กปน.พ้นวิกฤตแล้ง หลังฝนตกทำน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น

กปน.พ้นวิกฤตแล้ง หลังฝนตกทำน้ำในเขื่อนเพิ่มขึ้น

การประปานครหลวง เผยปี 59 พ้นวิกฤติน้ำแล้งแล้ว ประเทศเข้าสู่ฤดูฝน มีน้ำเพิ่มในเขื่อนมากขึ้น คาดอีก 2 สัปดาห์จะผลิตน้ำเต็มกำลัง

นายณรงค์ฤทธิ์ ศรีสถิตย์นรากูร รองผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) ฝ่ายผลิตและส่งน้ำ กล่าวว่า สถานการณ์น้ำดิบในขณะนี้ มีแนวโน้มดีขึ้น เนื่องจากมีปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อน มากกว่าปริมาณน้ำที่ปล่อยออกจากเขื่อน เพื่อนำมาใช้ เพราะช่วงนี้ประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว สถานการณ์แล้งจึงเริ่มคลี่คลายขึ้น ไม่มีผลกระทบต่อขบวนการผลิตน้ำ ของการประปา เพราะมีฝนตกลงมาเติมน้ำในเขื่อนอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 59 นี้ถือว่าพ้นวิกฤติน้ำแล้งไปแล้ว ดังนั้นคาดว่าอีกประมาณ 2 สัปดาห์ กปน.จะกลับมาผลิตน้ำประปาได้เต็มที่ เพราะที่ผ่านมา กปน.ประสบกับปัญหาน้ำเค็มรุกสูง ปริมาณน้ำดิบน้อยลง จึงจำเป็นต้องลดกำลังการผลิตในช่วงฤดูแล้งลงเหลือประมาณ 3.4 ล้านลูกบากศ์เมตร (ลบ.ม.) ต่อวันจากปกติที่เคยผลิตน้ำอยู่ที่ประมาณ 3.6 ล้านลูกบากศ์เมตรต่อวัน

หากสถานการณ์น้ำดิบเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ กปน.ก็จะกลับมาผลิตน้ำ ได้ในปริมาณเท่าเดิม แต่ในช่วงต้นฤดูฝน จะต้องเฝ้าระวังสาหร่ายน้ำที่อาจจะปนเปื้อนมาในน้ำดิบ เพราะน้ำฝนช่วงแรกจะชะล้างเอาน้ำขังมาด้วย ซึ่งอาจจะส่งผลให้น้ำด้อยคุณภาพ ดังนั้น กปน.จึงต้องระวังมากขึ้น

สำหรับการปล่อยแรงดันน้ำไปตามท่อส่งน้ำนั้น ที่ผ่านมา กปน.ได้ลดแรงดันน้ำในช่วงเวลากลางคืนลง แต่หากกลับมาผลิตน้ำได้ตามปกติ กปน.ก็จะปล่อยแรงดันน้ำในอัตราคงที่ได้ตลอดทั้งวันง ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับความสะดวกในการใช้น้ำประปามากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าน้ำในเขื่อนจะเพิ่มขึ้น แต่ประชาชนก็ยังคงต้องช่วยกันประหยัดน้ำ เพราะหากในปีนี้่ใช้น้ำอย่างสิ้นเปลือง จะส่งผลกระทบไปถึงหน้าแล้งในปี 60 ซึ่งก็จะทำให้อยู่ในสภาวะขาดแคลนน้ำ