หุ้น‘มาสเตอร์คูล’วิ่งทำนิวไฮ

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้นบริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน) วานนี้ (26ก.ค.) ปิดการซื้อขายที่ 4.78 บาท ซึ่งเป็นราคาซื้อขายสูงสุดตั้งแต่เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เมื่อวันที่ 23 ก.ย. 2558 โดยคิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.98 บาท หรือ 25.79% มูลค่าการซื้อขาย 449.16 ล้านบาท

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประกาศรายชื่อหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 1 : Cash Balance คือ บริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) KOOL มีผลตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค. -15 ส.ค. 2559

นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าวว่า วานนี้มีแรงเก็งกำไรในหุ้นบริษัท มาสเตอร์คูล อินเตอร์เนชั่นแนล ทำให้ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมากสุดในกระดานซื้อขายตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ขณะเดียวกัน มูลค่าการซื้อขายก็ค่อนข้างหนาแน่น ประเมินว่าเป็นแรงเก็งกำไรที่ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากก่อนหน้ามีการคาดการณ์จากโบรกเกอร์ตลอดเดือนก.ค.ว่าหุ้นมาสเตอร์คูลมีโอกาสถูกแคชบาลานซ์

ขณะเดียวกัน ยังมีการให้ข้อมูลจากผู้บริหารว่าบริษัทปรับเป้ารายได้ปีนี้โตเพิ่มเป็น 50% จากเดิมที่คาดโต 40% และปรับประมาณการอัตรากำไรสุทธิปีนี้เป็น10% หลังจากสภาพอากาศในประเทศร้อนจัดทำให้พัดลมไอเย็นกระแสตอบรับดี ขณะที่ไตรมาส 3-4 เตรียมรุกตลาดส่งออกหลังคำสั่งซื้อเริ่มมาต่อเนื่อง ทั้งตลาดเอเชีย และ ตลาดในประเทศซีกโลกใต้

ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส1 ปี2559 บริษัทมีรายได้รวม 228.69 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.68% จากงวดเดียวกันปีที่แล้วที่มีรายได้รวม 141.44 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 16.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 403.92% จากงวดเดียวกันปีที่แล้วที่ขาดทุนสุทธิ 6.31 ล้านบาท โดยรายได้เพิ่มขึ้นตามยอดขายที่ขยายตัว จากกลุ่มพัดลมไอเย็น รวมทั้งสัดส่วนการส่งออกที่เพิ่มขึ้น และการร่วมมือกับลูกค้ารายใหญ่อย่างกลุ่มบริษัท ซิงเกอร์(ประเทศไทย) ทำให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ขณะที่บริษัทมีความสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ และการบริหารความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนแบบปิดอัตราความเสี่ยงทั้งหมด ทำให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น ทำให้อัตรากำไรเพิ่มขึ้น