สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 20-24 มิถุนายน 2559

สรุปภาวะตลาดเงินตลาดทุนรายสัปดาห์วันที่ 20-24 มิถุนายน 2559

“เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ ก่อนฟื้นตัวขึ้น ขณะที่ดัชนีหุ้นไทยร่วงลง หลัง UK เลือก “ถอนตัว” ออกจากสหภาพยุโรป”

สรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาท

- เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 2 สัปดาห์ที่ 35.53 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังรับรู้ผลการลงประชามติของ UK ที่เลือกจะออกจากสหภาพยุโรป (BREXIT) อย่างไรก็ดี เงินบาทลดช่วงอ่อนค่าลงบางส่วนก่อนปิดตลาดในช่วงท้ายสัปดาห์ หลังธนาคารกลางอังกฤษ และธนาคารกลางของอีกหลายๆ ประเทศ เข้าอัดฉีดสภาพคล่อง และแทรกแซงตลาด เพื่อลดความผันผวน สำหรับกระแสฟันด์โฟลว์ของไทยหลัง BREXIT นั้น นักลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิหุ้นและพันธบัตรไทย 784 ล้านบาท และ 1.66 พันล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งก็เป็นภาพที่สอดคล้องกับมุมมองของธปท.

- สำหรับในวันศุกร์ (24 มิ.ย.) เงินบาทกลับมายืนที่ 35.33 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 35.23 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (17 มิ.ย.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (27 มิ.ย.-1 ก.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 35.10-35.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยตลาดน่าจะยังคงติดตามผลกระทบต่อเนื่องจากกรณี BREXIT ท่าทีของผู้นำยุโรป มาตรการประคองสถานการณ์ของธนาคารกลางประเทศต่างๆ รวมถึงถ้อยแถลงของประธานเฟด ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ประกอบด้วย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนมิ.ย. ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย รายจ่ายด้านการก่อสร้าง รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคลเดือนพ.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนเม.ย. และจีดีพีประจำไตรมาส 1/2559 นอกจากนี้ นักลงทุนอาจติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน และประเทศชั้นนำอื่นๆ ด้วยเช่นกัน

สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

- ดัชนีหุ้นไทยร่วงลงในช่วงปลายสัปดาห์ หลัง UK โหวตออกจาก EU โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,413.19 จุด ลดลง 0.57% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 13.91% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 53,736.33 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 512.58 จุด ลดลง 2.13% จากสัปดาห์ก่อน

- ตลาดหุ้นไทยปรับเพิ่มขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ หลังผลสำรวจบ่งชี้ว่าฝ่ายที่หนุนให้สหราชอาณาจักรอยู่ในสหภาพยุโรป (EU) มีคะแนนนำอีกครั้ง ก่อนที่จะปรับลดลงในวันพุธ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน อย่างไรก็ดี ตลาดปรับฟื้นตัวตามตลาดหุ้นทั่วโลกในวันพฤหัสบดี ก่อนจะร่วงลงแรงในวันศุกร์ หลังUK เลือกที่จะออกจาก EU ซึ่งสร้างความปั่นป่วนต่อตลาดเงิน-ตลาดทุนทั่วโลก  

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (27-30 มิ.ย.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,395 และ1,375 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,420 และ 1,440 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การประชุมของผู้นำยุโรป รวมทั้งถ้อยแถลงของประธานเฟด ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ จีดีพีไตรมาส 1/2559 (รอบสุดท้าย) รายได้ส่วนบุคคล และเครื่องชี้ภาคการผลิต (Manufacturing PMI) ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจต่างประเทศที่สำคัญ คงได้แก่ ดัชนี PMI ของญี่ปุ่นและจีน