‘พีดับบลิวซี’ชี้โฆษณาออนไลน์ไทยโตสูงเบอร์2อาเซียน

‘พีดับบลิวซี’ชี้โฆษณาออนไลน์ไทยโตสูงเบอร์2อาเซียน

พีดับบลิวซี เผยผลสำรวจ “โฆษณาออนไลน์”ไทยโตอันดับ 2 ของอาเซียน คาดปี63 มูลค่าทะลุ 3 พันล้านบาท

นางณฐพร พันธุ์อุดม หุ้นส่วนสายงานตรวจสอบบัญชี บริษัท PwC ประเทศไทย  หรือ ไพร้ซวอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส เปิดเผยว่าผลสำรวจทิศทางอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงทั่วโลกระหว่างปี 2559-2563 (Global entertainment and media outlook 2016-2020) พบว่าโฆษณาออนไลน์ (Internet advertising) ยังเป็นธุรกิจที่เติบโตมากที่สุดในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงของไทย 

จากผลสำรวจพบว่ามูลค่าการใช้จ่ายผ่านโฆษณาออนไลน์ของไทยเติบโตอย่างรวดเร็วเป็นประวัติการณ์ โดยคาดการณ์ในปี 2563 มูลค่าการใช้จ่ายผ่านโฆษณาออนไลน์จะอยู่ที่ 3,100 ล้านบาท เติบโต 117% จากคาดการณ์ปี 2559 ที่ 1,400 ล้านบาท ขณะที่อัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีของตลาดโฆษณาออนไลน์ไทยในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2559-2563) อยู่ที่ 22.5%

“ไม่น่าแปลกใจที่ตลาดโฆษณาออนไลน์ของไทยจะเติบโตอย่างโดดเด่นมากในช่วง 5 ปีต่อจากนี้ เพราะจำนวนคนไทยที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้น จึงทำให้ธุรกิจต่างๆ หันมาสนใจทำโฆษณาผ่านออนไลน์มากขึ้น อีกทั้งเป็นสื่อที่ใช้งบน้อยกว่า แต่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้รวดเร็วและมากกว่าสื่ออื่น" 

นอกจากนี้ ลูกเล่นใหม่ๆ บนสื่อสังคมออนไลน์อย่างการรับสื่อแบบ Live กำลังได้รับความนิยม เพิ่มความน่าสนใจให้กับตลาด และยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้าอีกด้วย

จากข้อมูลไตรมาสแรกปีนี้ ของสมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) พบว่าปัจจุบันไทยมีผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต (Internet users) จำนวนทั้งสิ้น 38 ล้านคน คิดเป็น 56% ของจำนวนประชากรทั้งหมด และมีผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social network users) สูงถึง 41 ล้านคน โดย 3 อันดับเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่คนไทยนิยมสูงสุด ได้แก่ เฟซบุ๊ค 92.1% ตามด้วย ไลน์ 85.1% และ กูเกิล 67%

อย่างไรก็ดีตลาดโฆษณาออนไลน์ของไทยยังมีโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผลสำรวจของพีดับบลิวซี ระบุว่าปัจจุบันอัตราการใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านสาย (Fixed-line broadband penetration) อยู่ที่ 28% หากใน 5 ปีข้างหน้าธุรกิจโฆษณาทางอินเทอร์เน็ตมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยตามตัวเลขคาดการณ์ข้างต้น ในขณะนั้นอัตราการใช้อินเทอร์เน็ตจะครอบคลุมมากกว่า 1 ใน 3 ของครัวเรือนไทยทั้งหมด

หลังจากที่ผู้ประกอบการของไทยเริ่มทยอยเปิดให้บริการ 4G อย่างเต็มรูปแบบช่วงต้นปี 2559 ในอัตราค่าบริการที่ใกล้เคียงกับระบบ 3G จะทำให้จำนวนผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือความเร็วสูงเป็น 41.4% ของผู้ใช้บริการที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตบนมือถือทั้งหมด และผลักดันให้รายได้ในการให้บริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือเพิ่มขึ้นจาก 21,000 ล้านบาท เป็น 32,000 ล้านบาทในปี 2563

      นางณฐพร กล่าวเพิ่มเติมว่าหากเปรียบเทียบอัตราการเติบโตของมูลค่าการใช้จ่ายผ่านโฆษณาออนไลน์ของไทยกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนแล้ว พบว่าไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยอยู่ในอันดับที่ 2 รองจากอินโดนีเซีย ที่มีอัตราเติบโตเฉลี่ยที่ 35.2% ตามด้วยอันดับ 3 คือ เวียดนามที่เติบโตเฉลี่ย 18% อันดับ4 ได้แก่ สิงคโปร์ ที่เติบโตเฉลี่ย 15.5% อันดับ5 ฟิลิปปินส์ ที่เติบโตเฉลี่ย 14.8% และอันดับ6  มาเลเซีย ที่เติบโตเฉลี่ย 13.9%

“ด้วยขนาดตลาดออนไลน์ของไทยที่ยังเล็กเมื่อเปรียบเทียบกับประเทศอื่นๆ ในกลุ่มอาเซียน บวกกับความนิยมชมชอบสังคมออนไลน์ของคนไทย ทำให้ตลาดในบ้านเรายังมีศักยภาพในการเติบโตอีกมากในอนาคต”

นอกจากนี้ แนวโน้มการเติบโตของตลาดโฆษณาออนไลน์ของไทยถือว่าเป็นไปในทิศทางเดียวกับอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงของโลก โดยพีดับบลิวซี คาดการณ์ว่าใน 5 ปีข้างหน้า ตลาดโฆษณาออนไลน์โลกจะเติบโตเฉลี่ยที่ 11.1% ถือเป็นธุรกิจที่มีอัตราการเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับสื่อประเภทอื่น หรือคิดเป็นมูลค่าถึง 9.1 ล้านล้านบาทในปี 2563

ทั้งนี้ ภาพรวมการใช้จ่ายด้านสื่อและบันเทิงของไทยในช่วง 5 ปีข้างหน้า จะเติบโตเฉลี่ย 5% โดยคาดว่ามูลค่าการใช้จ่ายผ่านสื่อและบันเทิงของไทยในปี 2563 จะอยู่ราว 4 แสนล้านบาท นอกจากธุรกิจโฆษณาออนไลน์ และการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตจะเป็นตัวหลักช่วยหนุนการเติบโตแล้ว ธุรกิจทีวีและวีดิโอยังเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ช่วยผลักดันยอดการใช้จ่ายในอนาคต คาดว่าในช่วง 5 ปีข้างหน้า มูลค่าตลาดนี้จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ 14.6% หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 4.4 หมื่นล้านบาท โดยได้รับอานิสงส์หลักจากธุรกิจเคเบิลทีวี  หรือธุรกิจโทรทัศน์เก็บค่าสมาชิก (TV Subscription)