ส่งคืนกระเป๋าเงิน ปธ.ธนาคารแห่งชาติกัมพูชา

ที่อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.อัครเดช เกตุเอี่ยม รอง ผบก.1ทท.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวกองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ร่วมกันนำทรัพย์สินซึ่งเป็นกระเป๋าสตางค์ภายในมีเงินสดสกุลต่างๆคิดเป็นเงินไทยแล้วกว่า 2 หมื่นบาท และบัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต โกลการ์ดหลายใบ มามอบส่งคืนให้กับ นายชู วันนัก (chou vannak )อายุ 44 ปี ประธานธนาคารแห่งชาติกระทรวงการคลังและเศรษฐกิจ (deputy Director General of ministry of Economy and finace) ประเทศกัมพูชาและภรรยา ที่ยืนรอเช็คอินอยู่ที่หน้าเคาเตอร์ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์เพื่อขึ้นเครื่องเดินทางกลับประเทศกัมพูชา เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงและได้ส่งมอบกระเป๋าสตางค์และทรัพย์สินคืนให้ เจ้าตัวถึงกับดีใจพร้อมทั้งยกมือไหว้ขอบคุณตำรวจท่องเที่ยวไทยที่นำกระเป๋าทรัพย์สินมาคืนให้

พ.ต.อ.อัครเดช กล่าวว่า เมื่อวันที่ 26 ก.ค. ที่ผ่านมาได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่ทหารด้านความมั่นคง ที่ประจำจุดตรวจด่านความมั่นคงประจำการอยู่ที่ถนนราชดำเนินว่า ได้ตรวจพบกระเป๋าสตางค์ของนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและทรัพย์สินตกอยู่ในรถแท็กซี่คันหนึ่ง ขอให้ประสานให้ตำรวจท่องเที่ยวประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิช่วยติดต่อหาตัวผู้เสียหายให้มารับทรัพย์สินคืน พร้อมทั้งนำทรัพย์สินทั้งหมดของผู้เสียหายมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สมุทรปราการ และส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ติดตามตัวผู้เสียหาย

จนกระทั่งวานนี้ (27 ก.ค.) ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ว่า ผู้เสียหายที่ทำทรัพย์สินตกในรถแท็กซี่ได้เดินทางมาเช็คอินเพื่อเดินทางกลับประเทศกัมพูชา เจ้าหน้าที่ตำรวจท่องเที่ยวท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจึงได้นำเอาทรัพย์สินทั้งหมดเดินมาคืนให้ผู้เสียหายที่บริเวณหน้าเคาเตอร์สายการบินบางกอกแอร์เวย์ โดยสร้างความประทับใจให้แก่ผู้เสียหายอย่างมาก

ด้านนายชู วันนัก ประธานธนาคารแห่งชาติ กระทรวงการคลังและเศรษฐกิจของ ประเทศกัมพูชา กล่าวผ่านล่ามว่า ตนและภรรยาเดินทางเข้ามาประเทศไทย บ่อยครั้งและในครั้งนี้เดินทางเข้ามาพบแพทย์ตามนัดในกรุงเทพมหานคร แต่ในวันที่เดินทางมาถึงประเทศไทยวันแรกก็ได้ว่าจ้างแท็กซี่ให้ไปส่งแต่ทำกระเป๋าตกไว้ในรถแท็กซี่ ซึ่งไม่คิดว่าจะได้คืนเพราะจำทะเบียนแท็กซี่ไม่ได้ จึงไม่ได้แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งในวันนี้ตนและภรรยากำลังจะเดินทางกลับก็ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่สายการบินว่าจะมีตำรวจนำทรัพย์สินมาคืนให้ ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ต้องขอบคุณและชื่นชมตำรวจไทยที่ให้ความเชื่อมั่นและความอบอุ่นต่อ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยเฉพาะตนและภรรยาซึ่งตนเองรับปากว่าจะนำเรื่องราวดีๆในครั้งนี้กลับไปประชาสัมพันธ์ให้กับพลเมืองของประเทศตนทราบต่อไป