พีดีเฮ้าส์‘รีแบรนด์-รีไพรซ์’หลังตลาดครึ่งหลังซึม

นายพิศาล ธรรมวิเศษ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีดีเฮ้าส์ คอร์ปเรชั่น จำกัด หรือศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านทั่วประเทศช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีการแข่งขันราคารุนแรง เนื่องจากตลาดไม่ฟื้นตัว ประกอบกับบางพื้นที่มีคู่แข่งเพิ่มขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อมเพิ่มขึ้น อาทิ บริษัทรับสร้างบ้าน บ้านจัดสรรในท้องถิ่นและจากส่วนกลาง ที่มีการขยายตลาดในหลายจังหวัด

“กำลังซื้อผู้บริโภคมีเท่าเดิม ยอดขายจึงถูกแชร์มากขึ้น ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มีรายได้ต่ำกว่าเป้า”

โดยบริษัทมียอดขายครึ่งปีแรก 620 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 10% จากที่ตั้งไว้ 700 ล้านบาท ดังนั้น ในครึ่งปีหลังจึงปรับแผนการตลาดให้สอดคล้องภาวะเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เปลี่ยนไป เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดในทำเลใหม่ และเข้าถึงผู้บริโภคเป้าหมายกลุ่มใหม่มากขึ้น

ทั้งนี้จะมีการปรับเปลี่ยนทำเล (Re-Location) หรือย้ายสำนักงานในตลาดที่เริ่มอิ่มตัว แข่งขันสูง หรือมีสาขาบริการอยู่ใกล้กันและดึงลูกค้าระหว่างกัน เช่น สาขาพระราม 2 อยู่ใกล้สาขากาญจนาภิเษก -ตลิ่งชัน รวมทั้งปรับสาขาที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากนโยบายรัฐจากการจัดเก็บภาษีบ้านหลังที่ 2 เพราะประเมินว่าอนาคตตลาดรับสร้างบ้านในพื้นที่ดังกล่าวจะไม่เติบโต อาทิ สาขาปากช่อง เขาใหญ่

บริษัทยังเตรียมปรับราคาขายบ้านลง (Re-Price) เพราะบริหารต้นทุนได้ต่ำลง จากการรวมคำสั่งซื้อ การนำระบบก่อสร้างและวัสดุสำเร็จรูปมาใช้มากขึ้น ช่วยลดเวลาและต้นทุนค่าก่อสร้าง สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันสอดคล้องกำลังซื้อผู้บริโภคที่มีอยู่จำกัด

อย่างไรก็ดี ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีหลังคาดปรับตัวดีขึ้น จากภาวะเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นผู้บริโภคมีมากขึ้น บริษัทมั่นใจว่าจทำยอดขายได้ตามเป้าหมาย 1,400 ล้านบาท

สำหรับ การประกาศใช้กฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างฉบับใหม่ในปี 2560 เชื่อว่ามีผลด้านบวกต่อภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้าน โดยเฉพาะการเก็บภาษีที่ดินรกร้างว่างเปล่าแบบอัตราก้าวหน้า ปีที่ 1-3 อัตราเรียกเก็บภาษีสูงสุด 1% ปีที่ 4-6 เรียกเก็บ 2% ปีที่ 7 เป็นต้นไป เรียกเก็บ 3% หากประชาชนถือครองที่ดินเปล่าไว้นานจะเสียภาษีสูงขึ้นหากไม่นำที่ดินมาใช้ประโยชน์ นโยบายดังกล่าวกระตุ้นให้เจ้าของที่ดินเปล่าทั้งเขตกรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดใกล้เคียง ปลูกสร้างบ้านหรือใช้ประโยชน์ที่ดินมากขึ้น