คสช.ชี้ 'แอมเนสตี้' รับข้อมูลด้านเดียว

คสช.ชี้ 'แอมเนสตี้' รับข้อมูลด้านเดียว

คสช.ชี้ "แอมเนสตี้" รับข้อมูลด้านเดียว หลังจวกรบ.ปิดกั้นแสดงความเห็นร่างรธน. ลั่นรบ.ไม่เคยปิดกั้นปชช.แสดงความเห็นร่างรธน.ที่อยู่ในกรอบกม.

พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล โดยนายซาลิล เช็ตตี้ เลขาธิการแอมเนสตี้ ส่งจดหมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. โดยแสดงข้อกังวลด้านสิทธิมนุษยชนโดยอ้างถึงการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนก่อนลงประชามติ ว่า อาจเกิดจากไม่เข้าใจ และได้รับข้อมูล ข้อเท็จจริงของประเทศไทยไม่เพียงพอ หรือรับข้อมูลด้านเดียว เพราะการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับร่าง รธน. จะเป็นไปในทางใดก็ตามแม้กระทั่งความเห็นแย้ง ก็ย่อมสามารถทำได้ถ้าอยู่ในกรอบกฎหมาย มีหลายๆคนได้ใช้โอกาสช่วงที่ผ่านมาแสดงความคิดเห็นให้สังคมได้ทราบกันมาตลอด คงไม่ได้มีลักษณะที่จะปิดกั้นอะไร พ.อ.วินธัย กล่าวว่า ส่วนกรณีความพยายามเรียกร้องให้ยกเลิกการดำเนินคดีต่างๆ นั้น ต้องเข้าใจว่าการรักษากฎหมายของเจ้าหน้าที่นั้นยึดหลักสากล โดยส่วนหนึ่งคือการดูแลป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดกันและกันของผู้คนในสังคมด้วย ส่วนกรณีมีการดำเนินการต่อบางบุคคลที่ถือว่าเป็นส่วนน้อยมากของสังคมที่ได้ฝ่าฝืนกฎหมายและกติกาสังคมในลักษณะเชิงตั้งใจหรือมีนัยยะแฝง ถือเป็นการดำเนินการตามความจำเป็นที่ปรากฏตามพยานหลักฐานทั้งสิ้น โดยเฉพาะเมื่อมีการถูกร้องทุกข์เข้ามา ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ก็จะดำเนินการแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อระมัดระวังไม่ให้การดำเนินการต่างๆ จะถูกผู้ไม่หวังดีหยิบยกนำไปบิดเบือนใช้เป็นเงื่อนไขมาลดความน่าเชื่อถือ คสช. และรัฐบาล ซึ่งกรณีมีการตั้งข้อกล่าวหาแล้วทุกคนก็สามารถใช้สิทธิ์ไปแก้ต่างแสดงความบริสุทธิ์ได้ตามช่องทางกระบวนการ

“ ปัจจุบันเริ่มมีเสียงจากสังคมในความกังวลต่อท่าทีการแสดงออกขององค์กรต่างประเทศบางองค์กร ทำให้ข้อมูลและการนำเสนออะไรที่ออกมาในระยะหลัง อาจดูไม่ค่อยมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือเหมือนในอดีต อาจด้วยเพราะทัศนคติแนวคิดตามแบบธรรมเนียมเดิมๆ ประกอบกับคุณภาพของข้อมูลที่ดูยังไม่ค่อยครบถ้วน ซึ่งเชื่อว่ามีหลายหน่วยงานในประเทศไทยที่เกี่ยวข้องกับการให้ข้อมูลข้อเท็จจริงต่างๆ มีความพร้อมที่จะสนับสนุนข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือให้ได้ ” พ.อ.วินธัย กล่าว