ชี้ปลดล็อค 'แอมเฟตามีน' เพื่อประโยชน์วงการแพทย์

"นพ.อภินันท์" ชี้ ปลดล็อค "แอมเฟตามีน" จากบัญชียาเสพติด เพื่อประโยชน์วงการแพทย์ เชื่อจะไม่เปิดช่องให้ใช้ยาอย่างเสรีอย่างแน่นอน
นพ.อภินันท์ อร่ามรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์วิชาการสารเสพติด ภาคเหนือ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนำสารเมทแอมเฟตามีน หรือ ยาบ้า ออกจากบัญชีสารเสพติดให้โทษว่า จะได้สามารถนำสารชนิดนี้มาใช้ในทางการแพทย์สำหรับผู้ป่วยโรคสมาธิสั้น หรือใช้ในทางที่เกิดประโยชน์ เช่น เพิ่มประสิทธิภาพการเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกร หรือการอ่านหนังสือสอบของนักศึกษา โดยในช่วงที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกก็ไม่ได้สนับสนุนให้ประเทศไทยห้ามการใช้ยาประเภทนี้ เพราะมองว่ามีประโยชน์
นพ.อภินันท์ กล่าวอีกว่า การแก้กฎหมาย จะจำแนกเป็น 3 กลุ่ม คือกลุ่มผู้ค้ารายใหญ่ กลุ่มผู้ใช้ยา และกลุ่มเหยื่อ ซึ่งกลุ่มผู้ค้ายารายใหญ่ จะมีการปราบปรามให้หมดเหมือนเดิม ส่วนกลุ่มผู้ใช้ยาจะมีการกำหนดบทลงโทษที่นอกเหนือจากการจำคุก โดยจะให้ศาลเป็นผู้พิจารณาในแต่ละกรณี ขณะที่กลุ่มเหยื่อคือ กลุ่มที่เสพยาเสพติดจำนวนน้อยจะต้องมีการทบทวนใหม่ เพราะที่ผ่านมาได้แต่ดำเนินคดี และลงโทษด้วยการจำคุก แต่พบว่า ไม่สามารถแก้ปัญหาได้อย่างแท้จริง และจากการศึกษาผลวิจัยพบว่า การแก้ปัญหายาเสพติด ไม่สามารถแก้ได้ด้วยกฎหมายอย่างเดียว เพราะมีสาเหตุหลักจากปัญหาทางสังคมด้วย นอกจากนี้ ผลการวิจัย ยังพบว่า ในสังคมที่มีทางเลือกจะมีอัตราของคนที่เสพยาน้อยกว่าสังคมที่ไม่มีทางเลือก ดังนั้น จึงต้องเปลี่ยนแนวทางการแก้ปัญหาด้วยการลดความเหลื่อมล้ำ และยกระดับบริการสาธารณสุขให้เข้าถึงผู้เสพสารเสพติดได้อย่างรวดเร็ว
ส่วนกรณีที่มีการกังวลว่า จะเกิดการเสพติดยาบ้าอย่างเสรี เหมือนการสูบบุหรี่ตามท้องถนน นั้น นพ.อภินันท์ กล่าวว่า ไม่ได้มีเจตนาที่เปิดเสรี และจะไม่มีภาพแบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน ส่วนรายละเอียดการควบคุมใช้ยังไม่มีความชัดเจน เนื่องจากกฎหมายยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา ซึ่งยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้แน่นอน เพราะยังต้องมีการศึกษาต่อในอีกระยะหนึ่ง โดยยังบอกไม่ได้ว่านานเท่าไหร่ และก่อนหน้านี้ มีการศึกษาข้อมูลมาแล้วเป็นเวลากว่า 3 ปี ทั้งจากประเทศที่มีการแก้ปัญหาในแนวทางนี้โดยตรง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นพ.อภินันท์ ยังกล่าวถึงประวัติของสารเสพติดชนิดนี้ ว่า นักวิชาการชาวตะวันตกเป็นผู้ผลิตขึ้นเพื่อใช้ในทางการทหาร และเมื่อสิ้นสุดสงครามก็นำมาใช้ในทางการแพทย์จนถึงปัจจุบัน โดยต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์







