคาดว่าจะกลับมาขยายตัวได้ในปีหน้า หลังจากโครงการรถยนต์คันแรกครบกำหนด 5 ปี ส่วนรถมือสอง เริ่มทรงตัวได้แต่ยังมีความเสี่ยงทำให้ตลาดยังกลับมาไม่เต็มที่ 

ขณะที่สินเชื่อกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโตยาก และธุรกิจขนาดใหญ่ยังไม่มีการลงทุนชัดเจน แต่ยังรอการขับเคลื่อนการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ ทำให้ภาพรวมสินเชื่อธุรกิจน่าจะทรงตัว

“ ภาพรวมสินเชื่อของธนาคาร ณ มิถุนายน 2559 เติบโตลดลง1%จากไตรมาสก่อน ได้รับผลกระทบจากการอ่อนตัวของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์และสินเชื่อเพื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ (Car Inventory Financing) ตามภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ฟื้นตัวช้าและยอดขายรถยนต์ภายในประเทศที่ยังไม่ฟื้น แต่สินเชื่อธุรกิจและสินเชื่ออเนกประสงค์ยังคงปรับตัวดีขึ้นตามแผนการขยายธุรกิจของกลุ่มทิสโก้”

ดังนั้นแผนการขยายสินเชื่อของธนาคารในช่วงครึ่งปีหลัง นางอรนุช กล่าวว่า ธนาคารพร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจสินเชื่อรายย่อย โดยเฉพาะสินเชื่อเช่าซื้อรถ เน้นสินเชื่อสมหวัง เงินสั่งได้ ที่ยังเติบโตดีในช่วงครึ่งปีแรก รวมถึงพัฒนาผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีให้ทันสมัย ซึ่งปัจจุบันธนาคารได้ทำการพัฒนาระบบโมบายแบงก์กิ้งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและตอบสนองความต้องการทางการเงินแก่ลูกค้าในยุคดิจิทัลได้อย่างตรงจุด คาดว่าจะเริ่มได้อย่างเร็วปลายปีนี้หรืออย่างช้าต้นปีหน้านอกจากนี้ได้เปิดให้บริการ “ทิสโก้ พร้อมเพย์” เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าอีกช่องทางหนึ่งด้วย

ส่วนทางด้านคุณภาพหนี้ของธนาคาร ครึ่งปีแรกปีนี้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง จาก 3.07% เป็น3.03 % ถือว่าเข้าสู่ภาวะปกติ. ไม่น่าเป็นห่วงการตั้งสำรองหนี้เสียเริ่มลดลง เหลือเฉพาะหนี้เสียของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อ และในส่วนการจัดการหนี้เสียของ บริษัท สหวิริยาสตีล อินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ SSI ล่าสุด แผนงานมีความคืบหน้าไปค่อนข้างมากแล้ว ศาลได้มีการรับเรื่องดังกล่าวเรียบร้อย ขณะนี้อยู่ระหว่างทำแผนงานให้แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าแผนงานดังกล่าวจะเป็นรูปธรรมอย่างเร็วสุดคือภายในปลายปีนี้และอย่างช้าสุดคือช่วงต้นปีหน้า

นางอรนุช กล่าวต่อว่า หากแผนงานดังกล่าวเรียบร้อยก็จะส่งให้ศาลพิจารณาและเดินหน้าตามแผนงานต่อไป ส่วนแผนงานดังกล่าว ทางสหวิริยา สตีล เป็นผู้วางแผนและบริหาร เนื่องจากบริษัทสหวิริยาสตีล จะรู้สภาพธุรกิจและตลาดดีที่สุด ส่วนเจ้าหนี้จะยู่ในฝั่งโครงสร้างการเงินในการควบคุมเม็ดเงินที่นำมาใช้ในแผนงานให้เกิดประสิทธิภาพและมีความเสี่ยงน้อยที่สุด

 อย่างไรก็ตาม กลุ่มทิสโก้ยังคงมั่นใจในธุรกิจของบริษัทสหวิริยาสตีล ในประเทศไทยที่ยังสามารถเดินต่อไปได้

สำหรับยอดหนี้รวมของสหวิริยาสตีล ที่มีอยู่กับกลุ่มธนาคารพาณิชย์เจ้าหนี้รายใหญ่ 3 ราย มีมูลค่ารวมประมาณ 5 หมื่นล้านบาท โดยเป็นหนี้ในส่วนของธนาคารไทยพาณิชย์ ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท , ธนาคารกรุงไทย ประมาณ 2.2 หมื่นล้านบาท และธนาคารทิสโก้ ประมาณ 4.4 พันล้านบาท โดยแต่ละธนาคารได้ทำการกันสำรองเงินสินเชื่อที่ให้แก่ สหวิริยาสตีล จนครบถ้วนเพื่อรับมือกับสถานการณ์นี้แล้ว