'ไพบูลย์'เดินหน้าแผน'แม่น้ำโขงปลอดภัย'ปราบยาเสพติด

'ไพบูลย์'เดินหน้าแผน'แม่น้ำโขงปลอดภัย'ปราบยาเสพติด

"ไพบูลย์" ใช้แผนปฏิบัติการ “แม่น้ำโขงปลอดภัย” เดินหน้าปราบยาเสพติด

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทย พร้อมด้วยพลเอก นิวัตร มีนะโยธิน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. นายเพิ่มพงษ์ เชาวลิต ที่ปรึกษา สำนักงาน ป.ป.ส. พลตำรวจโท ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พลตำรวจโท เรวัช กลิ่นเกษร ผู้บัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด พันตำรวจเอก ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พลตำรวจตรี ประหยัชว์ บุญศรี รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พันเอก วัชรพงศ์ แก้วแจ้ง เสนาธิการกองกำลังผาเมือง

นายแพทย์ วิโรจน์ วีรชัย ผู้อำนวยการสถานบำบัดรักษาและฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดแห่งชาติบรมราชชนนี และผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางเยือนสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ตามคำเชิญของ พลโท จ่อ ส่วย (H.E Lt. Gen. Kyaw Swe) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยมี พลโท เย อ่อง (H.E. Lt Gen. Ye Aung) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการชายแดน และดร.มิ้นท์ ทวย (H.E. Dr. Myint Htwe) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขให้การต้อนรับและร่วมหารือข้อราชการด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตามแผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา

พล.อ. ไพบูลย์ กล่าวว่าการหารือกับพลโท จ่อ ส่วย (H.E Lt. Gen. Kyaw Swe) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และพลโท เย อ่อง (H.E. Lt Gen. Ye Aung) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกิจการชายแดนในครั้งนี้ มีประเด็นที่สำคัญ คือ ความร่วมมือในการดำเนินงานตามยุทธศาสตร์ปิดล้อมสามเหลี่ยมทองคำ ตามแผนปฎิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย 3 ปี (2559-2561) ทั้งการสกัดกั้นเคมีภัณฑ์ไม่ให้เข้าสู่แหล่งผลิต และการสกัดกั้นยาเสพติดที่ผลิตในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำไม่ให้หลุดออกไปจำหน่ายยังต่างประเทศ รวมถึงการสนับสนุนเพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของหน่วยปราบปรามยาเสพติดเมียนมา ซึ่งฝ่ายไทยยินดีให้การสนับสนุน

โดยขอให้จัดทำเป็นแผนความช่วยเหลือต่อเนื่อง 3 ปี ให้ครอบคลุมทั้งด้านการสืบสวน ปราบปราม สกัดกั้น ตรวจพิสูจน์ และการพัฒนาเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ยังรวมถึงการขยายความร่วมมือในการพัฒนาหมู่บ้านตามแนวชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ การสนับสนุนโครงการพัฒนาทางเลือกเพื่อชีวิตและความเป็นอยู่ที่ยั่งยืนไทย-เมียนมา และความร่วมมือในการพัฒนาพื้นที่ในเมียนมาที่รัฐบาลไทยให้การสนับสนุน และแนวนโยบายของประเทศไทยต่อการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามแนวทางจากการประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยพิเศษว่าด้วยปัญหายาเสพติดโลก UNGASS 2016 รวมถึงการจัดตั้งคณะทำงานประสานงานร่วมกัน และในส่วนของการหารือกับ ดร. มิ้นท์ ทวย (H.E. Dr. Myint Htwe) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขนั้น ยืนยันว่าฝ่ายไทยยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนด้านการบำบัดรักษา ทั้งด้านวิชาการ ด้านปฏิบัติการ เช่น การฝึกอบรมบุคลากร งบประมาณ ภายใต้โครงการหมู่บ้านคู่ขนานตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา

นายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวว่า "พล.อ. ไพบูลย์ ให้ความสำคัญกับการหารือข้อราชการครั้งนี้ภายใต้รัฐบาลใหม่นำโดยพรรคสันนิบาตแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับความร่วมมือจากสาธารณรัฐแห่งเมียนมาเป็นอย่างดีมาโดยตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งความร่วมมือ ภายใต้ "โครงการแม่น้ำโขงปลอดภัย" ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งขณะนี้เข้าสู่ระยะที่ 3 (ปี 2559-2561) โดยโครงการดังกล่าวได้ยกระดับความร่วมมือจาก 4 ประเทศเพิ่มเป็น 6 ประเทศ ประกอบด้วย สาธารณรัฐประชาชนจีน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา ประเทศไทย ราชอาณาจักรกัมพูชา และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

เนื่องจากพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำถือเป็นพื้นที่แหล่งผลิตยาเสพติดที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก จากการประมาณการปริมาณยาเสพติดที่มีการลักลอบผลิตในพื้นที่นี้ ในแต่ละปีมีการผลิตยาเสพติดเป็นจำนวนมาก โดยมีการใช้สารตั้งต้น เคมีภัณฑ์ในการผลิตมากกว่า 3,000 ตัน ยาเสพติดที่หลุดรอดไปได้ส่งผลในการทำลายทรัพยากรบุคคล และสังคมในหลายประเทศทั่วโลก จนเป็นภัยคุกคามต่อมนุษยชาติในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้ แผนปฏิบัติการแม่น้ำโขงปลอดภัย 6 ประเทศ ระยะ 3 ปี จึงมุ่งหมายสูงสุดที่จะลดปัญหายาเสพติดในภูมิภาคด้วยการผนึกกำลังร่วมกัน มีการกำหนดมาตรการและแนวทางดำเนินงานทั้งในเรื่องการป้องกัน ปราบปราม และการควบคุมสารตั้งต้น เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาการผลิตและการค้ายาเสพติดในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลโดยตรงต่อการแก้ไขปัญหายาเสพติดของประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านต่อไป"