ตร.เตือน 'นักขี่-คนซ้อน' เมินใส่หมวกกันน็อค โดนจับ-ปรับแน่

ตร.เตือน 'นักขี่-คนซ้อน' เมินใส่หมวกกันน็อค โดนจับ-ปรับแน่

ตร.เตือน “นักขี่-คนซ้อน” เมินใส่หมวกกันน็อค เจอฝ่าฝืนผู้ขับโดนจับ-ปรับแน่ พบยอดปี 58 ดับกว่า 500 ราย เจ็บทะลุ 3.3 หมื่นคน

ที่ห้องรัตนโกสินทร์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร(กทม.) นายสุธน อาณากุล รองผู้อำนวยการสำนักจราจรและขนส่ง กทม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล นางนันทนา เมษประสาท ผู้แทนศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) นางแคลลี่ ลาร์สัน ผู้อำนวยการแผนงานโครงการเสริมสร้างความปลอดภัยบนท้องถนนแลพนางแซนดร้า มูลิน รองประธานอาวุโสฝ่ายนโยบาย การขับเคลื่อนและการสื่อสาร มูลนิธิบลูมเบิร์กเพื่อสาธารณประโยชน์ ร่วมแถลงข่าวรณรงค์การสวมหมวกนิรภัยและการออกแบบเมืองที่ปลอดภัย ซึ่งกทม.ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาล และมูลนิธิบลูมเบิร์กเพื่อสาธารณะประโยชน์ จัดขึ้นเพื่อรณรงค์ส่งเสริมให้ประชาชนสวมหมวกนิรภัยและล็อคสายรัดทุกครั้ง เพื่อลดการบาดเจ็บที่รุนแรงและเสียชีวิต 

นายสุธน กล่าวว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนทำให้ผู้คนสูญเสียชีวิตมากกว่า 1 ล้านคนทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างในกลุ่มผู้ที่ใช้รถจักรยานยนต์ เป็นกลุ่มที่เสียชีวิตมากที่สุด โดยจากข้อมูลเมื่อปี 2558 พบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการขับขี่รถจักรยานยนต์มากถึง 564 ราย และบาดเจ็บมากถึง 33,295 ราย กทม.จึงได้จัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อให้ประชาชนเห็นความสำคัญและสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งและสวมอย่างถูกต้องเพื่อความปลอดภัย โดยดำเนินงานการรณรงค์ควบคู่กับกิจกรรมการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งจะเผยแพร่สื่อรณรงค์ผ่านช่องทางต่างๆ โดยขอความร่วมมือจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาลเพิ่มความเข้มข้นในมาตรการการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับการสวมหมวกนิรภัย

ด้านพล.ต.ต.อดุลย์ กล่าวว่า ปัญหาอุบัติเหตุบนท้องถนนในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงในการที่จะได้รับบาดเจ็บและสูญเสียชีวิตมากที่สุด อย่างไรก็ตามจะสามารถลดความเสี่ยงที่จะเกิดความรุนแรงได้โดยทุกครั้งที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัย ไม่เพียงแต่ผู้ขับขี่เท่านั้น แต่ผู้โดยสารที่ซ้อนท้ายก็ต้องสวมหมวกนิรภัยและล็อคสายรัดให้แน่นทุกครั้ง ซึ่งตำรวจได้ให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง ส่วนมาตรการด้านกฎหมายนั้น ได้มีการบังคับใช้กฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์และผู้โดยสารต้องสวม หมวกนิรภัย เพื่อป้องกันอันตรายในขณะขับขี่และโดยสารรถจักรยานยนต์ ซึ่งหากมีการฝ่าฝืน จะต้องโทษปรับไม่เกิน 500 บาท โดยห้ามมิให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ขับขี่รถ ในขณะที่ผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย หากฝ่าฝืนผู้ขับขี่จักรยานยนต์จะถูกปรับเป็น 2 เท่าของโทษที่กำหนด

“กองบัญชาการตำรวจนครบาลจะร่วมสร้างระเบียบวินัยจราจรโดยกวดขันให้ประชาชนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในพื้นที่กรุงเทพฯ ต้องสวมหมวกนิรภัยทั้งผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และจะมีการรณรงค์เพื่อให้ประชาชนได้ทราบถึงข้อกฎหมายและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดด้วย” พล.ต.ต.อดุลย์ กล่าว