โลกร้อน ทะเลรวน

โลกร้อน ทะเลรวน

ภาวะโลกร้อนกระทบไปถึงสิ่งมีชีวิตทุกหย่อมหญ้าจริงๆ ไม่พ้นแม้แต่สิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้ท้องทะเล

นักวิทย์ศาสตร์ขั้วโลกออกมาระบุแล้วว่า ภาวะโลกร้อนกระทบทะเลรุนแรง และกินพื้นที่จากขั้วโลกใต้มาจนถึงประเทศไทย ซึ่งกลุ่มปะการังใหญ่ที่ออสเตรเลียโดนหนักที่สุด ส่วนปะการังที่เพาะแบบอาศัยเพศในเมืองไทยยังแข็งแรงอยู่


รองศาสตราจารย์ ดร. สุชนา ชวนิชย์ รองผู้อำนวยการศูนย์บริการวิชาการแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนักวิทยาศาสตร์หญิงไทยคนแรกผู้ศึกษาวิจัยทางทะเลที่ขั้วโลกใต้ เปิดเผยว่า จากการศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบของภาวะโลกร้อนที่มีต่อระบบนิเวศทางทะเลที่ขั้วโลกใต้ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ภายใต้โครงการวิจัยขั้วโลกตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และภายใต้โครงการของ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) พบว่า ไม่เพียงน้ำแข็งขั้วโลกจะละลายเท่านั้น แต่ระบบนิเวศทางทะเลที่ขั้วโลกใต้ก็เริ่มได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนมากขึ้นเช่นกัน


ล่าสุดในปีนี้ กลุ่มของ รศ.ดร.สุชนา พร้อมด้วยเครือข่ายนักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่นและจีนไปร่วมสำรวจขั้วโลกใต้ ที่ร่วมศึกษาและติดตามสถานการณ์ภาวะโรคร้อนอย่างใกล้ชิด พบว่า การที่อุณหภูมิในน้ำทะเลสูงขึ้นและน้ำแข็งที่ขั้วโลกละลายมากขึ้น มีผลกระทบต่อเพนกวิน ทำให้อัตราการรอดของลูกเพนกวินลดลงกว่าเดิมมาก


ขณะเดียวกัน พบว่า มีพยาธิบนตัวปลาและในตัวปลาขั้วโลกมากขึ้น แสดงให้เห็นว่ามีเชื้อโรคสูงขึ้น เมื่ออุณหภูมิน้ำทะเลสูงขึ้นกว่าปกติมากเท่าไรโอกาสที่จะมีพยาธิหรือเชื้อโรคบนตัวสัตว์ทะเลจะเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น โดยปริมาณพยาธิที่เพิ่มอาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการว่ายน้ำและการกินอาหารของปลา และอาจทำให้ปลาตายในที่สุด


“ภาวะโลกร้อนนั้นไม่ได้มีผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลในเขตขั้วโลกเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลในเขตบ้านเราด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งปะการัง จากการตรวจติดตามของทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งการสำรวจของทีมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย พบว่า มีปะการังฟอกขาวเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั้งอ่าวไทยและอันดามันดังที่เป็นข่าวมาก่อนหน้านี้”


สำหรับในส่วนของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นักวิทย์สาวไทย กล่าวว่า ได้มีการสำรวจอย่างใกล้ชิดที่บริเวณเกาะแสมสาร พบว่า ปะการังเริ่มมีการฟอกขาวประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ถือว่ามีการฟอกขาวในปริมาณที่น้อยกว่าแนวปะการังในพื้นที่ฝั่งอันดามัน และอุณหภูมิน้ำทะเลขณะนี้สูงประมาณ 33.9 องศาเซลเซียส สูงกว่าปกติอยู่ประมาณ 3 -4 องศา ก็ต้องมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด


“การฟอกขาวของปะการังในประเทศอื่นๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในขณะนี้ โดยเฉพาะในบริเวณของเกรตแบริเออร์รีฟ ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งเป็นแนวปะการังที่ยาวที่สุดบนพื้นโลกและได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก ตอนนี้มีการฟอกขาวอยู่ในขั้นรุนแรงเมื่อเทียบกับปีก่อนๆ เนื่องจากภาวะโลกร้อนที่ทำให้อุณหภูมิของน้ำทะเลสูงขึ้น ทำให้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของปะการังที่เกรตแบริเออร์รีฟฟอกขาว และในบางบริเวณมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของปะการังตาย”


รศ.ดร. สุชนา เพิ่มเติมว่า จากการศึกษาในช่วงที่ผ่านมาหลายปี และมีการฟื้นฟูปะการังบริเวณเกาะแสมสารบางส่วน โดยทำการเพาะปะการังแบบอาศัยเพศ จากการติดตาม พบว่าปะการังที่เพาะได้มีความทนทานและแข็งแรง ช่วงที่ผ่านมาสามารถที่จะทนต่อการฟอกขาวได้ นับว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะสามารถที่จะทำให้ปะการังบริเวณเกาะแสมสารนั้นมีความทนทานต่อการฟอกขาวมากขึ้น


แน่นอนว่า หากอุณหภูมิโลกยังสูงขึ้นเรื่อยๆ ทุกปี ปะการังและสิ่งมีชีวิตใต้ทะเลก็มีโอกาสตายหรือค่อยๆ พากันสูญพันธุ์ไปในไม่ช้า และเมื่อเวลานั้นมาถึง มนุษย์เองก็ต้องรับผิดชอบและยอมรับกับภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้น